เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 533

บทที่ 533 ลูกศิษย์องค์รัชทายาท ไป๋เซียวจัว (2)

ผู้ที่ปรากฏตัวคือนายท่านเจ็ด เขาอำพรางกายอยู่ในฝูงชนมาตลอด

เขาบอกกับศิษย์ตนว่าจะออกไปซ่อนตัว ทว่าความจริงแล้ว สถานที่ซ่อนตัวที่ดีที่สุดย่อมเป็นเมืองหลวงเขตปกครองที่อันตรายที่สุด

อีกอย่าง หลังจากเกิดเรื่องใหญ่ที่แดนต้องห้ามเซียน เขาปล่อยศิษย์ทั้งสองคนของตนอย่างวางใจได้อย่างไร และทั้งหมดนี้ก็ทำให้เขารู้สึกว่าการซ่อนตัวอยู่ในเมืองหลวงเขตปกครองคือตัวเลือกที่ดีที่สุด

เขาจึงบอกกับสวี่ชิงและเฉินเอ้อร์หนิว ให้พวกเขาออกไปจากที่นี่หนึ่งเดือนให้หลัง เพราะเขาตัดสินใจจะแอบอยู่กับพวกเขาเงียบๆ

และตอนนี้ เขาเลือกที่จะแสดงตัวออกมาแล้ว

เมื่อสังเกตเห็นขอบตาแดงรื้นของสวี่ชิง เห็นท่าทางของสวี่ชิงที่เหมือนทำเรื่องพลาดพลั้ง นายท่านเจ็ดก็ตวาดเสียงต่ำ

“เงยหน้าขึ้น!”

สวี่ชิงตัวสั่นงันงก เงยหน้าขึ้น

“สวี่ชิง เจ้าต้องจดจำไว้ เรื่องนี้ อาจารย์ไม่คิดว่าเจ้าผิด ยิ่งรู้สึกภาคภูมิใจกับศิษย์อย่างเจ้าเสียด้วยซ้ำ!

“ข้าไม่รู้ว่าเจ้าเตรียมอะไรไว้บ้าง แต่ข้าเป็นอาจารย์ของเจ้า! มีเหตุผลใดเล่าที่อาจารย์จะยืนมองศิษย์เอาเป็นเอาตายอยู่ข้างๆ ส่วนตนกลับทำตัวดั่งทองไม่รู้ร้อน

“เจ้าเคยโขกศีรษะให้ข้า เคยยกน้ำชาให้ข้า นับตั้งแต่ตอนนั้น ข้าก็จะคอยปกป้องเจ้า”

“ยังมีข้าด้วย!” ในฝูงชนบนพื้นดิน แสงสีน้ำเงินพร่างพราว ร่างของนายกองพุ่งออกมา ก่อนหน้านี้เขาจะลงมือแล้ว แต่ศิษย์น้องเล็กก็มีวิธีรับมือเสมอ เขาจึงเตรียมปรากฏตัวในช่วงเวลาสำคัญ

ตอนนี้เมื่อเห็นอาจารย์ออกมา เขาจึงไม่ลังเล พริบตาที่มาถึงก็มายืนอยู่ข้างสวี่ชิง เอ่ยด้วยรอยยิ้ม

“ทำการใหญ่ทั้งที จะไม่มีข้าได้อย่างไร!”

ตอนนี้ สายตานับไม่ถ้วน ก็มารวมกันที่ร่างของศิษย์อาจารย์ทั้งสามคนนี้จากทั่วสารทิศ ดวงชะตาเหนือศีรษะสวี่ชิงก็ปะทุเสียงดังสนั่น รวมตัวกันมากขึ้นในตอนนี้

กระทั่งดูดดึงผืนฟ้า ทำให้บนท้องฟ้าปรากฏคลื่นวนขนาดยักษ์ที่กระทั่งคนทั่วไปก็ยังมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า สายฟ้าแต่ละทางกะพริบวูบวาบ ส่งเสียงกัมปนาทออกมาจากด้านใน

สั่นสะเทือนใจผู้คนนับล้าน

สวี่ชิงสูดลมหายลึก ขณะที่ระลอกคลื่นในทะเลความรู้สึกโหมซัดไม่หยุดยั้ง นายท่านเจ็ดก็เงยหน้าขึ้น มองปลัดเขตปกครอง

“ข้าเคยพบกับพวกม่วงคราม!”

ดวงตาปลัดเขตปกครองมีคลื่นอารมณ์

“ก่อนหน้านี้เจ้าสี่ของข้าพูดไว้ไม่ผิด ท่านน่ะ ไม่คู่ควรที่จะติดตามองค์รัชทายาทม่วงครามจริงๆ เพราะท่านอยู่ในเงามืดมานาน จึงไม่เหลือความองอาจห้าวหาญอีกต่อไป”

ปลัดเขตปกครองหลับตาลง ผ่านไปหลายอึดใจจึงลืมตาขึ้น คลื่นอารมณ์สลายหายไป ส่งเสียงเรียบออกมา

“พันธมิตรแปดสำนักมณฑลรับเสด็จราชัน หมิ่นเบื้องสูง สมรู้ร่วมคิดก่อจลาจล แจ้งแก่ทั้งเขตปกครองผนึกสมุทร ทำลายสำนักนี้ทิ้งเสีย!”

“กล้าขู่ข้ารึ ไปขู่แม่เจ้าไป!” นายท่านเจ็ดหัวเราะร่า ก้าวออกมาก้าวหนึ่ง พุ่งไปยังปลัดเขตปกครอง หุ่นเชิดตัวนั้นก้าวเข้ามาขวางทันที ทั้งสองฝ่ายปะทะกันครืนครันกลางอากาศ

นายท่านเจ็ดไม่ใช่คู่มือ แต่เขาก็มีวิธีการอยู่มากมาย ยิ่งมีการระเบิดวิชาเทพอีก หากเผชิญหน้ากับขั้นสี่จริงๆ เขาอาจจะสู้ไม่ไหว แต่แค่หุ่นเชิดขั้นสี่ตัวหนึ่ง ชั่วระยะเวลาสั้นๆ เขาสู้ได้

ทั้งหมดนี้ ทำให้สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปมหาศาล ส่วนเรื่องในวันนี้ก็พลิกไปมาหลายครั้ง ระลอกคลื่นในใจของทุกคนไม่ได้หยุดโหมซัดเลยแม้แต่น้อย

ตอนนี้ ขณะที่ทั่วทั้งเมืองหลวงเขตปกครองกำลังสั่นสะเทือน ดวงตาปลัดเขตปกครองก็เปล่งประกาย เขารู้ดีว่าจะยืดเยื้อต่อไม่ได้ จึงก้าวออกมา คิดจะสยบทั้งหมด

แต่ตอนนี้เอง นายท่านเจ็ดที่ปะทะกับหุ่นเชิด ก็ตะโกนดังลั่น

“อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าเจ้าอยู่ที่นี่ ศิษย์ของข้าก็ออกมาเพื่อเจ้า เจ้ายังไม่ออกมาอีกหรือ!! ต้องให้ศิษย์ของข้าทั้งสองคนต้องสู้สุดชีวิตเลยรึ!!!”

แทบจะจังตอนที่เสียงนายท่านเจ็ดดังออกมา ร่างเงาสีเลือดร่างหนึ่งพลันพุ่งออกมาจากด้านล่างแท่นพิธี ปรากฏตัวอย่างกะทันหันเหนือความคาดหมายของผู้คนบนพื้นดินรอบๆ

ชั่วพริบตา ร่างสีเลือดนี้ก็ขึ้นมาอยู่กลางอากาศข้างๆ หุ่นเชิดตัวแรกที่กำลังต่อสู้กับชิงฉิน

ชุดเกราะสีแดงทั้งตัว หน้ากากสีเลือด แสงสีเลือดเปล่งออกมาทั่วร่าง ผู้ที่จู่ๆ ก็พุ่งตัวออกมานี้ ก็คือแม่ทัพเสี่ยเหยี่ยนเหยี่ยนลูกน้ององค์ชายเจ็ดที่รับผิดชอบแดนต้องห้ามเซียนนั่นเอง!

การปรากฏตัวของเขา ทำให้แม่ทัพคนอื่นข้างกายองค์ชายเจ็ดหน้าเปลี่ยนสี มีเพียงองค์ชายเจ็ดเท่านั้นที่ยังปกติ ไม่รู้สึกเกินคาดอะไร

สวี่ชิงก็หันมองเงาสีเลือดนั้นทันที

ขณะที่รอบด้านครืนครัน แม่ทัพเสี่ยเหยี่ยนสองมือทำปางกดไปทางหุ่นเชิดที่ปะทะกับชิงฉินอย่างรวดเร็ว ปากก็ส่งเสียงคำรามต่ำลอดออกมา

“เจ้าวังอาญา สหายเหิงซิ่น ตื่นขึ้นมาเถิด!!”

เมื่อเสียงแม่ทัพเสี่ยเหยี่ยนเปล่งออกมา ผู้บำเพ็ญนับแสนด้านล่างแท่นพิธีทั้งหมดก็สั่นสะท้าน สายอัสนีฟาดผ่าในใจ

ในใจสวี่ชิง โหมระลอกคลื่นสูงหมื่นจั้ง

โดยเฉพาะผู้บำเพ็ญวังอาญา แต่ละคนหัวใจรวดร้าวแทบแตกสลาย ตื่นตกใจและโกรธแค้นถึงขีดสุด

เหล่าคนธรรมดาในเมืองหลวงเขตปกครองก็เช่นกัน

อัสนีสวรรค์แล่นแปลบปลาบ

เพราะ ก่อนหน้านี้จางเหิงซิ่นเจ้าวังอาญาประกาศก้องไปทั่วทั้งสารทิศว่าสู้จนตัวตายที่แนวหน้า!

ตอนนี้ จากเสียงคำรามต่ำของแม่ทัพเสี่ยเหยี่ยน หุ่นเชิดร่างนั้นสั่นเทิ้มฉับพลัน ดวงตาไร้ประกายปรากฏระลอกคลื่น ร่างฉายแววดิ้นรนต่อต้าน ยกสองมือขึ้นอย่างไร้สติ และทำปางประทับเช่นเดียวกับแม่ทัพเสี่ยเหยี่ยน ร่วมมือด้วยสัญชาตญาณ

พริบตาที่ทั้งสองฝ่ามือทั้งสองฝ่ายประสานกัน หุ่นเชิดตัวนั้นก็แผดเสียงกรีดร้องแสบหูออกมา เกราะบนตัวแตกสลายครืนครัน เผยให้เห็นบาดแผลนับไม่ถ้วน ราวกับเป็นร่างที่ถูกปะเย็บติดต่อกัน

เงาวิญญาณไม่สมประกอบสายหนึ่งลอยขึ้นมาจากร่างของมัน ปรากฏเป็นร่างสูงใหญ่ระหว่างฟ้าดิน

กายเนื้อถูกทำลายได้ แต่ดวงวิญญาณจะคงอยู่ชั่วนิรันดร์

ใบหน้าของดวงวิญญาณนี้…คือหนึ่งในสามเจ้าวังเขตปกครองผนึกสมุทร เจ้าวังอาญานั่นเอง!

คนที่เห็นภาพนี้ทั้งหมดในเมืองหลวงเขตปกครองสีหน้าเปลี่ยนไปในชั่วพริบตา

ดวงวิญญาณไม่สมประกอบนั้นก็ไม่อาจคงอยู่ได้นาน เวลานี้กำลังสูญสลาย เอื้อนเอ่ยอะไรออกมาไม่ได้ มีเพียงสีหน้าอาลัยอาวรณ์จ้องมองผนึกสมุทร เช่นเดียวกับเจ้าเขตปกครองรวมถึงข่งเลี่ยงซิวในตอนนั้น

ความกรุ่นโกรธจากร่างของผู้บำเพ็ญวังอาญาบนพื้นในตอนนี้โหมขึ้นมาอย่างน่าครั่นคร้าม สายตาโกรธแค้นจ้องปลัดเขตปกครองเขม็ง

แม่ทัพเสี่ยเหยี่ยนหันหลัง มองปลัดเขตปกครอง ยกมือขวาขึ้นปลดหน้ากากของตน เผยให้เห็นใบหน้าที่ผู้คนรู้สึกคุ้นเคย

“ปลัดเขตปกครอง ไม่เจอกันเสียนาน!”

บทที่ 533-2 ลูกศิษย์องค์รัชทายาท ไป๋เซียวจัว (2) 1

บทที่ 533-2 ลูกศิษย์องค์รัชทายาท ไป๋เซียวจัว (2) 2

บทที่ 533-2 ลูกศิษย์องค์รัชทายาท ไป๋เซียวจัว (2) 3

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา