เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 533

บทที่ 533 ลูกศิษย์องค์รัชทายาท ไป๋เซียวจัว (1)

ตอนนี้ เมืองหลวงเขตปกครองลมโหมเมฆทะลัก ครืนครันไปทั้งแปดทิศ

บนท้องฟ้า มังกรทองสี่กรงเล็บ ดวงตาเปล่งแสงสีทอง หลังจากมองปลัดเขตปกครอง ก็มองไปทางองค์ชายเจ็ดที่สีหน้าไร้อารมณ์

ดังนั้น มังกรทองจึงเงียบนิ่ง สีหน้าฉายแววหม่นหมอง ซ่อนตัวอยู่ในหมอกเมฆ มีเพียงเสียงมังกรคำรามที่ดังสนั่นไปทั้งแปดทิศ แยกชั้นเมฆราวกับอยากจะทำให้ฟ้าดินสว่างไสว ทำให้แสงอาทิตย์สาดส่อง

แต่น่าเสียดาย ต่อให้ตอนนี้จะเป็นช่วงกลางวัน แต่ระลอกคลื่นที่มาจากเมืองหลวงเขตปกครองยังคงบิดเบือนแผ่นฟ้า ทำให้ท้องนภามืดครึ้ม ทำให้รูปสลักจักรพรรดิโบราณเสวียนโยวขมุกขมัว ราวกับฝุ่นธุลีปกคลุม

ท่านยกสองมือขึ้นโอบกอดประชาชนเผ่ามนุษย์นับล้านในเมืองหลวงเขตปกครอง แต่ละคนสีหน้าฉงน ตื่นตระหนกตกใจ

ต่างเผ่าแต่ละคน ต่างดวงตาวาววาม พากันถอยหนี นี่คือเรื่องของเผ่ามนุษย์ พวกเขาไม่คิดจะยุ่งเกี่ยวแม้แต่น้อย

ทุกคนกำลังเฝ้ารอ

รอเวลาที่ลานกว้างเมืองหลวงเขตปกครองจะได้ข้อสรุปที่แน่นอน

สุดท้ายปลัดเขตปกครองก็ไม่ได้เด็ดขาดเช่นองค์รัชทายาทม่วงคราม ในช่วงเวลาตัดสินชี้ขาดครั้งสุดท้าย เขาที่จนหนทางและยอมรับทั้งหมดนี้ไม่ได้ จึงเลือกใช้การสยบ

เพียงแต่ในใจเขา มีรอยแตกร้าวขนาดใหญ่หลงเหลืออยู่

นั่นคือร่องรอยคำพูดกรีดแทงหัวใจที่สวี่ชิงเหลือทิ้งไว้

สิ่งที่เห็น ในความขมุกขมัวบนท้องฟ้า ท่ามกลางเสียงครืนครันรอบทิศ พริบตาที่ปลัดเขตปกครองออกคำสั่ง หุ่นเชิดที่เขาอัญเชิญก็ออกมาจากในคลื่นวน พลังต่อสู้หวนสู่อนัตตาขั้นสี่ปะทุระเบิด เดินไปหาสวี่ชิงทีละก้าว

หวนสู่อนัตตาขั้นสี่ ไม่ธรรมดาเลย!

พลังบำเพ็ญระดับนี้ มองทั้งเมืองหลวงเขตปกครอง สามารถใช้คำว่าขนหงส์เขากิเลน[1]ได้ ไม่ว่าผู้ใดก็มีชื่อเลื่องลือทั้งสิ้น

คิดไม่ถึงว่าตัวตนเช่นนี้จะถูกหลอมให้กลายเป็นหุ่นเชิด ความน่ากลัวที่แสดงออกมา น่าพรั่นพรึงยิ่ง

โดยเฉพาะใบหน้าเลือดเนื้อคลุมเครือของหุ่นเชิด มองรูปลักษณ์ที่แท้จริงไม่ออก เช่นนั้นเขาเป็นใคร…นี่จึงกลายเป็นสิ่งที่ยังไม่คลี่คลาย

พริบตาที่หุ่นเชิดนี้เดินไป สายอัสนีก็ฟาดผ่า รอยแยกมหาศาลปรากฏขึ้นเหนือชิงฉิน ก่อร่างเป็นเงาซ้อนทับจำนวนนับไม่ถ้วน จำแลงโลกใบเล็กไร้ขอบเขต ราวกับเป็นยอดเขาที่ตัดสลับซับซ้อน

จุดศูนย์กลาง คือร่างเงาของหุ่นเชิดนั้น

เขาก้มหน้า ดวงตาไร้ประกายไร้คลื่นอารมณ์มองมาทางสวี่ชิง ยกมือขึ้นพลันกดลง พลานุภาพน่าหวาดหวั่นสั่นสะเทือนฟ้าดินโถมลงมาจากฟ้าโดยไม่สนใจชิงฉิน

ชิงฉินสั่นเทิ้มไปทั้งร่าง โลกใบเล็กนับไม่ถ้วนจุติลงมารอบตัวมันราวกับแฝงพลังกฎเกณฑ์บางอย่างที่สะกดต่างเผ่าได้ ทำให้ชิงฉินชะงักไปในพริบตา

เมื่อหลี่อวิ๋นซานรองเจ้าวังรวมถึงซือหนานกับผู้ดูแลซุนที่อยู่รอบๆ เผชิญหน้ากับพลังที่น่ากลัวเช่นนี้ แม้จะไม่ได้ถูกสะกด แต่ก็ไม่อาจเข้าใกล้ได้ ทั้งตกตะลึง กรุ่นโกรธและร้อนรน

ส่วนสวี่ชิง ตอนที่หุ่นเชิดเดินออกมาจาคลื่นวนที่ปรากฏขึ้นเมื่อครู่ เขาก็ส่งกระแสจิตเข้าไปในถุงเก็บของแล้ว ตอนนี้มือขาดขนาดยักษ์ข้างหนึ่งจึงปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเขา

นี่คือสิ่งที่สวี่ชิงและนายกองได้มาจากแดนต้องห้ามเซียน เป็นหนึ่งในทางหนีทีไล่ที่สวี่ชิงเตรียมไว้ตามสถานการณ์อีกอย่างที่คิดไว้ในระหว่างที่สับสนเมื่อยี่สิบกว่าวันก่อน

แรงกดดันกดทับลงมา

แขนขาดสั่นสะท้าน เนื้อหนังปริแตก นิ้วทั้งห้าแตกกระจาย หลังมือเกิดรอยแตกร้าวนับไม่ถ้วนท่ามกลางเสียงครืนครัน แต่สุดท้ายก็ไม่แตกสลาย

ชิงฉินใช้โอกาสนี้ ดิ้นหลุดจากพันธนาการ หัวด้านขวาสะบัดแขนขาดให้ไปอยู่ด้านหลัง หัวทั้งสามเชิดขึ้น แผดเสียงร้องก้องชั้นฟ้าออกมา

“แกว๊ก!”

เสียงนี้ระเบิดโลกมายาใบเล็กมากมาย ร่างของมันพุ่งทะยานตรงไปยังหุ่นเชิด ปะทะกับมัน!

มันรับปากพี่ใหญ่ไว้แล้วว่าจะคอยคุ้มครองสวี่ชิงในขอบเขตของเมืองหลวงเขตปกครอง มันไม่ยอมไปแนวหน้า แต่ถ้าอยู่ในเมืองหลวงเขตปกครอง อยู่ในพื้นที่ของมัน เจ้าเด็กน้อยที่เปล่งแสงได้เหมือนกับตน แล้วยังคอยพาไปกินอย่างอิ่มหมีพีมัน มันชอบมาก

โดยเฉพาะคนที่เดินโง่ๆ ออกไปท่ามกลางฟ้าดินที่เงียบสงัดเช่นนี้ มันไม่เคยเห็นมาก่อน ดังนั้นต่อให้พลังบำเพ็ญจะสู้หุ่นเชิดไม่ได้ มันก็จะปกป้องเหมือนเดิม!

เสียงครืนครัน เลื่อนลั่นกลางฟากฟ้า

บ่าวรับใช้ปลัดเขตปกครองที่อยู่กลางอากาศร่างไหววูบ พุ่งไปที่แขนขาด

รองเจ้าวังเข้าสกัด ตวาดเสียงต่ำ

“ถอยไป! นี่เป็นเรื่องของวังครองกระบี่ข้า!”

ขณะที่บ่าวชราหรี่ตาลง ผู้ดูแลซือหนานกับผู้ดูแลซุน ก็ทะยานมาถึง

ขณะเดียวกัน บนพื้นดิน ร่างของผู้บำเพ็ญครองกระบี่ร้อยศึกหลายร่างก็มารวมตัวกันรอบๆ แขนขาดอย่างรวดเร็ว

ภาพนี้ สั่นสะเทือนไปทั้งแปดทิศ พวกผู้บำเพ็ญที่ขึ้นตรงกับปลัดเขตปกครองก็พุ่งไปทันที เข้าประชิดแขนขาด คุมเชิงกับผู้ครองกระบี่

ท้องฟ้าครืนครัน บนฟ้าและบนดินล้วนชักกระบี่ง้างธนู ปลัดเขตปกครองมองทุกอย่างบนแท่นพิธีด้วยสีหน้าผิดหวัง เอ่ยเสียงเบา

“ในเมื่อวังครองกระบี่ขัดคำสั่ง ไม่ยอมปรับปรุงตัว เช่นนั้นข้าก็จะเป็นตัวแทนสหายเลี่ยงซิว ชี้แนะอาลักษณ์ของเขาเอง”

ขณะที่พูด ก็เดินออกมาแท่นพิธี เดินไปบนท้องฟ้า สะบัดแขนเสื้อ

ดวงชะตาครึ่งร่างรวมกันกับหวนสู่อนัตตาขั้นสี่อย่างไม่ต้องสงสัย พื้นดินครืนครัน ผู้บำเพ็ญนับไม่ถ้วนต้องล่าถอย พวกรองเจ้าวังก็เช่นกัน

บ่าวรับใช้ปลัดเขตปกครองก็ไม่ขัดขวางอีก ร่างไหววูบ พริบตาก็ปรากฏตัวด้านบนแขนขาด ดวงตาฉายประกายประหลาด ยกมือขวาขึ้นคว้า

ในใจทุกคนตีเกลียว ตอนที่ร้อนรนถึงขีดสุด นายกองก็เปล่งแสงสีฟ้าออกมาทั่วร่าง ยกมือขวาขึ้นกดที่หน้าผาก ตอนที่จะฉีกอะไรบางอย่าง จู่ๆ บ่าวรับใช้ก็หน้าเปลี่ยนสี ม่านตาหดเล็กลง เปลี่ยนทิศทาง ไม่เข้าใกล้ แต่ถอยออกไปอย่างรวดเร็ว

ตาข่ายสีทองผืนหนึ่งปรากฏขึ้นบนฟากฟ้ากะทันหัน

เสียงครืนครันสะเทือนเลื่อนลั่น ตาข่ายยักษ์สีทองแผ่ขยายไปทั่วฟ้า ปกคลุมผืนดิน เปล่งแสงประกายพร่างพราวแผ่ลามออกไป

หลังจากทั่วทั้งเขตปกครองผนึกสมุทรผ่านสงครามมาแล้ว ก็ไม่มีใครไม่รู้จักสิ่งนี้ นี่คือ…ของวิเศษต้องห้ามเมืองหลวงเขตปกครอง

สวี่ชิงมีสิทธิ์การใช้หนึ่งครั้ง นั่นคือสิ่งที่เจ้าวังมอบให้เขาก่อนตาย

ตอนนี้ของวิเศษต้องห้ามปรากฏขึ้น คนธรรมดาทั้งหมดในเมืองหลวงเขตปกครองตื่นตกใจ ระลอกคลื่นในใจผู้บำเพ็ญรอบๆ แท่นก็บูชาโหมกระหน่ำสาดซัด ขณะที่ตาข่ายสีทองผืนนั้นร่วงลงมาทางแขนขาดอย่างรวดเร็วก็หดเล็กลงเรื่อยๆ

บ่าวรับใช้หน้าเปลี่ยนสี ยิ่งถอยออกมาเร็วยิ่งขึ้น

แต่ตาข่ายทองผืนนั้นไม่ได้ปล่อยพลังสังหาร เพราะในใจสวี่ชิง การจะใช้พลังของวิเศษต้องห้ามหนึ่งครั้งกับบ่าวรับใช้ มันไม่คุ้มค่า

พริบตานั้น ภายใต้การจับตาของคนทั้งหมด ตาข่ายสีทองปกคลุมแขนขาด

ร่างของสวี่ชิงเดินออกมาจากแขนขาดด้วยสีหน้าซีดขาว กระอักเลือดออกมาคำใหญ่ หน้าอกยุบลงไป ความเจ็บปวดแล่นปลาบไปทั้งร่าง แม้แขนขาดจะป้องกันอยู่ แต่ก็ยังได้รับบาดเจ็บสาหัส

บทที่ 533 ลูกศิษย์องค์รัชทายาท ไป๋เซียวจัว (1) 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา