บทที่ 545 ลอบสังหารหน้าหลุมศพ (1)
ผืนอินทนิล สำหรับเผ่ามนุษย์ทวีปปักษาสวรรค์ทักษิณนั้น มีความหมายที่ไม่ธรรมดาแฝงอยู่
โดยเฉพาะสำหรับคนเก็บกวาดและคนธรรมดาแล้ว ผืนอินทนิลเป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจจักรพรรดิ เป็นสัญลักษณ์ของอำนาจสูงส่ง ใครก็ตามที่ออกมาจากผืนอินทนิล ก็เหมือนร่างมีแสงเปล่งประกาย สูงส่งกว่าผู้อื่น
ราวกับเสื้อผ้าของพวกเขางดงามตลอดเวลา เรือนร่างของพวกเขาเหมือนสะอาดสะอ้านอยู่เสมอ
ทำให้ผู้คนใฝ่ฝันหา
ดังนั้นการสามารถเข้าไปในผืนอินทนิลได้ พักพำนักอยู่ที่นั่น คือความใฝ่ฝันและความปรารถนาทั้งชีวิตของคนมากมายในทวีปปักษาสวรรค์ทักษิณ
แต่น่าเสียดาย คนที่ทำได้จริงๆ มีอยู่แค่หยิบมือ
ทุกตำแหน่งที่นี่ เป็นเพราะสถานะเดิมของผืนอินทนิล คือเมืองหลวงเผ่ามนุษย์แห่งสุดท้ายในนทวีปปักษาสวรรค์ทักษิณ
แม้รัฐที่ชื่อเดียวกับรัฐม่วงครามในประวัติศาสตร์เผ่ามนุษย์แผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์นั้นจะล่มสลายไปแล้ว แต่ตระกูลทั้งแปดในนั้นกลับสืบเชื้อสายจนมาถึงปัจจุบัน
พวกเขาเป็นรากฐานพลังดั้งเดิมของแผ่นดินทวีปปักษาสวรรค์ทักษิณ ขณะที่ควบคุมระบบราชสำนัก ออกคำสั่งกับทั้งทวีป ก็เคยมีอดีตกับวิหคเพลิงสวรรค์ ได้รับการคุ้มครองจากวิหคเพลิงสวรรค์
พวกเขาจะไม่ออกจากจากทวีปปักษาสวรรค์ทักษิณทั้งชีวิต ส่วนผู้อื่นก็ไม่อยากยั่วโมโหพวกเขา
สำหรับพวกเขา ทั้งทวีปปักษาสวรรค์ทักษิณ ไม่ว่าจะเจ็ดเนตรโลหิต ลัทธินอกวิถี หรือพวกลึกลับที่หากว่ากันตามหลักความเป็นจริง ท้ายที่สุดแล้วก็ล้วนเป็นผู้ที่มาจากภายนอกทั้งสิ้น
ดังนั้นการตัดขาดจากภายนอก คร่ำครึโบราณ หยิ่งผยอง จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของผืนอินทนิลไป
ทว่าวันนี้ คนธรรมดาที่อาศัยอยู่ในผืนอินทนิล ในช่วงที่แสงอรุณสาดส่อง กลับเห็นภาพฉากที่ไม่น่าเชื่อ
ตระกูลทั้งแปดล้วนเคลื่อนไหว
บรรดาทายาทสายตรงแต่ละคนสวมเสื้อผ้างดงาม ยืนอยู่ที่นอกประตูตะวันออกของผืนอินทนิล เรียงเป็นแถวยาว
ทุกคน ล้วนมีสีหน้านอบน้อม
ส่วนผู้นำตระกูลทั้งแปดยืนเรียงกันอยู่ด้านหน้าสุด ขณะที่แต่ละคนสีหน้าเคร่งขรึม ข้างกายพวกเขายังมีผู้อาวุโสของแต่ละตระกูลด้วย
ทุกคน ล้วนมองไปทางขอบฟ้าทิศตะวันออก
กระทั่งผู้เฒ่าผู้แก่ตระกูลต่างๆ บางคนที่ถ่ายทอดของวิเศษเวทในร่างกายให้แก่รุ่นหลัง พลังบำเพ็ญอ่อนแอเสื่อมถอยลงมาก กระทั่งเดินเหินก็ยังต้องมีคนคอยประคองก็มาปรากฏตัวบนกำแพงเมือง มองท้องฟ้าไกลๆ
เฝ้ารออยู่เงียบๆ
ภาพนี้ พบเห็นได้น้อยมากในผืนอินทนิลที่พิถีพิถันเรื่องชนชั้น
ในทวีปปักษาสวรรค์ทักษิณ โดยพื้นฐานแล้วไม่มีเรื่องอะไรที่ทำให้ตระกูลทั้งแปดที่ตัดขาดจากภายนอกต้องปรากฏตัวยิ่งใหญ่เช่นนี้ และดูจากท่าทีของพวกเขา นี่เป็นเพียงการต้อนรับเท่านั้น
ดังนั้น ภาพในยามเช้าตรู่นี้ ทำให้คนธรรมดาของผืนอินทนิลคาดเดากันไปต่างๆ นานา
และด้านนอกประตูตะวันออก ในบรรดาทั้งแปดตระกูล มีอยู่สองคน ตำแหน่งที่ยืนคือผู้นำตระกูลทั้งแปด
ด้วยอายุของพวกเขา เดิมทีไม่ควรยืนอยู่ตรงนี้ ทว่าวันนี้ พวกเขาได้รับอนุญาตให้มาอยู่ตรงนี้เป็นกรณีพิเศษ
ดังนั้นสายตาไม่น้อยที่มารวมอยู่ที่ร่างพวกเขา กระทั่งผู้นำตระกูลต่างๆ เหล่านั้น ก็ยังชำเลืองมองพวกเขาเป็นระยะ
สองคนนี้เป็นหนึ่งชายหนึ่งหญิง
ผู้ชายหน้าตาเหล่อเหลา หว่างคิ้วซ่อนความคลุมเครือเอาไว้
หญิงสาวหน้าตาสะสวย ใบหน้ามีความตึงเครียดเล็กน้อยพร้อมกับการเฝ้ารอ เพียงแต่สีหน้ายังมีความไม่อยากเชื่ออยู่
เฉินเฟยหยวนกับถิงอวี้นั่นเอง
หนึ่งเดือนก่อน เรื่องที่เกิดขึ้นในเขตปกครองผนึกสมุทร เนื่องจากน่าตกตะลึงเกินไป ดังนั้นทวีปปักษาสวรรค์ทักษิณจึงได้ยินกันหมด ในฐานะที่เป็นแปดตระกูลใหญ่ผืนอินทนิล พวกเขาย่อมสืบเสาะเรื่องนี้ได้อย่างกระจ่างชัดยิ่งกว่า
พวกเขารู้ว่าอาลักษณ์ที่ชื่อสวี่ชิงคนนั้น ฐานะและตำแหน่งของเขา ผงาดขึ้นจากการสิ้นสุดการเปลี่ยนแปลงในเมืองหลวงเขตปกครอง
กระทั่งพวกเขายังตรวจสอบถึงต้นกำเนิดของสวี่ชิงแล้วด้วย รู้ว่าเป็นคนจากทวีปปักษาสวรรค์ทักษิณ
เมื่อเป็นเช่นนี้ หลังจากรู้ว่าสวี่ชิงกำลังจะมาเยือน ตระกูลทั้งแปดจึงให้ความสำคัญอย่างมาก จึงมีการออกมาต้อนรับครั้งนี้
แม้จะตัดขาดจากโลกภายนอกทั้งยังคร่ำครึ แต่ก็ต้องดูด้วยว่าอีกฝ่ายที่ต้องต่อกรด้วยคือผู้ใด หากเป็นภายในทวีปปักษาสวรรค์ทักษิณ พวกเขาย่อมหยิ่งผยองได้ แต่สำหรับเขตปกครองผนึกสมุทร พวกเขาไม่กล้า
“เฟยหยวน เจ้าว่าสวี่ชิง…จะยังเป็นเขาในตอนนั้นหรือไม่” ถิงอวี้กระวนกระวาย เอ่ยเสียงแผ่วเบา
การตายของปรมาจารย์ไป๋ สำหรับถิงอวี้แล้ว ส่งผลกระทบอย่างมาก
และนิสัยของนางก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยจากการเติบโตขึ้นด้วย อ่อนแอมาก ถ้าไม่มีเฟยหยวนคอยปกป้อง นางที่อยู่ในตระกูลของผืนอินทนิล คงกลายเป็นเครื่องมือการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ไปแล้ว
“ถิงอวี้ เรื่องสมัยเด็กน่ะ ลืมไปเถอะ”
เฉินเฟยหยวนเอ่ยราบเรียบ น้ำเสียงของเขาแฝงความอึมครึมด้วยสัญชาตญาณ เขาไม่ได้จงใจเป็นเช่นนี้ แต่เป็นความเคยชินที่หล่อหลอมเขาจากการใช้ชีวิตอยู่ในตระกูลที่ออกอุบายหลอกลวงกัน ต่อสู้แย่งชิงอำนาจตระกูล
“หากสวี่ชิงยังไม่ลืมมิตรภาพเก่า ย่อมเป็นเรื่องดี หากนิสัยของเขาเปลี่ยนไป ก็เป็นเรื่องปกติ
“ยิ่งครั้งนี้ การมาเยือนของเขา ก็เหมือนเป็นการแจ้งล้วงหน้า…ว่าเรื่องนี้มีความนัยแฝงอยู่”
คำพูดของเฉินเฟยหยวน ทำให้ถิงอวี้เงียบนิ่ง

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา