เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 443

บทที่ 443 ลบไปจากตำราไม้ไผ่

“เผ่ามนุษย์” ในดวงตานายกองฉายแววดูถูก มือขวาสีเทาเรียวยาวยกขึ้น กดอากาศไปทางชิงชิว

จากการกดลงไปนี้ มิติรอบๆ ชิงชิวบิดเบี้ยวไปในทันใด แล้วยุบถล่มลงไปในเสี้ยวพริบตา สะกดไปทางนาง

“เผ่าฟ้าทมิฬ!”

รูม่านตาชิงชิงหกเล็กทันที ร่างถอยไปข้างหลังอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังช้าไปก้าวหนึ่ง

จากการลงมือของนายกอง วิญญาณรบที่อัญเชิญมานอกกายของนางก็บิดเบี้ยว คล้ายว่าจะแตกสลาย

แต่ชิงชิวก็ไม่ธรรมดา ท่ามกลางวิกฤตอันตราย ในดวงตาของนางฉายประกายแสงสีแดงวาบ เหวี่ยงเคียวยมทูตในมือไปทางนายกองทันที

ใบเคียวเกิดเสียงแหลมกรีดหวีดแหวกอากาศ ประดุจล้อที่หมุนเร็วจี๋ มาพร้อมด้วยพลังบดขยี้ไร้ต้านทาน กรีดอากาศพุ่งตรงไปยังนายกอง ความเร็วน่าครั่นคร้ามนัก

ในเสี้ยวขณะนี้ ชิงชิวที่ถอยหลังไปมือทั้งสองประสานปางมือ ในดวงตาฉายแววบ้าคลั่ง ส่งเสียงแหลมเล็กไปทางนายกองหนึ่งครั้ง วิญญาณรบที่จะแตกสลายไปข้างหลังนางก็หลุดออกไปจากร่างทันที แล้วกระโจนประชิดมาหานายกอง อ้าปากกว้างกัดกินไป

นายกองหรี่ตา ไม่หลบหลีก ปล่อยให้เคียวยมทูตผีร้ายประชิดเข้ามาใกล้ ฟันผ่านไปจากหว่างคิ้ว เลือดสีดำพุ่งกระฉูด ร่างของเขาถูกฟันขาดเป็นสองซีก

แต่เสี้ยวขณะต่อมา จากเคียวที่ทะลุผ่านร่างนายกองแล้วฟันไปบนตัวอสูรผิวแดงสี่ขา ร่างที่ถูกผ่าเป็นสองซีกของนายกองกลับประสานเข้าด้วยกันใหม่อีกครั้งอย่างแปลกประหลาด

ยิ่งอ้าปากกว้างไปทางวิญญาณรบที่ประชิดเข้ามาข้างหน้าคิดจะกลืนกินเขา แล้วกัดไปเต็มแรง

เสียงกร๊อบดังขึ้น เผ่าฟ้าทมิฬปากกว้างตัวขนาดร้อยจั้งตนหนึ่งก็ปรากฏข้างหน้านายกอง เทียบกับปากมหึมานี้ วิญญาณรบที่มาถึงดวงนั้นก็เหมือนเนื้อชิ้นมัน ถูกนายกองกลืนกินลงไป

ขณะเคี้ยว ร่างของเขาก็ก้าวออกมาก้าวหนึ่ง แล้วไปถึงข้างหน้าชิงชิวที่สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมหาศาล ถอยหลังหนีอย่างรวดเร็ว มือขวาของเขามีหอกยาวหลายร้อยเล่มปรากฏขึ้นกลางอากาศ คิดจะสังหารชิงชิว

ในตอนนี้เอง เสียงของสวี่ชิงก็ดังมา

“รับบัญชา!” นายกองเอ่ยเสียงดัง นี่เดิมก็เป็นแผนการลงมือที่เขาหารือกับสวี่ชิงเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว

ตอนนี้ขณะที่สะบัดมือหอกหลายร้อยเล่มก็บิดเบี้ยว แปรเปลี่ยนเป็นขนเส้นยาว แล้วพันธนาการไปบนร่างชิงชิว มัดนางเอาไว้

ชิงชิวดิ้นรน ในดวงตาฉายแววไม่ยอมจำนน กำลังจะสำแดงเคล็ดวิชาลับ แต่ถูกนายกองชกไปที่หน้ากากหนึ่งครั้ง สะเทือนจนสลบไป

พลังหมัดนี้ไม่เบาเลย หน้ากากแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เผยให้เห็นใบหน้างดงามดวงหนึ่ง

ไม่สนใจหน้าตาของนาง นายกองยกมือคว้าเชือกบนร่างชิงชิว หันไปมองทางเผ่าคลื่นศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่รอบๆ อย่างเย็นชา สีหน้าฉายแววไม่พอใจ

ชายหนุ่มเผ่าคลื่นศักดิ์สิทธิ์ตนนั้นใบหน้าฉายแววซาบซึ้ง รีบคุกเข่าหมอบคารวะทันที

“ขอบคุณท่านผู้มาจากเผ่าสูงส่งที่ลงมือช่วยขอรับ”

“ออกเดินทางทันที ต้องไปจากเขตปกครองผนึกสมุทรภายในสามวัน!” นายกองเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา พูดจบก็หิ้วชิงชิวกลับไปยังอสูรผิวแดงสี่ขาทางนั้น ร่างหดเล็กลง

ชายหนุ่มเผ่าคลื่นศักดิ์สิทธิ์ตนนั้นมองนายกองจากไปจนลับสายตา หลังจากยืนขึ้นความซาบซึ้งและความคลั่งไคล้ในสีหน้าก็สลายหายไป ตวาดออกคำสั่งคนในเผ่าของตนรอบๆ ที่อกสั่นขวัญแขวน

ไม่นานนัก ขบวนสินค้าของพวกเขาก็เคลื่อนหน้าไปอีกครั้ง อีกทั้งด้านความเร็วยังเร็วขึ้นอีกมากอย่างเห็นได้ชัด

และบนผิวของอสูรสี่ขาตอนนี้ นายกองกลับมา โยนชิงชิวที่สลบไสลในมือไปข้างๆ ในยามที่ร่วงลงพื้น เศษหน้ากากที่หลงเหลือบนหน้าชิงชิวก็ร่วงลงมาอีกจำนวนหนึ่ง ทำให้ใบหน้าเล็กๆ ใต้นั้นเผยออกมามาขึ้น

‘ในเมื่อเจ้าขัดหูขัดตานาง เช่นนั้นก็มอบให้เจ้าก็แล้วกัน’ นายกองยิ้มพลางส่งกระแสจิต นั่งข้างๆ ลูบๆ คลำๆ เคียวในมือเล่น เคียวเล่มนั้นสั่นสะท้าน ผีร้ายที่อยู่บนนั้นฉายสีหน้าประจบประแจง

สวี่ชิงพยักหน้า สายตาเย็นชากวาดมองไปยังชิงชิว จากนั้นก็มองไปที่ใบหน้าของนาง

นั่นเป็นดวงหน้าที่งดงามยิ่งนัก ผิวขาวเนียนละเอียด จมูกเล็ก ริมฝีปากดุจผลอิงเถา[1] ดูแล้วอายุประมาณสิบหกสิบเจ็ดปี

ให้ความรู้สึกงดงามอย่างสาวชาวบ้าน โดยเฉพาะตอนนี้ขณะที่หลับตาก็ฉายความไร้เดียงสาออกมา

รูปโฉมเช่นนี้ไม่มีความโหดเหี้ยมใดๆ แฝงด้วยความอ่อนแอมาโดยกำเนิด เหมือนกับน้องสาวตัวน้อยข้างบ้าน แตกต่างจากคำพูดและการกระทำของชิงชิวในยามปกติราวฟ้ากับเหว

สวี่ชิงมองผาดหนึ่ง กำลังจะดึงสายตากลับมา แต่เขาพลันรู้สึกว่าหน้าตาของอีกฝ่ายค่อนข้างคุ้นตา จึงพิจารณาอย่างละเอียด คิ้วค่อยขมวดขึ้น แล้วพลันผุดลุกเดินไป

นายกองคล้ายจะหัวเราะแต่ก็ไม่หัวเราะ สีหน้าแฝงด้วยความหยอกล้อ คอยดูเรื่องสนุก ดีดเคียวเบาๆ ทันใดนั้นผีร้ายบนนั้นก็ร้องอย่างน่าอนาถแล้วสลบไป

สวี่ชิงไม่สนใจนายกอง เขาเดินไปข้างหน้าชิงชิวอย่างรวดเร็ว หลังจากพิจารณาอย่างละเอียดแล้ว ในสายตาก็ฉายแววสับสน แต่ก็ไม่แน่ใจนัก จึงยกมือไปปลดถุงเก็บของของชิงชิวมาแล้วทำการค้นสำรวจรอบหนึ่ง ก่อนจะหยิบหินก้อนเล็กก้อนหนึ่งมาจากบริเวณหน้าอกของนาง

มองก้อนหินก้อนเล็กก้อนนี้ จิตใจสวี่ชิงเกิดระลอกคลื่นอารมณ์ เหม่อลอยไปเล็กน้อย

ภาพที่ฝังไว้ในความทรงจำบางภาพผุดขึ้นมาท่ามกลางระลอกคลื่นในตอนนี้

นั่นเป็นกระท่อมไม้หลังหนึ่ง ที่มุมห้องมีเด็กหญิงตัวน้อยที่ใบหน้ามีรอยแผลขนาดใหญ่ทางหนึ่ง ท่ามกลางเนื้อตัวที่สั่นงันงกก็ระแวดระวังผู้ที่เข้ามาใกล้ทุกคน

ภาพเปลี่ยนไป ปรากฏที่ลานประลองสัตว์ เด็กหญิงตัวน้อยถือแผ่นไม้ไผ่ในมือ บนนั้นสลักไว้ว่างูเหลือมเขายักษ์สามตัวอักษร ในเสี้ยวขณะนี้ความสิ้นหวังในดวงตาของนางชัดแจ่มแจ้ง

ภาพเปลี่ยนไปอีกครั้ง ใต้แสงจันทร์ นอกประตูใหญ่ เด็กหญิงตัวน้อยส่งเสียงมาอย่างดื้อดึง บอกว่านางจะตอบแทนแน่นอน จากนั้นก็เดินเตาะแตะจากไปในราตรีจันทร์กระจ่าง

ภาพหลังจากนั้นยังมีอีกมาก ไม่ว่าจะเป็นลูกกลอนขาวที่ร้านขายของ หรือจะเป็นเงาร่างที่อยู่ท่ามกลางลมหิมะโปรยปราย หรือจะเป็นดวงตาคู่นั้นในตอนที่อีกฝ่ายไล่ตามมามอบลูกกวาดให้กับเขา

จวบจนสุดท้าย ภาพความทรงจำก็หยุดอยู่ที่ ท่ามกลางแสงอาทิตย์อัสดง เงาร่างของเด็กหญิงตัวน้อยที่จูงมือกับพี่ชาย เดินก้าวหนึ่งหันกลับมามองทีหนึ่ง ค่อยๆ จากไปไกล

สิ่งที่มาพร้อมกับภาพยังมีเสียงที่ดังมาจากห้วงเวลา ดังก้องอยู่ข้างหูสวี่ชิง

“พี่เด็กน้อย ทุกครั้งที่ข้าไม่มีความสุข แม่ของข้าก็จะให้ลูกกวาดข้ากิน ข้ากินไปๆ ก็มีความสุขแล้ว

“นี่เป็นลูกกวาดเม็ดสุดท้ายของข้า ข้าให้ท่าน

“พี่เด็กน้อยท่านต้องมีความสุขนะ!

“พี่ชายข้ามารับข้าแล้ว พี่เด็กน้อย ท่านจะไปกับข้าหรือไม่

“ไม่เป็นไร รอเมื่อข้าโตขึ้น พวกเรายังได้พบกันอีก พี่เด็กน้อย ข้าเคยบอกว่าจะตอบแทนบุญคุณช่วยชีวิตของท่าน ข้าต้องทำได้อย่างแน่นอน!

บทที่ 443 ลบไปจากตำราไม้ไผ่ 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา