บทที่ 455 วาสนายิ่งใหญ่สุดยอด!!
ท้องฟ้าเปิดออก!
รอยแยกทางนั้นในเสี้ยวขณะนี้ก็แยกออกทันที มองไปไกลๆ แล้วเหมือนเนตรสวรรค์ข้างหนึ่งกำลังลืมตื่นขึ้น!
ข้างในรางเลือนมองเห็นไม่ชัด แต่กลับมีระลอกคลื่นพลังกฎเกณฑ์มหาศาลสะท้านฟ้าสะเทือนดินเป็นระลอกๆ ทะลักจากข้างในมายังโลก
สวี่ชิงในฐานะที่เป็นพัศดีเขตปิ่ง เคยแบกกฎเกณฑ์ของโลกใบเล็กใบหนึ่งอยู่หลายเดือน ดังนั้น การรับรู้ต่อกฎเกณฑ์ของเขาจึงเฉียบไวมาก โดยเฉพาะอสูรสมุทรบรรพกาลวิถีสวรรค์ในกายของเขา ตอนนี้ก็กำลังสั่นสะท้าน ยิ่งแผ่ความคุ้นเคยสนิทสนมออกมากลุ่มหนึ่ง
เหมือนว่าสิ่งที่อยู่ในเนตรสวรรค์มีต้นกำเนิดเดียวกับมัน!
สวี่ชิงจิตใจสั่นสะท้าน เขามองนายกองที่ร่ายรำอยู่ ต่อให้ชุดอาภรณ์สีขาวของเขาจะบดบังร่าง แต่ท่าทางการร่ายรำเหมือนกับเงาเผ่าเซียนพิบัติในสัมผัสรับรู้ของเขาทุกประการ
‘หรือศิษย์พี่ใหญ่จะมีชาติหนึ่งเป็นเผ่าเซียนพิบัติ
‘เซียนแท้สิบลำไส้ครั้งนี้…แตกต่างจากเรื่องใหญ่ที่ลงมือกับศิษย์พี่ใหญ่ครั้งก่อนหน้าโดยสิ้นเชิง!’
ในสมองของสวี่ชิงเกิดความคิดมากมายผุดขึ้น
ส่วนชิงชิวที่อยู่ข้างๆ ก็ตะลึงอ้าปากค้างไปนานแล้ว นางมองทุกอย่างนี้อย่างหวาดกลัว ประสบการณ์ครั้งนี้เรียกได้กระทั่งว่าเป็นที่สุดของนางสิบกว่าปีนี้
ถูกเผ่าฟ้าทมิฬจับตัว ถูกบังคับให้เป็นบ่าวรับใช้ เห็นกับตาว่าเผ่าฟ้าทมิฬทั้งสองคนนี้จากผู้ต้องสงสัยเป็นแขกกิตติมศักดิ์ จากนั้นก็มองพวกเขาเดินเข้าไปในส่วนลึกของเซียนแท้สิบลำไส้ตาปริบๆ สุดท้ายที่นี่…นางได้เห็นการบวงสรวงฟ้า
ไม่ใช่ว่าใครจะบวงสรวงฟ้ากันได้ทุกคน
โดยเฉพาะเงาเผ่าเซียนพิบัติที่อยู่รอบๆ เห็นได้ชัดว่ามีเผ่าฟ้าทมิฬตนนั้นเป็นศูนย์กลาง
ในขณะที่ชิงชิวในสั่นสะท้านอยู่ทางนี้ หนิงเหยียนอึ้งตะลึงไปแล้วโดยสมบูรณ์ เขาลมหายใจหอบถี่ มองทุกอย่าง สีหน้าฉายความเหลือเชื่อ
และในตอนนี้เอง จากการร่ายรำของนายกอง จากเงาร่างเผ่าเซียนพิบัติหลายแสนรอบๆ ที่ร่วมร่ายรำ จากการที่ต้นสิบลำไส้ไหวโอนเอนอย่างรุนแรง ในช่วงเวลาสำคัญนี้ เสียงคำรามโหดเหี้ยมเสียงหนึ่ง ก็ดังมาจากสุดขอบฟ้าของต้นไม้ที่พวกเขาอยู่
“ศิษย์น้องเล็ก ช่วยต้านเอาไว้ที!” นายกองเอ่ยอย่างรวดเร็ว
สวี่ชิงไม่ลังเล ร่างเพียงไหววูบ ก็นำหน้านายกองไปยืนอยู่ข้างหน้าเขา สีหน้าฉายแววเคร่งขรึม ในใจเรียกเทวรูปฟ้าทมิฬมา บนท้องฟ้า เทวรูปฟ้าทมิฬปรากฏลงมาอย่างรวดเร็ว
“จุดอ่อนของมันคือดวงตา โจมตีตาของมัน!”
เสียงของนายกองแฝงด้วยความร้อนรน ในยามที่ดังมาอย่างรวดเร็ว เงาร่างที่พุ่งมาจากสุดปลายกิ่ง ภายใต้ความเร็วที่น่าตะลึงก็ประชิดเข้ามา สะท้อนในดวงตาสวี่ชิงอย่างชัดเจน
เพียงพริบตาแรกที่เห็นเงาร่างนี้ ในสมองสวี่ชิงก็มีสายฟ้าฟาดมาทันที
เงาร่างนี้ไม่ใช่คนเป็น แต่ศพของเผ่าเซียนพิบัติศพหนึ่ง ไม่เหมือนกับเผ่ามนุษย์ ที่หว่างคิ้วของเผ่าเซียนพิบัติมีภาพสัญลักษณ์ประทับอยู่ เหมือนลำไส้เหมือนงู คดเคี้ยวบิดเบี้ยว จับกลุ่มด้วยกันประกอบเป็นรูปร่างเหมือนดวงตา
แต่นี่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ สิ่งที่ทำให้ในสมองสวี่ชิงเหมือนมีสายฟ้าฟาดคือรูปร่างหน้าตาของเซียนพิบัติตนนี้
ศพเซียนพิบัติตนนี้ต่อให้ร่างแห้ง ทั่วทั้งร่างแผ่กลิ่นอายความตาย ท้องถูกผ่าเผยให้เห็นลำไส้เน่าๆ ที่กำลังลอยอยู่แต่ละขดๆ แต่อาศัยความสนิทสนมที่สวี่ชิงมีกับนายกอง…เขาก็ยังมองใบหน้าที่ยุบลงไปของเซียนพิบัติตนนี้ออกว่าเหมือนกับนายกองเป็นอย่างยิ่ง!
โดยเฉพาะบนศพนี้ ขณะเดียวกันยังแผ่กลิ่นอายเย็นเยือกเข้มข้นออกมา ทุกที่ที่พาดผ่านทั่วทุกทิศล้วนเกิดผนึกน้ำแข็ง
ความเย็นประเภทนี้ สวี่ชิงคุ้นเคยดี เหมือนกับของนายกอง
สวี่ชิงใจสั่นสะท้าน แต่ตอนนี้ไม่ทันให้ได้ขบคิดอะไรมากมาย ศพที่พุ่งมาข้างหน้ารวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง เพียงไหววูบร่างของมันก็หายไปในพริบตา เหมือนแปรเปลี่ยนเป็นลมพายุคลั่ง ปะทะหน้ามาหาสวี่ชิง
ความอันตรายรุนแรงปะทุขึ้นในใจสวี่ชิงทันที เทวรูปฟ้าทมิฬลอยต่ำลงมาทันที ขวางอยู่ข้างหน้า
เสียงระเบิดดังขึ้นทันที ก้องกังวานไปทั่วสารทิศ
เกิดเป็นระลอกคลื่นบ้าคลั่ง พัดกวาดไปทั้งหน้าหลัง
สวี่ชิงทั่วทั้งร่างสั่นสะท้าน กระอักเลือดคำโตออกมา ร่างขณะที่ถอยหลังก็เห็นเทวรูปฟ้าทมิฬที่มาขวางอยู่ข้างหน้าศพ ทำการต้านการโจมตีอันถึงแก่ชีวิตให้กับตน
เทวรูปฟ้าทมิฬร่างสั่นสะท้าน ประดุจขุนเขาขวางกั้นทุกสิ่ง
ศพที่หน้าตาคล้ายนายกองถึงแปดส่วนข้างหน้าเทวรูปตอนนี้อ้าปากส่งเสียงคำราม บนร่างปะทุระลอกคลื่นพลังระดับสมบัติวิญญาณขึ้น คิดจะทะลวงฝ่าออกมา แต่ทั่วทั้งเทวรูปฟ้าทมิฬแสงสีดำกะพริบแสงวาบรุนแรง มือทั้งสองคว้ามันเอาไว้ ไม่คลายมือแม้แต่น้อย
ขณะที่ยื้อยุดกันอยู่นั้น ไม่รอให้สวี่ชิงได้หายใจหายคอ กิ่งต้นลำไส้ทั้งเก้าจากที่ไกลก็มีเสียงคำรามดังมาเช่นกัน เงาร่างแต่ละร่างๆ ปรากฏจากสุดปลายขอบฟ้า เป้าหมายคือที่นี่
เห็นเป็นเช่นนี้ สวี่ชิงหน้าเปลี่ยนสี ประสานปางมืออย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นท้องฟ้าก็มีเสียงพุ่งมาอย่างรวดเร็วกรีดหวีดดังขึ้น เงาเทวรูปฟ้าทมิฬองค์ที่สอง องค์ที่สาม องค์ที่สี่ ประทับลงมา
เทวรูปทั้งสามนี้มาจากสามรัฐของสามสิบหกรัฐที่นี่ที่เป็นรัฐดองกับราชวงศ์รัฐบน ในช่วงนี้แม้สวี่ชิงจะไม่ได้ไปรัฐอื่นๆ แต่ผ่านจากเทวรูปของรัฐยอดฟ้า ก็เกิดความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับพวกมันแล้ว สามารถสั่งการได้
การมาถึงเซียนแท้สิบลำไส้ครั้งนี้ เทวรูปฟ้าทมิฬทั้งสี่ก็คือที่พึ่งและไพ่ตายของเขา
เห็นเทวรูปสามองค์ปรากฏขึ้น ทำการต้านทานอย่างสุดกำลัง ก็เห็นได้ชัดแล้วว่าไม่อาจยืนหยัดได้นานเท่าไร ดีที่การบวงสรวงของนายกองทางนั้นก็เสร็จสิ้นแล้ว
จากการที่นายกองเงยหน้าขึ้น ในดวงตาฉายแววบ้าคลั่ง ภาพที่ทำให้สวี่ชิงจิตใจเกิดคลื่นกระหน่ำซัดโหมก็เกิดขึ้น
เห็นเพียงนายกองสะบัดมือเอาเนื้อชุ่มเลือดที่มีสีสันและขนาดแตกต่างกันออกมาเป็นก้อนๆ และบนเนื้อชุ่มเลือดทุกก้อนล้วนแผ่ระลอกคลื่นคุณสมบัติเทพที่น่ากลัวออกมา
สวี่ชิงแค่เห็นก็จำได้ว่าหนึ่งในนั้นเป็นเนื้อของจวีอิงแห่งเผ่าเงือก
จำนวนเนื้อชุ่มเลือดมีทั้งหมดสามสิบสามก้อน กลิ่นอายที่แตกต่างกันก็หมายความว่ามันมาจากสิ่งมีชีวิตคุณสมบัติเทพที่แตกต่างกัน ไม่ใช่แค่นั้น นายกองยังหยิบเอาขวดเล็กสีดำออกมาเก้าขวด ตอนนี้หลังจากที่บีบแตกทั้งหมด เลือดสดๆ ที่แฝงไว้ด้วยคุณสมบัติเทพเก้าหยดก็ลอยออกมาจากในนั้น
ในนั้นมีหยดหนึ่ง สวี่ชิงสัมผัสได้ว่าในนั้นแฝงไว้ด้วยกลิ่นอายของเทพวิญญาณโยวจิง
จากนั้นนายกองก็ตบหน้าผากตัวเอง เสียงแหวะดังขึ้นก็สำรอกดินสีดำออกมาเป็นพื้นที่บริเวณหนึ่ง ดินพวกนี้หลอมรวมเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็ว ก่อเป็นรูปสลักขนาดเท่าฝ่ามือองค์หนึ่ง
นั่นคือ…เทวรูปบรรพชนศพเผ่าสิงซากสมุทร!
ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา