บทที่ 538 ได้ใจผู้คนกลับคืน มีเพียงครรลองที่ถูกต้องและความยุติธรรมเท่านั้น
ผู้ทะลวงฟ้า ย่อมต้องแบกรับน้ำหนักของมัน
น้ำหนักนี้มหาศาลนัก สามารถบดขยี้ร่างกายและวิญญาณทุกอย่าง
แต่หากแบกรับเอาไว้ได้สำเร็จก็จะเป็นดั่งนิพพาน
ผู้นิพพาน ยามสยายปีกบินบนนภา จะกลายเป็นจุดดึงดูดสายตาเพียงหนึ่งเดียว
เสี้ยวขณะนี้ สวี่ชิงที่ข้ามผ่านอุปสรรคอันตรายกลับมาก็คือผู้นิพพาน
หลังจากที่ผ่านเคราะห์ทุกอย่างก่อนหน้านี้ เงาร่างที่สะท้อนในสายตาของคนทั้งหลายประดุจแสงที่สว่างพร่างพรายที่สุดในฟ้าดิน
แสงนี้สูงหมื่นจั้ง จุดเพลิงแห่งอารมณ์ของคนในเขตปกครองหลวงทั้งหลาย กระตุ้นหัวใจที่กดดันอัดอั้นทุกข์ระทมต่อเนื่องมาของเขตปกครองผนึกสมุทร
ฟ้าดินเดือดพล่าน ทั้งแปดทิศโห่ร้องยินดีเพื่อเขา
คลื่นเสียงซัดโหม ลมเมฆหอบม้วน
เนื่องจากในช่วงเวลาที่ไม่ถึงสองปีนี้ สำหรับทุกคนในเขตปกครองผนึกสมุทรแล้วล้วนยากลำบากแสนสาหัสนัก
เจ้าเขตปกครองคนก่อนแตกดับเสมือนหมอกคลุมเครือปกคลุมในใจของคนทั้งหลาย และสงครามก็มาอย่างกะทันหัน การรบตายของเจ้าวังยิ่งทำให้เหมือนมีเคราะห์อัสนีฟาดลงมาในหมอกคลุมเครือนี้ ฉีกทึ้งเขตปกครองผนึกสมุทร ทิ้งเป็นรอยแผลขนาดมหึมาในใจของคนที่รอดมาได้ทุกคน
และการจบสิ้นของสงครามก็ทำให้เขตปกครองผนึกสมุทรที่อยู่ท่ามกลางพายุลมฝนกระหน่ำเพิ่งกลับมาฟื้นฟู แต่เหตุการณ์เปลี่ยนแปลงจากปลัดเขตปกครองทำให้รู้สึกสิ้นหวัง
ในใจของทุกคนร้อนรนจนถึงขีดสุด พวกเขางุนงงสับสนทำตัวไม่ถูก พวกเขาขมขื่น พวกเขาไร้ซึ่งหนทาง พวกเขาต้องการให้ใครสักคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นมาเปลี่ยนแปลงทุกอย่างนี้ พวกเขาต้องการใครสักคนพาพวกเขาฝ่าทุกอย่างนี้ออกไป
คนคนนี้พวกเขาเคยคิดว่าเป็นเจ้าวัง แต่เจ้าวังรบตาย
พวกเขาเคยคิดว่าเป็นองค์ชายเจ็ด เป็นปลัดเขตปกครอง…
แต่วันนี้พวกเขาคิดว่าคนคนนั้นคือสวี่ชิง!
ในเสี้ยวพริบตานี้ฟ้าเปลี่ยนสี นิมิตมงคลท่วมท้น บนผืนแผ่นดินเสียงตะโกนกู่ร้องยินดีดังกึกก้องกังวาน คลื่นเสียงซัดไปทั่วทุกทิศ ไม่ว่าจะชายหญิง คนแก่หรือเด็ก ไม่ว่าจะเป็นคนธรรมดาหรือผู้บำเพ็ญ ในสายตาของเขา ในใจของเขามีเพียงเงาของสวี่ชิงคนเดียวเท่านั้น
และสวี่ชิงก็เป็นจุดรวมสายตาของคนทั้งหลายในเขตปกครองผนึกสมุทรนี้
มังกรทองคำราม ชิงฉินกู่ร้อง ดวงชะตาจากร่างของทุกคน จากบนท้องฟ้า จากในแผ่นดิน รวบรวมมาไม่หยุด ทำให้กวานเหนือศีรษะสวี่ชิงยิ่งเจิดจ้าพร่างพราย
ดังนั้นท่ามกลางเสียงโห่ร้องยินดีนี้มีคนตะโกนคำว่าเจ้าเขตปกครองออกมา!
ไม่นานนัก คำเรียกนี้ก็ได้รับการยอมรับ เสียงมากมายทยอยตะโกนออกมา
“เจ้าเขตปกครอง!”
“เจ้าเขตปกครอง!”
ท่ามกลางเสียงโห่ร้องยินดีของคนทั้งหลาย ในยามที่บรรยากาศของทั้งเขตปกครองหลวงผนึกสมุทรคึกคักจนขีดสุด ผู้อาวุโสใหญ่เผ่าต้นไม้วิญญาณที่คุ้มกันสวี่ชิงกลับมา ภายใต้การส่งสัญญาณของสวี่ชิงก็หยุดอยู่ห่างออกไปจากเมืองเขตปกครองหลวงร้อยจั้ง
สวี่ชิงที่อยู่บนไหล่ของเขามองทุกอย่างนี้ ในใจเกิดระลอกคลื่นลูกยักษ์ซัดโหม
จะอย่างไรเขาก็เพิ่งจะอายุยี่สิบปี ต่อให้ติดตามอาจารย์ เรียนรู้กับนายกองมากมาย แต่เสี้ยวขณะนี้ ในใจของสวี่ชิงเกิดระลอกคลื่นมหาศาล เขาไม่เคยคิดว่าจะเป็นเจ้าเขตปกครอง
ก่อนหน้านี้ไม่มีความคิดนี้เลยแม้แต่น้อย
เขาก็แค่ทำตามหัวใจของตัวเอง ลงมือทำในสิ่งที่คิดเท่านั้น
ดังนั้นเขาจึงยืนอยู่นอกเขตปกครองหลวง เงียบนิ่งไปหลายอึดใจ
ในใจเกิดความงุนงงสับสนเล็กน้อย
จวบจนเสียงกู่ร้องยินดีในเขตปกครองหลวงดังขึ้นเรื่อยๆ สวี่ชิงสูดลมหายใจลึก สะกดระลอกคลื่นในใจ ก้าวเดินไปข้างหน้าทีละก้าว
ก้าวเข้ามาในเขตปกครองหลวง พุ่งตรงไปยังแท่นพิธี
ทุกที่ที่ผ่าน คนธรรมดาหมอบคารวะ ผู้บำเพ็ญก็เช่นกัน ตลอดทางที่เดินไปล้วนเป็นเช่นนี้
กวานที่เหนือศีรษะของเขายิ่งเจิดจ้าพร่างพราย
จวบจนสวี่ชิงเดินไปถึงแท่นบูชา
พริบตาที่มาถึงที่นี่ ผู้บำเพ็ญทั้งสามวังจำนวนหลายแสนบนพื้น ในดวงตาต่างฉายประกายแสงแรงกล้า ประสานหมัดโค้งคารวะสวี่ชิง!
ไม่มีใครขอให้พวกเขาทำแบบนี้ แต่หลังจากที่เห็นทุกอย่างกับตาแล้ว พวกเขาอยากจะทำแบบนี้ไปโดยสัญชาตญาณ
เพื่อเจ้าวังของตัวเอง เพื่อการจากไปของเจ้าเขตปกครองคนก่อน เพื่อการคลี่คลายเคราะห์ครั้งใหญ่หลวงของเขตปกครองผนึกสมุทร เพื่อวีรชนผู้กล้าหาญ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ล้วนมากพอให้พวกเขาคารวะทำความเคารพด้วยความเต็มใจยินดี
การโค้งคารวะของคนหลายแสนทำให้กวานดวงชะตาเหนือศีรษะสวี่ชิงส่งเสียงครืนครัน ปะทุขึ้นมาอีกครั้ง ประกายแสงเกินหมื่นจั้ง
รองเจ้าวังทั้งสาม บนใบหน้าต่างฉายรอยยิ้ม ประสานหมัดคารวะเช่นกัน
หลี่อวิ๋นซานที่อยู่ในนั้นสีหน้าฉายความชื่นชม
ผู้ดูแลทั้งสามวังก้าวไปคารวะเช่นกัน สายตาที่มองสวี่ชิงแฝงความเหม่อลอยเหมือนฝัน
นายท่านเจ็ดไม่คารวะ นายกองด้วยเช่นกัน คนในเขตปกครองสมุทรผนึกสมุทร มีเพียงฐานะของเขาสองคนเท่านั้น ที่มีคุณสมบัติไม่คารวะ เพราะพวกเขาเป็นสายเดียวกัน
โดยเฉพาะนายท่านเจ็ด ความภาคภูมิใจดวงตาปกปิดไม่มิด ชัดเจนเป็นอย่างยิ่ง
นายกองที่อยู่ข้างๆ ก็เช่นกัน ยืดอก ดวงตาฉายแววภาคภูมิใจ
องค์ชายเจ็ดบนท้องฟ้ามองสวี่ชิงที่เดินมา มองทุกอย่างรอบๆ เขารู้ดีว่าหลังจากนี้ในเขตปกครองปผนึกสมุทรจะไม่มีใครแตะสวี่ชิงได้อีกแม้แต่ปลายผม
ส่วนโหวเหยา เขาจ้องเพ่งสวี่ชิง ใบหน้าฉายรอยยิ้ม ในดวงตาแฝงด้วยความล้ำลึก ยิ่งมีความเด็ดเดี่ยวบางๆ
เขาในวันนี้จะเบิกฟ้าเบิกดิน จะทำเรื่องที่เผ่ามนุษย์ไม่เคยมีมาก่อน!
และที่นี่ในคนทั้งหลายเหล่านี้ ก็มีเพียงเขาที่มีคุณสมบัติผลักดันเรื่องนี้
แม้ว่าความเป็นไปได้ที่เรื่องนี้จะสำเร็จแทบจะไม่มีก็ตาม เพราะธรรมเนียมโบราณยากจะแตะต้อง
แต่หลายๆ เรื่องจะไม่ทำเพราะไม่มีทางเป็นไปไม่ได้
ต่อให้ล้มเหลว ขอเพียงลงมือทำ เช่นนั้นก็คือท่าทีของเขตปกครองผนึกสมุทร ต่อให้เป็นจักรพรรดิมนุษย์ก็ต้องชั่งน้ำหนักตัดสินใจอย่างระมัดระวัง
อีกทั้งล้มเหลวก็ไม่เป็นไร เรื่องนี้ต่อให้ตอนนี้ไม่มีทางทำให้สำเร็จได้เลย แต่ขอเพียงลงมือทำ เช่นนั้นอนาคตจะต้องสำเร็จแน่นอน
‘คิดว่าวิญญาณของเจ้าเขตปกครองคนก่อรและสหายเลี่ยงซิวก็คงเห็นด้วยที่ข้าทำเช่นนี้’
โหวเหยาพึมพำในใจ มองไปทางสวี่ชิง

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา