บทที่ 536-2 ไป๋เซียวจัว ปิดฉาก (2)
ในค่ายกล กระบี่ขนาดใหญ่สามสิบสามเล่มส่งเสียงครืนครัน กาลเวลาในบริเวณหมื่นลี้ราวกับย้อนกลับมาอีกครั้ง แม่น้ำยมโลกหยุดหลั่งไหล ร่างเงาร่างหนึ่งก่อตัวขึ้นใหม่จากความว่างเปล่าในจุดที่ปลัดเขตปกครองหายไป
ไม่ใช่รูปร่างเสี้ยวหน้าเทพเจ้าอีกต่อไป แต่ฟื้นฟูกลับมาเป็นร่างมนุษย์
อีกทั้งดูเด็กลงมาก เสื้อผ้าอาวรณ์ก็ไม่ใช่รูปแบบปัจจุบัน
ปักเย็บรูปแบบโบราณ
ราวกับว่า ที่ปรากฏตัวขึ้นตอนนี้ไม่ใช่ปลัดเขตปกครอง แต่เป็นเจ้าเขตปกครองผนึกสมุทรของรัฐม่วงครามในอดีต ร่างที่แท้จริงของไป๋เซียวจัว
เขายืนอยู่ระหว่างฟ้าดิน ยืนอยู่ท่ามกลางกระบี่สามสิบสามเล่ม จ้องมองผืนดิน มองดวงตาขนาดยักษ์ของจักรพรรดิวิญญาณบรรพกาลที่จ้องมองตนมาตลอด สีหน้าเจือแววเปลี่ยวเหงา คารวะไปทางดวงตายักษ์ครั้งหนึ่ง
“ขุนนางรัฐม่วงครามในกาลก่อน คารวะจักรพรรดิวิญญาณบรรพกาล
“ในเมื่อพระองค์ไม่ยอมให้กระหม่อมหนีออกไป หมายมาดจักกลืนกินกระหม่อมให้ได้ เช่นนั้นกระหม่อมก็ทำได้เพียงใช้วิธีการจากโลกภายนอกกับที่นี่แล้ว”
ดวงตายักษ์จักรพรรดิวิญญาณบรรพกาลเฉยชา แต่ส่วนลึกกลับมีประกายหม่น เมื่อพาดผ่านก็หายไป
ไป๋เซียวจัวชี้สวี่ชิงบนพื้นดิน
“จักรพรรดิวิญญาณบรรพกาล ข้าจะเปิดประตูกาฬกาลกิณี ทำให้กาฬกาลกิณีกับโลกวิญญาณบรรพกาลของท่านเชื่อมถึงกัน ผลที่ตามมาทั้งหมด มหันตภัยทั้งหมด มิใช่ความปรารถนาของข้า แต่ล้วนเป็นสิ่งที่เด็กคนนี้ถวายให้”
สวี่ชิงในแม่น้ำยมโลก ขณะที่ถูกปกป้อง เดิมขณะที่ถูกดูดดึงก็พัดม้วนเข้าไปยังส่วนลึกแม่น้ำยมโลกที่เสียงเคี้ยวดังออกมาอย่างไม่อาจควบคุมได้ ร่างของเขาก็หยุดชะงักอีกครั้งจากการที่แม่น้ำยมโลกหยุดหลั่งไหลในตอนนี้เช่นกัน
แต่เขาก็ยังอยู่ในท่าโค้งคารวะตั้งแต่ต้นจนจบ
ไม่ต่อต้าน เคารพอย่างสุดซึ้ง
ต่อให้ตอนนี้จะถูกไป๋เซียวจัวชี้ เขาก็ไม่เงยหน้าขึ้น ยังคงเป็นเช่นเดิม
ต่อให้เจตนาที่แฝงอยู่ในคำพูดของไป๋เซียวจัวจะคล้ายกับวิธีที่เขาเคยทำ สวี่ชิงก็ไม่หวั่นไหวแม้แต่น้อย เมื่อพาอีกฝ่ายเข้ามาที่นี่ และหลังจากแสดงเจตนาที่มา สวี่ชิงรู้ดีว่าตนควบคุมทุกอย่างไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
เขา ทุ่มสุดตัวแล้ว
ดังนั้นสวี่ชิงจึงก้มหน้า หลับตา ไม่สนใจ
จักรพรรดิวิญญาณโบราณก็ไม่สนใจ องค์ท่านเพียงแค่มองปลัดเขตปกครอง เสียงกลืนน้ำลายเดี๋ยวชัดเดี๋ยวเลือนอยู่รอบด้าน
ไป๋เซียวจัวเงียบนิ่ง รู้สึกกระวนกระวายขึ้นมา
แต่ไม่ว่าอย่างไร เขาก็ต้องลองดู จึงยกสองมือขึ้นฟ้า ส่งเสียงร่ายคาถาออกมา
“ใช้กรรมของข้า เชื่อมโยงกาฬกาลกิณี พสกนิกรของข้า…จงหวนคืน!”
เมื่อเขาเปล่งเสียงออกมา จู่ๆ ม่านฟ้าชั้นที่สองบนท้องฟ้าเขตปกครองผนึกสมุทรนอกโลกวิญญาณบรรพกาลที่ถูกตาข่ายยักษ์สีทองฝืนต้านทานไว้ก็สั่นไหว
ขณะที่เทือกเขาบรรพกาลบนแผ่นดินใหญ่ถล่มลงมาเรื่อยๆ จู่ๆ ม่านฟ้าชั้นนั้นก็สลายหายไปท่ามกลางความหวาดกลัวและตกตะลึงของเหล่าสรรพชีวิตหลังจากที่ฟื้นคืนกลับมาในเขตปกครองผนึกสมุทร วิญญาณร้ายที่พุ่งออกมาจากในนั้นก็หวนกลับคืนเป็นจำนวนมาก
พริบตานั้น ม่านฟ้าชั้นที่สองก็หายไป
ต่อมา ส่วนลึกของหุบเหววิญญาณ ซากงูขนาดยักษ์ซึ่งแบกโลกวิญญาณบรรพกาลที่สวี่ชิงเคยเห็นในพื้นที่ว่างเปล่าครั้งนั้น จู่ๆ ก็ปรากฏคลื่นวนขนาดมโหฬารขึ้นมา
การหมุนวนครืนครันของคลื่นวนนี้ทรงพลังอย่างยิ่ง ราวกับวาดม่านฟ้าชั้นที่สองในโลกภายนอกที่กำลังหายไป
ตอนนี้ ที่นี่ มันแผ่ขยายออกไป
งูยักษ์สั่นคลอน
ในม่านฟ้าชั้นที่สองมีเสียงคำรามนับไม่ถ้วนดังออกมา วิญญาณจำนวนมากพุ่งออกมาจากด้านใน และที่นี่ไม่มีกลิ่นอายของแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์คอยรบกวน วิญญาณของรัฐม่วงครามเหล่านี้จึงมาเยือนได้อย่างราบรื่น พุ่งไปหางูยักษ์
แต่พริบตาที่พวกมันไปถึง
จู่ๆ งูยักษ์ตัวนั้นก็ลืมตา แววตาไร้ประกาย ขาวโพลนไปหมด ร่างพลันเลื้อยขยับ แผ่พลานุภาพที่น่าตื่นตะลึง แบกโลกวิญญาณบรรพกาลไว้บนศีรษะ กระแทกไปที่คลื่นวนอย่างจัง
สองฝ่ายปะทะกันในพริบตา ไม่มีเสียงครืนครัน ไม่มีคลื่นพลังใด
มีแค่การพังทลายที่ไร้ซุ่มเสียง
งูยักษ์แตกสลาย โลกวิญญาณบรรพกาลเหนือศีรษะของมันพังทลาย
และสิ่งที่พังทลาย ยังมีคลื่นวนม่านฟ้าชั้นที่สองรวมถึงวิญญาณราษฎรรัฐม่วงครามจำนวนนับไม่ถ้วนที่เสียชีวิตกระจัดกระจายออกมาจากด้านใน นอกจากนี้ยังรวมถึงดินแดนกาฬกาลกิณีที่อยู่ในคลื่นวนส่วนหนึ่งด้วย
เหมือนฟองอากาศที่แตก สูญสลายไปในพื้นที่ว่างเปล่า
ไม่ฟื้นคืนกลับมาอีก
และตอนนี้ ในโลกวิญญาณบรรพกาล เหนืออาณาบริเวณหมื่นลี้ที่เกิดจากกระบี่ใหญ่สีทองสามสิบสามเล่ม บนท้องฟ้าไม่มีอะไรปรากฏออกมา
สวี่ชิงไม่รู้สึกแปลกใจ
ในดวงตายักษ์ของจักรพรรดิวิญญาณบรรพกาลเพียงแค่เปล่งแสงหม่นออกมาเล็กน้อย ไร้ระลอกคลื่น
ปลัดเขตปกครองเงียบนิ่ง เขาเงยหน้ามองท้องฟ้าที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด สัมผัสได้ว่าการอัญเชิญของตนล้มเหลว ขณะเดียวกันก็สัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่ทิ่มแทงดวงใจ
ขณะที่เขารู้สึกคลุมเครือไม่ชัดเจน ราวกับเห็นพสกนิกรนับไม่ถ้วนของตนกำลังกรีดร้อง กำลังสูญสิ้ย
หลังจากผ่านไปหลายอึดใจ ทั้งตัวเขาก็เหมือนแก่ชราลงมาก ก้มหน้ามองสวี่ชิง ถอนหายใจแผ่วเบา
“ก่อนหน้านี้เจ้าก็เคยใช้วิธีการเช่นนี้หรือ”
สวี่ชิงมองปลัดเขตปกครอง พยักหน้า
ก่อนที่อีกฝ่ายจะสำแดงเคล็ดวิชานี้ สวี่ชิงก็คาดการณ์ไว้แล้ว เขาไม่เชื่อว่าจักรพรรดิวิญญาณบรรพกาลจะไม่อุดช่องโหว่นี้หลังจากที่เคยโดนตนข่มขู่ไปแล้ว
ส่วนขจัดอย่างไร สวี่ชิงไม่รู้ แต่จะต้องเกี่ยวข้องกับการซ่อนเร้นเป็นแน่
และสีหน้าของปลัดเขตปกครองก็ทำให้สวี่ชิงเดาวิธีของจักรพรรดิวิญญาณบรรพกาลได้ นอกจากการซ่อนเร้นโลกวิญญาณบรรพกาลแล้ว น่าจะยังหาวิธีโต้กลับเอาไว้
ตอนนี้กระบี่ขนาดใหญ่สีทองสามสิบสามเล่มเริ่มหม่นแสง แม่น้ำยมโลกที่ถูกสะกดไว้ก็เริ่มตีเกลียว พลังกลืนกินปะทุขึ้นอีกครั้ง
เมื่อเห็นสิ่งเหล่านี้ ปลัดเขตปกครองก็สีหน้าฝืดเฝื่อน
แผนการทั้งหมดของเขา การเตรียมการทั้งหมด ตอนนี้ไม่มีประโยชน์เลย
สิ่งที่เขาสัมผัสได้ในตอนนี้ ก็เหมือนกับที่เทพเจ้าแดนต้องห้ามเซียนพบกับชื่อหมู่
ส่วนตัวแปรทั้งหมด ต้นกำเนิด…ล้วนมาจากสวี่ชิง
ปลัดเขตปกครองจึงหันหน้าไปมองสวี่ชิงอย่างล้ำลึกผาดหนึ่ง สีหน้าเปลี่ยนจากฝืดเฝื่อนเป็นเยือกเย็น



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา