เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 537

บทที่ 537 เหยียบขวากหนามให้เตียน เดินไปสู่บัลลังก์! (1)

จิตเทพจักรพรรดิวิญญาณบรรพกาล ดังก้องไปทั้งโลกวิญญาณบรรพกาลราวกับสายอัสนี ราวกับเป็นเสียงคำราม

ไม่ใช่แค่หูเท่านั้นที่ได้ยิน จิตใจสัมผัสได้ กระทั่งวิญญาณก็ยังสั่นสะท้านด้วยจิตเทพนี้ตามสัญชาตญาณ

นั่นคือความสั่นสะเทือนสยบระดับถึงแก่ชีวิต นั่นคือความทรมานของกายทิพย์

นิ้วเทพเจ้า แข็งค้างไปทันที

ความหวาดกลัวปะทุขึ้นมาราวกับกระแสน้ำขึ้น กลายเป็นความโศกเศร้าและขุ่นเคือง ทับถมจิตใจจนเต็มเปี่ยม

ร่างไม่สมประกอบของสวี่ชิงก็สั่นสะท้านขณะที่จิตเทพนี้เพ่งเล็ง

แม้ร่างกายเขาจะไม่ธรรมดา ก็ยังแตกสลายอย่างรวดเร็ว อาการบาดเจ็บลุกลามไม่หยุด พลังเทพที่หลงเหลืออยู่ก็ไม่อาจบรรเทาได้นานนัก

แต่ตอนนี้สวี่ชิงไม่มีเวลาสนใจอาการบาดเจ็บ เขาพยายามทำให้ตนสงบลง

เขารู้ดีว่าตอนนี้ ตนเองจะยั่วโทสะของอีกฝ่ายไม่ได้

แต่ไม่รอให้สวี่ชิงเอ่ยปาก จักรพรรดิวิญญาณบรรพกาลก็หมดความอดทน ระหว่างที่จิตเทพส่งเสียงครืนครันท้องฟ้าก็ยิ่งมืดหม่น แม่น้ำยมโลกบนพื้นดินตีเกลียวอีกครั้ง เผยโครงกระดูกจำนวนมหาศาลออกมา น่าขนพองสยองเกล้า

พลังดึงดูดมหาศาลวูบหนึ่งปะทุขึ้นในพริบตา ราวกับมีคลื่นวนขนาดใหญ่แผ่มาทางสวี่ชิง ฉายแววละโมบและกระหายออกมา

ร่างสวี่ชิงสั่นเทิ้ม เนื้อหนังมังสาที่แตกเป็นเสี่ยงๆ ถูกดูดไปในพริบตา กลิ่นอายแห่งชีวิตก็สลายไปอย่างรวดเร็ว ทั้งร่างค่อยๆ เน่าเปื่อย

นิ้วเทพเจ้าในร่างก็ส่งเสียงกรีดร้อง จิตวิญญาณขององค์ท่านกระเจิดกระเจิงด้วยแรงดูดนี้ กลายเป็นปราณหมอกสีดำเส้นแล้วเส้นเล่า ถูกสูบออกไปจากทั่วร่างสวี่ชิง รวมกันบนท้องฟ้าเป็นภาพมายานิ้วมือ

ขั้นตอนนี้สำหรับนิ้วเทพเจ้า คือความเจ็บปวดแสนสาหัส ยิ่งมีความเศร้าโศกและขุ่นเคืองตลบอบอวล องค์ท่านคิดว่าอันที่จริงชีวิตนี้ของตนช่างอ้างว้างเสียเหลือเกิน

ทั้งๆ ที่ตนก็เป็นเทพเจ้า…

แต่กลับถูกชื่อหมู่กลืนกินร่างเดิม ร่างตนตอนนี้ก็ยากจะหลีกหนีการกลืนกินได้พ้น องค์ท่านไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทั้งๆ ที่อำนาจเทพของตนคือโชคร้าย แต่โชคร้ายกลับเอาแต่มาหาตนเองเสียอย่างนั้น

ดังนั้นองค์ท่านจึงคิดจะกระเสือกกระสนท่ามกลางความน่าสังเวช แต่สุดท้ายก็ไม่มีประโยชน์ องค์ท่านตอนนี้ราวเหยื่อที่ถูกคาบไว้ ยิ่งดิ้นรน อีกฝ่ายก็ยิ่งคาบไว้แน่นขึ้น

หมอกวิญญาณเทพที่มากขึ้น พวยพุ่งออกมาจากร่างสวี่ชิงเรื่อยๆ

มองไกลๆ วิญญาณเทพเหล่านี้ลอยสูงขึ้น บิดเบี้ยวไปทั่วสารทิศ ทำให้ความว่างเปล่ารอบๆ ตัวสวี่ชิงเลือนราง

ยิ่งมีกลิ่นอายเทพเจ้าฟุ้งออกมาจากนิ้วเทพเจ้าที่เปลี่ยนจากภาพมายาเป็นวัตถุจริงด้วย

สวี่ชิงเงียบนิ่ง เป้าหมายที่จักรพรรดิวิญญาณบรรพกาลจะสูดรับไม่ใช่แค่นิ้วเทพเจ้าในร่างเขา แต่ยังรวมถึงพลังชีวิตและจิตวิญญาณของเขาด้วย

จากการที่อีกฝ่ายสูบออกไป ตนเองกำลังลดระดับจากกายทิพย์เทพเจ้าไปผู้บำเพ็ญอย่างไม่ต้องสงสัย

สำหรับจิตมาดร้ายของจักรพรรดิวิญญาณบรรพกาล สวี่ชิงไม่รู้สึกเกินคาดแต่อย่างไร

เดิมระหว่างเขากับจักรพรรดิวิญญาณบรรพกาลก็ไม่ได้สนิทสนมกลมเกลียวอยู่แล้ว ท่าทีของอีกฝ่ายไม่มีทางเปลี่ยนไปด้วยอาหารชิ้นเดียวแน่นอน

นี่จึงเป็นสาเหตุที่หากไม่ใช่ทางเลือกสุดท้ายจริงๆ สวี่ชิงก็ไม่คิดจะใช้ยันต์ห้วงวิญญาณ

ผู้ที่ให้พยัคฆ์ไปกินหมาป่า ก็ประหนึ่งเดินอยู่ขอบเหว หากไม่ระวังเพียงก้าวเดียวก็จะต้องฝังร่างไว้ที่ก้นเหว

แต่ความจริงใจก่อนหน้า อย่างน้อยก็ยังได้โอกาสกล่าวอ้างถึงในตอนนี้

สวี่ชิงจึงเอ่ยเสียงราบเรียบ

“ฝ่าบาท ดอกเบี้ยก่อนหน้านี้ ยังไม่พึงพอใจหรือพ่ะย่ะค่ะ”

จักรพรรดิวิญญาณบรรพกาลไม่สนใจ ราวกับตอนนี้ความสนใจทั้งหมดอยู่ที่ของว่างเหนือร่างสวี่ชิงที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

ส่วนเรื่องที่จะสูบพลังชีวิตของสวี่ชิงไปด้วย จักรพรรดิวิญญาณบรรพกาลก็ไม่สนใจเช่นกัน นั่นเป็นแค่เมล็ดงาที่แต่งแต้มบนของว่าง ทำให้ของว่างหอมหวานขึ้น

เห็นเช่นนี้ นิ้วเทพเจ้าก็สิ้นหวังถึงที่สุด ขณะที่ร่างของมันชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เพียงพริบตาก็จะถูกสูบออกมาจากร่างสวี่ชิงทั้งหมด เสียงไร้ระลอกคลื่นใดของสวี่ชิงก็ดังขึ้นอีกครั้ง

“ฝ่าบาท สิ่งที่พระองค์สูดรับตอนนี้ มิใช่ดอกเบี้ยงวดที่สอง แต่เป็นเครื่องมือที่ผู้เยาว์หยิบยืมมาจากพระองค์ชั่วคราว หากพระองค์นำกลับไป หลังจากนี้ก็อาจจะไม่มีดอกเบี้ยแล้ว”

คำกล่าวของสวี่ชิงเบื้องหน้าราววัวหินจมลงไปในมหาสมุทร[1] จักรพรรดิวิญญาณบรรพกาลไม่มีปฏิกิริยาใด แต่หลังจากกล่าวประโยคนนี้ออกมา ดวงตายักษ์ของจักรพรรดิวิญญาณบรรพกาลก็มองไปทางสวี่ชิงอย่างประหลาดใจทันที

จิตมาดร้ายนับไม่ถ้วนที่มาจากทั่วทิศทางก็ล่องลอยอยู่บนท้องฟ้าในพริบตานี้ หมุนเวียนไม่หยุด แผ่ความกระหายออกมาเช่นกัน เจตนาการเลือกผู้ที่จะกลืนกินนั้นรุนแรงอย่างยิ่ง

ทั้งหมดนี้กลายเป็นจิตมาดร้ายเข้มข้น แผ่ขยายไปในฟ้าดิน กลายเป็นแรงกดดันรุนแรง กดทับร่างสวี่ชิง

สวี่ชิงเงยหน้าขึ้นอย่างไม่สะทกสะท้าน จ้องดวงตายักษ์เขม็ง ไม่สนใจว่าร่างของตนเองจะแตกสลายอีกครั้ง ขณะที่เลือดสดหลั่งริน ร่างสามสิบกว่าจั้งแต่เดิมของเขาตอนนี้เหลือเท่ามนุษย์สามัญ บาดแผลนับไม่ถ้วน

“ฝ่าบาท ด้านนอกมีอาหารอยู่มากมาย แต่ผู้ที่ยินดีถวายให้พระองค์ อาจจะมีแค่กระหม่อมผู้เดียวกระมัง

“หากพระองค์กลืนกินเครื่องมือที่กระหม่อมหยิบยืม ทั้งยังกลืนกระหม่อมไปด้วย เช่นนั้นดอกเบี้ยก็จะไม่มีอีกต่อไป”

แววตาสวี่ชิงใสกระจ่าง เขาไม่ได้พูดโกหก เขาแค่เปลี่ยนวิธีกล่าวเรื่องสิทธิ์ในการครอบครองนิ้วเทพเจ้าใหม่ เช่นนี้ก็จะทำให้การพูดคุยเจรจาของเขากับจักรพรรดิวิญญาณบรรพกาลราบรื่นยิ่งขึ้น

เขาเชื่อว่าตัวตนอย่างจักรพรรดิวิญญาณบรรพกาล สัมผัสถึงความจริงใจของตนได้

ความจริงก็เป็นเช่นนั้น ครั้งนี้หากไม่ใช่นิ้วเทพเจ้าลงมือในช่วงเวลาสำคัญ สวี่ชิงก็ไม่มีวิธีที่จะเข้าใกล้เสี้ยวหน้าของปลัดเขตปกครอง และส่งข้ามมาที่นี่ไม่ได้

ดังนั้น แรงดึงดูดที่มาจากแม่น้ำยมโลกก็หยุดลงพลัน

ในตอนนี้มีเพียงเสียงกลืนน้ำลายที่ดังออกมาไม่หยุด เหมือนกำลังพยายามข่มใจ ส่วนความหิวโหยรวมถึงความละโมบที่แสดงออกมาก็ทำให้รู้สึกหนังศีรษะชาหนึบ

หลังจากที่สิ่งมีชีวิตทั้งหมดได้ยินก็เกิดหวาดกลัวอย่างไม่รู้จบตามสัญชาตญาณ ความรู้สึกอย่างตนจะกลายเป็นอาหาร ใกล้จะถูกกลืนกิน

นิ้วเทพเจ้าที่เป็นวัตถุจริงแปดส่วนแล้วเหนือหัวสวี่ชิงก็เช่นกัน ขณะที่สิ้นหวังก็ได้ยินเสียงของสวี่ชิง องค์ท่านก็ตระหนักได้ว่าสวี่ชิงกำลังปกป้องตน ความรู้สึกกระวนกระวายที่แปรมาจากความตื่นเต้นและความตึงเครียดจึงไม่อาจพรรณนาได้

ความวิตกกังวลกับผลได้ผลเสียที่เกิดจากความหวังและสิ้นหวังผสมปนเปกัน ก็โหมคลื่นลูกมหึมาขึ้นในจิตใต้สำนึกองค์ท่าน โถมทับความเกลียดชังที่มีต่อสวี่ชิง

เพราะองค์ท่านรู้ดีว่าตอนนี้ผู้ที่จะช่วยตนได้มีเพียงสวี่ชิงเท่านั้น

ดังนั้นองค์ท่านที่ลอยอยู่กลางอากาศ จึงรีบแผ่จิตเทพยอมรับออกมา

ดวงตายักษ์ของจักรพรรดิวิญญาณบรรพกาลจ้องสวี่ชิงเขม็ง

บทที่ 537 เหยียบขวากหนามให้เตียน เดินไปสู่บัลลังก์! (1) 1

บทที่ 537 เหยียบขวากหนามให้เตียน เดินไปสู่บัลลังก์! (1) 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา