เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 545

บทที่ 545 ลอบสังหารหน้าหลุมศพ (2)

เฉินเฟยหยวนกระแอมไอ

เมื่อสวี่ชิงได้ยินก็ยิ้มออกมา

ทั้งสามคนมองกัน ราวกับว่ากลับไปในกระโจมฐานที่มั่นคนเก็บกวาดในอดีตอีกครั้ง เป็นภาพที่นั่งฟังคาบเรียนของปรมาจารย์ไป๋ด้วยกัน

ผ่านไปครู่หนึ่ง พวกเขาเดินไปที่หลุมฝังศพพร้อมกัน

นักพรตซือหนานเดินรั้งท้ายอยู่หลายก้าว ไม่ได้เข้าใกล้มากยัก เขามองร่างหนุ่มสาวตรงหน้าทั้งสามก็รู้สึกทอดถอนใจ คิดถึงศิษย์น้องของตนขึ้นมา

“ยังต้องไปโน้มน้าวอีกสักหน่อยว่าอย่าละโมบสายเลือดผู้อื่น จนชักนำหายนะมาสู่ตัว”

ตอนนี้ เวลาก็เคลื่อนคล้อยมาถึงช่วงกลางวัน แม้จะอยู่ในฤดูหนาว แต่อากาศวันนี้แจ่มใส แม้จะมีเมฆหมอก แต่ก็ลอยต่ำบนท้องฟ้าเพียงไม่กี่ก้อน

สายลมก็ไม่ได้หนาวเย็น แสงตะวันอบอุ่นส่องลงมาบนร่างของพวกสวี่ชิงทั้งสาม ติดตามพวกเขามาจนถึงสุสานรวม

ที่นี่ประกาศใช้กฎอัยการศึก รอบๆ มีองครักษ์จากทั้งแปดตระกูลอยู่ พวกเขาได้รับคำสั่งจากเฉินเฟยหยวน ให้คอยดูแลความปลอดภัยในช่วงที่สวี่ชิงมาเยี่ยมเยือน

เบื้องหน้าหลุมศพปรมาจารย์ไป๋ไม่เคยขาดธูปหอมและดอกไม้สด ไม่ว่าจะเป็นเฉินเฟยหยวนและถิงอวี้ หรือเป็นผู้ที่เขามอบความผาสุขให้ตลอดทั้งชีวิตล้วนมาเซ่นไหว้ที่นี่เป็นประจำ

มองป้ายหลุมศพ สมองสวี่ชิงมีเสียงและใบหน้าของปรมาจารย์ไป๋ผุดขึ้นมา รับธูปที่ถิงอวี้ยื่นให้ จุดแล้วสะบัดให้ดับ ปักไว้ที่หน้าหลุมฝังศพหลังจากนั้นก็คุกเข่าโขกศีรษะอย่างนอบน้อม

บิดามารดามอบร่างกายจิตวิญญาณ ผู้ให้ความรู้สร้างชีวิต ประสบการณ์ยิ่งใหญ่เทียมฟ้าดั่งบิดามารดา

นายท่านเจ็ดเป็นเช่นนี้ ปรมาจารย์ไป๋ก็เช่นกัน

สวี่ชิงเข้าใจหลักการนี้มาตั้งแต่เด็ก เขาเข้าใจว่าในโลกาวินาศนี้ ผู้ที่ถ่ายทอดความรู้อย่างจริงใจ เป็นพระคุณชั่วนิรันดร์

แต่พริบตาที่สวี่ชิงโขกศีรษะลงไป บนท้องฟ้า เมฆไม่กี่ก้อนที่ลอยต่ำอยู่นั่นจู่ๆ คลอนไหว ไม่มีจิตสังหารใดแผ่ซ่านมาล่วงหน้า ไม่มีการเผยความเย็นยะเยือกใดออกมาก่อน

การเปลี่ยนแปลงฉับพลันของหมอกเมฆไม่กี่ก้อนนี้ กลายเป็นฝ่ามือหมอกเมฆขนาดยักษ์ข้างหนึ่ง กดลงมาทางสวี่ชิงที่อยู่ตรงหลุมศพบนพื้นอย่างรวดเร็ว

รวดเร็วอย่างยิ่ง การปรากฏตัวกะทันหัน คล้ายว่าคอยซุ่มโจมตีสวี่ชิงอยู่ตรงนี้ ทำให้ยากที่จะป้องกัน ยิ่งมีพลังหวนสู่อนัตตาระเบิดออกมาจากฝ่ามือหมอกเมฆนี้ มาพร้อมกับการทำลาย กำลังจะกดลงมา

แต่จู่ๆ รอบๆ มัน ก็มีร่างเงาปรากฏขึ้นมาเก้าร่าง

ผู้นำตระกูลทั้งแปดที่ออกไปก่อนหน้านี้ พุ่งไปบนอากาศ แผ่คลื่นพลังบำเพ็ญสมบัติวิญญาณออกมา ในกลุ่มพวกเขามีคนหนึ่งเป็นชายชราผมขาว แผ่กลิ่นอายหวนสู่อนัตตาทั่วร่าง พุ่งทะยานไปยังฝ่ามือเมฆหมอก

ชายชราคนนี้ คือบรรพจารย์ที่ผู้นำแปดตระกูลผืนอินทนิลให้การยอมรับ และเป็นหวนสู่อนัตตาเพียงผู้เดียว

ท่ามกลางเสียงครืนครัน ทั้งสองฝ่ายปะทะกัน ขณะที่นิ้วมือเมฆหมอกนั้นพัดเกลียวมา สายตาของบรรพจารย์ผืนอินทนิลก็ฉายประกายคมปลาบ พุ่งไล่ตามไป

ส่วนผู้นำตระกูลทั้งแปด กลับร่อนลงมาอย่างรวดเร็ว สลายฝ่ามือเมฆหมอกให้สวี่ชิงกลางอากาศ

ทุกอย่าง คลี่คลายในพริบตา

สวี่ชิงสีหน้าเรียบนิ่งมาตั้งแต่ต้นจนจบ ยังคงโขกศีรษะ

ถิงอวี้กลับถูกสั่นสะเทือนด้วยภาพนี้ หายใจหอบถี่ เฉินเฟยหยวนที่อยู่ข้างๆ นาง สีหน้าไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย เดิมก็เป็นเรื่องที่ร้องขอกับระดับสูงของผืนอินทนิลไว้ก่อนหน้านี้เพื่อป้องกันความปลอดภัย

แต่ตอนนี้เอง เสี้ยวขณะที่หน้าผากสวี่ชิงแตะลงกับพื้น จู่ๆ พื้นดินรอบด้านก็มีปราณหมอกปะทุขึ้นมา ร่างของเผ่าควันขจรก็ลอดออกมาในพริบตา พุ่งเข้าหาสวี่ชิง

เมื่อมองไป จำนวนมากมายนับร้อยตน ทั้งพลังบำเพ็ญทุกตนล้วนไม่ธรรมดา ยิ่งถนัดลอบสังหาร รวดเร็วอย่างยิ่ง

แต่พวกมันยังไม่ทันได้เข้าใกล้สวี่ชิง ท้องฟ้าก็บิดเบี้ยว รอยประทับขนาดยักษ์ปรากฏขึ้นฉับพลัน แผ่คลื่นพลังที่น่าหวาดหวั่น

นั่นคือการผสานกันของของวิเศษเวททั้งแปดตระกูลของผืนอินทนิล ก่อตัวเป็นของวิเศษพลังอำนาจแข็งแกร่งยิ่งกว่า แม้จะสู้ของวิเศษเวทต้องห้ามไม่ได้ แต่ระดับของของวิเศษเวท ถือว่าอยู่จุดสูงสุด

หลังจากเฉินเฟยหยวนบีบแผ่นหยกชิ้นหนึ่งจนแตก มันก็ปรากฏขึ้นในพริบตา สั่นสะเทือนพื้นดินอย่างรุนแรง

สวี่ชิงไม่มีความเสียหายเลยแม้แต่น้อย แต่เผ่าควันขจรที่ปรากฏขึ้นรอบๆ แต่ละตนส่งเสียงกรีดร้อง พากันแตกสลาย

ยังไม่จบ แทบจะพริบตาที่ตราประทับของวิเศษเวทปรากฏขึ้น การลอบสังหารระลอกสามก็ปะทุขึ้น ครั้งนี้ผู้ที่มาไม่ได้มาจากพื้นดิน แต่มาจากกลางอากาศ

ในสายลมที่พัดมาจากรอบทิศ ก็ปรากฏตัวออกมานับพัน ล้วนเป็นเผ่าควันขจรทั้งสิ้น แต่กลิ่นอายกลับสู้เผ่าควันขจรไม่ได้ เห็นได้ชัดว่าเผ่าควันขจรที่เผยออกมาเป็นแค่การหลอกล่อ เผ่าที่แท้จริงของพวกเขากลับถูกเก็บซ่อนไว้

ในเสี้ยวพริบตาที่ปรากฏ เรือศึกบรรพกาลบนท้องฟ้าก็ส่งเสียงครืนครัน ผู้ครองกระบี่นับพันในนั้นลงมาเยือนพร้อมกัน การฆ่าล้างสังหารล้อมรอบสุสานรวม เปิดฉากขึ้นในพริบตา

ขณะเดียวกัน บนท้องฟ้าก็พลันมีสายอัสนีสีดำสายหนึ่งฟาดผ่าบนท้องฟ้า กลายเป็นรอยแยกทางหนึ่ง ร่างเงาสามร่าง พุ่งออกมาจากรอยแยกนี้

ทั้งสามร่าง ล้วนเป็นหวนสู่อนัตตา

ขั้นสองสองคน และมีขั้นสามอีกหนึ่งคน

พวกเขาก็ล้วนปิดบังลักษณะพิเศษของเผ่าตนเอง ใช้วิชาพิเศษแปลงเป็นเผ่าควันขจร พริบตาที่ปรากฏตัว เมฆหมอกก็ฟุ้งกระจาย เสียงแกว๊กของชิงฉินดังสะท้อนก้อง พุ่งไปหาสามคนนี้ทันที

บนท้องฟ้าครืนครัน ขณะที่สงครามใหญ่ปะทุ ยังมีร่างเงาอีกสี่ร่างลอดออกมาจากในรอยแยกอัสนีสีดำอย่างไร้ซุ่มเสียง กลายเป็นแสงสายหนึ่งพุ่งไปหาสวี่ชิง

พริบตาที่เข้าใกล้อย่างรวดเร็ว ในดวงตานักพรตซือหนานเปล่งประกายเย็นวาบ เดินออกมาก้าวหนึ่ง สะบัดแขนเสื้อ ฉับพลันผู้ที่มาเยือนก็เปิดศึกกันบนท้องฟ้า

ตอนนี้ท้องฟ้า พื้นดิน ล้วนเปิดฉากสังหาร จู่ๆ คนจากแปดตระกูลคนหนึ่งก็สั่นสะท้าน ในลมหายใจที่รูจมูกพ่นออกมา จำแลงมนุษย์ตัวจิ๋วปราณหมอกออกมาสองร่าง พุ่งไปทางสวี่ชิง

เขาอยู่ไม่ไกลจากสวี่ชิงนัก เวลานี้ภาพที่ปรากฏขึ้นกะทันหัน กลายเป็นวิกฤตขนานใหญ่ เมื่อเห็นว่าใกล้เข้ามา มือข้างหนึ่งก็ยื่นออกมาจากความว่างเปล่าข้างกายสวี่ชิง คว้ามนุษย์ตัวจิ๋วสองคนนั้นแล้วบีบอย่างแรง

เสียงกรีดร้องดังออกมา มนุษย์ตัวจิ๋วทั้งสองแตกสลาย ตอนที่กลายเป็นหมอกมหาศาลลอยหวนกลับไป มือข้างนั้นจากส่วนลึกความว่างเปล่า ก็พุ่งไปด้านหน้า มีคนเดินออกมาคนหนึ่ง

สวี่ชิงรู้จัก นี่คือรองเจ้าวังคนก่อนของวังอาญา ด้วยตำแหน่งตอนนี้ เขาพยักหน้าให้กับสวี่ชิง สาวเท้าไล่ตามหมอกเหล่านั้นไป

ขณะเดียวกัน บนท้องฟ้า มีอักขระยักษ์ที่ใหญ่กว่าสายฟ้าสีดำขนาดยักษ์ด้านนอกปรากฏขึ้นมา ด้านในมีคนเดินออกมาเจ็ดแปดคนจากการระลอกคลื่นการส่งข้ามที่สะท้อนก้อง

ผู้ที่นำมาคือหลี่อวิ๋นซาน ข้างๆ เขายังมีเจ้าวังพิธีการ รวมถึงผู้ดูแลสามวัง

หลังจากพวกเขาปรากฏตัว ก็พุ่งเข้าไปในรอยแยกสีดำ พริบตาต่อมา เสียงครืนครันด้านในก็สะท้อนก้องน่าหวาดหวั่น

บทที่ 545-2 ลอบสังหารหน้าหลุมศพ (2) 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา