บทที่ 485 มรรคาก่อกำเนิดวิหคทองควบคู่แสงอรุณ (1)
……….
“ใต้เท้าผู้ดูแล ข้ามีแผนประวิงเวลาให้ท่าน และนี่ก็เป็นวิธีที่จะทำให้ข้าหลุดพ้นจากอันตรายมาได้ เดิมมีโอกาสไม่มากนัก แต่มีใต้เท้าอยู่ ถ้าข้าร่วมมือด้วยคงไม่มีปัญหาอันใด”
ชายชราเผ่าจิตรกรรมรมเอ่ยออกมาอย่างตื่นเต้น
“ใต้เท้าผู้ดูแล อีกเดี๋ยวนิ้วกลับมา ข้าจะบอกกับมันว่าท่านมีร่างของวิหคทองอยู่ ดังนั้นการปรากฏตัวของท่าน จึงทำให้ซากนี้มีความเป็นชีวิตขึ้น ไม่จำเป็นต้องผสานกับวิญญาณอื่นแล้ว
“จากนั้นข้าจะวาดภาพให้นิ้วเทพเจ้า ขั้นตอนนี้ข้าสามารถควบคุมได้ จะวาดให้ช้าลงสักเล็กน้อย รอจนท่านส่งสัญญาณให้ข้า ข้าถึงจะวาดเสร็จ
“ข้าคิดไว้เรียบร้อยแล้ว ข้าเหมือนจะวาดร่างกาย แต่อันที่จริงข้าเตรียมจะวาดกรงเลือดเนื้อขึ้นมา หลังจากที่กรมราชทัณฑ์ทำให้นิ้วเทพเจ้านั่นบาดเจ็บสาหัสก่อนหน้านี้ สติปัญญาก็ยังไม่ค่อยครบถ้วน ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องการวาดภาพนี้ คนนอกก็มองไม่ออกเช่นกัน ข้ามั่นใจว่าเขาคงรู้สึกตัวได้ยากมาก
“หลังจากนั้นก็รอให้เขาผสานเข้าไปในร่างกาย เมื่อพบว่าเป็นกรงขัง นั่นก็คือเวลาหนีของเรา!
“เพราะเป็นสิ่งที่วาดจากซากดวงอาทิตย์ ดังนั้นพลานุภาพของกรงนี้จึงไม่ธรรมดา จากที่ข้าคำนวณน่าจะขังไว้ได้หลายวัน แต่มีวิหคทองมีชีวิตของนายท่านอยู่ ข้ารู้สึกว่าน่าจะขังมันไว้ได้มากกว่าครึ่งเดือน
“หลังจากนั้นช่วงเวลานี้ ก็เพียงพอให้พวกเราหลบหนีแล้ว หากท่านมีแผนการอะไร ข้าก็จะร่วมมือให้สำเร็จ”
หลังจากชายชราเผ่าจิตรกรรมรมพูดออกมาตั้งมากมายในรวดเดียวก็เอ่ยเสริมทัพ
“จริงสิ ใต้เท้าผู้ดูแล ท่านอาจจะยังไม่รู้ว่าช่วงนี้ข้าพบว่าหลังจากที่นิ้วเทพเจ้าแหกคุกถูกเจ้าวังใช้พลังของวิเศษเวทต้องห้ามทำร้ายจนบาดเจ็บ ขบวนความคิดของมันก็มีปัญหา เหมือนหลงๆ ลืมๆ จำเรื่องราวไม่ได้…”
สวี่ชิงมองชายชราเผ่าจิตรกรรมผาดหนึ่ง พยักหน้า หลับตาลงไม่พูดจา สูดรับพลังซากดวงอาทิตย์สุดกำลัง วิหคทองของเขาเวลานี้ก็สยายปีกออกมาในซาก
ในสัมผัสของสวี่ชิง จากการสูดรับอย่างบ้าคลั่งของวิหคทอง หางของมันแต่ละหางกำลังงอกออกมา แค่ในเวลาสั้นๆ นี้ ก็งอกถึงหกสิบกว่าเส้น
จากที่สวี่ชิงเคยคิดไว้ หลังจากที่หางของวิหคทองพ้นเก้าสิบเก้าหางไป วิหคหลอมหมื่นวิญญาณของเขาก็จะเข้าสู่ขั้นที่สาม
พลานุภาพขั้นที่สาม คือปราณก่อกำเนิด!
และเพราะวิหคทองอยู่ในวังสวรรค์วังที่ห้า ดังนั้นหลังจากวิหคทองยกระดับ วังสวรรค์วังที่ห้าของสวี่ชิงก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน ยกระดับกลายเป็นร่างก่อกำเนิดลวงของวังสวรรค์วังที่ห้า
คิดถึงจุดนี้ สวี่ชิงก็วาดหวังในใจ
เวลาผ่านไปช้าๆ จากการสูดรับของวิหคทอง กลิ่นอายของสวี่ชิงก็เพิ่มขึ้นไม่หยุด ยิ่งน่าตกตะลึงขึ้นเรื่อยๆ แผ่พลังน่าหวาดหวั่นที่ทำให้เจ้าศีรษะกับชายชราเผ่าจิตรกรรมรู้สึกหวาดผวาออกมา
ซากดวงอาทิตย์นั่นยิ่งเปล่งความมีชีวิตขึ้น เจตจำนงฟื้นคืนชีพ พุ่งทะยานขึ้นสู่ฟ้าจากด้านใน
ตอนนี้เอง ในหุบเหวสมุทรไกล จิตเทพที่น่าหวั่นเกรงของนิ้วเทพเจ้าก็ครืนครันมา เพียงพริบตา นิ้วนี้ก็ปรากฏตัวขึ้นที่นี่ ด้านหลังยังคุมตัวผู้บำเพ็ญต่างเผ่ามาอีกมหาศาล ในนี้เผ่าควันขจรมีอยู่มากที่สุด
เผ่าควันขจรเหล่านั้นแต่ละคนสภาพขาดวิ่นน่าเวทนา นิ้วมือตวัดลงร่วงไปที่ซากดวงอาทิตย์ท่ามลางความสิ้นหวัง
เผ่าของพวกมันสามารถดำรงชีวิตอยู่ในทะเลทรายได้ เดิมทีก็เกี่ยวข้องกับดวงตะวันระดับหนึ่ง เวลานี้จึงถูกซากสูดรับอย่างรวดเร็วเติมเต็มซาก จากนั้นก็มีส่วนช่วยเหลือกับการฝึกบำเพ็ญของสวี่ชิงไม่น้อย
แม้จะเป็นเช่นนี้ แต่การกลับมาของนิ้วมือก็ยังทำให้สวี่ชิงค่อนข้างตึงเครียด ตอนที่เขาลืมตามองนิ้วมือ นิ้วมือก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติของเลือดเนื้อดวงอาทิตย์แล้ว จิตเทพพัดกวาดมา
ชายชราเผ่าจิตรกรรมข้างๆ เวลานี้ก็สีหน้าตื่นเต้น เอ่ยเสียงดัง
“นายท่านผู้ยิ่งใหญ่ ท่านเป็นเทพเจ้าผู้ถูกเลือกจริงๆ ตอนที่ท่านจากไป ข้าก็พบว่าคนที่ท่านจับมาคนหนึ่งเป็นคนที่ไม่ธรรมดาเลย
“เขาคนนี้!” ชายชราเผ่าจิตรกรรมรมชี้นิ้วไปทางสวี่ชิง
“นายท่าน ท่านคงจำคนผู้นี้ไม่ได้ เขาคือผู้คุมของเขตติงหนึ่งสามสองของพวกเรา เมื่อครู่ข้าตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว คนผู้นี้มีร่างวิหคทองอยู่ เขาเป็นลูกหลานดวงตะวัน
“การปรากฏตัวของเขาเป็นพรที่ฟ้าดินประทานให้ท่าน เขาเพียงคนเดียวก็สามารถทำให้ซากดวงอาทิตย์นี้มีความมีชีวิตในระดับหนึ่ง
“เมื่อเป็นเช่นนี้ ตอนนี้ข้าน้อยก็สามารถวาดร่างกายให้ท่านได้แล้ว!
“คิดถึงเกียรติที่จะได้ลงมือวาดร่างกายให้แก่ผู้ถูกเลือกที่ยิ่งใหญ่ด้วยตนเองแล้ว ข้าน้อยก็ตื่นเต้นเหลือเกิน!” ชายชราเผ่าจิตรกรรมสีหน้าเลื่อมใสศรัทธาอย่างสุดซึ้ง คุกเข่าคารวะอยู่ด้านล่างนิ้วเทพเจ้า เอ่ยขึ้นอย่างตื่นเต้น
นิ้วเทพเจ้าส่งเสียงครืนครัน พลันชี้ไปทางซากดวงอาทิตย์ แผ่คลื่นพลังแห่งความปรารถนาออกมาเป็นระยะ
เมื่อคลื่นพลังนี้แผ่ออกไป รอบด้านก็สั่นสะเทือน ความว่างเปล่าเริ่มปริแตก พื้นดินปรากฏรอยแยกจะพังถล่ม
ชายชราเผ่าจิตรกรรมตกใจ ยกมือขึ้นกำลังจะวาด แต่ตอนนี้เอง สวี่ชิงก็ฝืนทนความรู้สึกกดดันเมื่อเผชิญหน้ากับเทพเจ้า เอ่ยเสียงขรึม
“ท่านเทพเจ้า ตอนนี้ความมีชีวิตของซากดวงอาทิตย์ไม่เพียงพอ ท่านสามารถตรวจสอบเองได้ ถ้าให้เวลาข้าอีกสักหน่อย ข้าสามารถทำให้ความมีชีวิตของซากดวงอาทิตย์เพิ่มมากขึ้นได้ และร่างที่ใช้เลือดเนื้อดวงอาทิตย์ที่ความมีชีวิตสมบูรณ์วาด ก็จะสมบูรณ์แบบยิ่งกว่า และโอกาสสำเร็จก็ยังสูงอีกด้วย
“ถึงอย่างไรซากดวงอาทิตย์ก็หาได้ยากมาก พลาดครั้งหนึ่งก็น้อยลงชิ้นหนึ่ง
“ท่านเทพเจ้า ไยไม่รออีกหน่อยเล่าขอรับ”



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา