บทที่ 594 งมเอาอะไรขึ้นมา!!
เงาร่างในลูกเหล็ก สวี่ชิงกับนายกองไม่รู้เลย
ตอนนี้ภายใต้การจับตามองของสวี่ชิง นายกองจับเถาวัลย์ของหนิงเหยียนเอาไว้ เข้าไปใกล้ลูกเหล็กช้าๆ
แม้วัตถุชิ้นนี้จะพรุนเป็นรังผึ้ง แต่ในนั้นมีอะไรซ่อนเอาไว้อีก นายกองหาอยู่นานในที่สุดก็หาบริเวณรอยฉลุที่นับว่าแข็งแรงเจอ
ที่ตรงนี้ เขาร้อยเถาวัลย์เข้าไป เห็นได้ชัดว่าค่อนข้างกังวลว่าจะแน่นหนาไม่พอ เขาจึงใช้เถาวัลย์ร้อยไปหลายที่ มัดเป็นเงื่อนตาย แล้วกัดนิ้วตัวเองจนเลือดไหล ใช้เลือดวาดยันต์ ทำให้บริเวณที่ผูกเงื่อนผสานเป็นเนื้อเดียวกัน
ทำทุกอย่างเหล่านี้เสร็จ นายกองก็ตบๆ ลูกเหล็กแล้วนั่งลงตรงนั้น ส่งสัญญาณมือให้สวี่ชิง
คนนอกไม่เข้าใจ แต่สวี่ชิงรู้เป็นอย่างดี เขาค่อนข้างจะไร้คำพูด แต่ก็นำแผ่นหยกบันทึกเงาเคลื่อนไหวออกมา หลังจากใช้พลังพระจันทร์สีม่วงของตัวเองปกคลุมเอาไว้ไม่ให้มันถูกทำลาย ก็ทำการบันทึกภาพเคลื่อนไหวของนายกองเอาไว้
ประทับภาพเอาไว้ในแผ่นหยก
ทำทุกอย่างนี้เสร็จ นายกองก็ว่ายกลับมาอย่างรวดเร็ว มาตรวจดูแผ่นหยก ค่อนข้างพอใจรูปลักษณ์ของตัวเอง จากนั้นก็ยักคิ้วหลิ่วตาให้สวี่ชิงส่งสัญญาณต่อ
สวี่ชิงส่ายหน้า ปฏิเสธคำเชิญของนายกองที่เสนอจะเก็บภาพชีวิตอันงดงามของตนไว้ให้
จากนั้นทั้งสองก็ไปตามทิศทางของเถาวัลย์ จากไปอย่างรวดเร็ว
ตลอดทางนับว่าราบรื่นดี หลังจากหลายชั่วยาม พวกเขากลับไปยังริมฝั่ง ชั่วพริบตาที่เดินออกมาจากน้ำ นายกองก็กระตุกเถาวัลย์ ตะโกนออกไปเสียงดัง
“เริ่มงานๆ!”
“พี่เจี้ยนเจี้ยน เมื่อครู่ข้าเห็นบนลูกเหล็กยักษ์ข้างล่างมีกลอนของจักรพรรดิโบราณเสวียนโยวด้วย เสียดายข้างล่างมืดสลัว ข้ามองไม่ชัด…”
อู๋เจี้ยนอูเดิมนอนพักผ่อนอยู่ตรงนั้น ตอนนี้เมื่อได้ยินก็กระโดดขึ้นมาทันที ดวงตาเบิกกว้าง คว้าเถาวัลย์ของหนิงเหยียนเอาไว้ ยิ่งไปกว่านั้นยังตะโกนออกมา ลูกๆ ของเขาเหล่านั้นปรากฏตัวขึ้นก็ล้วนคว้าเถาวัลย์เอาไว้
นกแก้วก็ไม่มีข้อยกเว้น
ส่วนหลี่โหยวฝ่ยที่อยู่ข้างๆ ก็เป็นคนรู้งาน เขาเกาะเถาวัลย์เป็นคนแรก สีหน้ายิ่งฉายความพยายามตั้งใจออกมา หน้าแดงคอเป็นเอ็น ทุ่มสุดกำลัง
คนทั้งหลายร่วมแรง ระเบิดแม่น้ำในพริบตา คลื่นซัดกระหน่ำพวยพุ่ง
ส่วนลูกเหล็กมหึมาที่เชื่อมต่อกับอีกฝั่งหนึ่งของเถาวัลย์เส้นนี้ ตอนนี้ด้วยแรงมหาศาล สั่นสะเทือนขึ้นมาเล็กน้อย ถูกดึงขึ้นมาจากโคลนทีละนิดๆ
รัฐทายาทเจ้าเหนือหัวที่นั่งขัดสมาธิอยู่ในนั้นสัมผัสได้ถึงการสั่นสะเทือนและการขยับเขยื้อนของลูกเหล็ก สีหน้ายิ่งแปลกประหลาดขึ้นไปอีก เงยหน้ามองไปข้างนอก คิดจะพูดอะไรแต่ก็หยุดไว้…
เวลาก็ไหลผ่านไปเช่นนี้เอง ในที่สุดลูกเหล็กลูกนี้ก็ถูกดึงขึ้นมาจากโคลนตมได้โดยสมบูรณ์ ถูกลากไปข้างหน้าอย่างช้าๆ ใต้แม่น้ำ เนื่องจากมันมีขนาดใหญ่มหึมา จึงไม่เร็วนัก
แต่การขยับทุกครั้งล้วนซัดโคลนมหาศาล ทำให้แม่น้ำเป็นคลื่นซัดโถม ผิวน้ำเกิดลูกคลื่นซัดไม่ขาดสาย
ความเคลื่อนไหวที่นี่ไม่น้อยเลย แต่เห็นได้ชัดว่านายกองเตรียมการเอาไว้นานแล้ว วางแผนไว้อย่างละเอียดรอบคอบ หากเวลานานอาจจะถูกค้นพบ แต่เวลาสั้นๆ ไม่เป็นปัญหา
นี่ก็เป็นเหตุผลที่เขาร้อนใจ
เพียงแต่โคลนใต้แม่น้ำมีหินอยู่จำนวนไม่น้อย แม้ลูกเหล็กมหึมาลูกนี้จะบดขยี้แหลกละเอียดมาตลอดทาง แต่แรงสั่นสะเทือนก็คงยากที่จะเลี่ยงได้ มันส่งแรงไปในลูกเหล็ก ส่งผลโดยตรงไปยังร่างของรัฐทายาทเจ้าเหนือหัว
แต่ว่าสีหน้าของรัฐทายาทไม่แปลกประหลาดอีกต่อไปแล้ว แต่แปรเปลี่ยนเป็นสงบนิ่ง เขานั่งอยู่ตรงนั้น ปล่อยให้สวี่ชิงกับพวกนายกอง ค่อยๆ ลากลูกเหล็กที่เขาซ่อนตัวรักษาบาดแผลไปทีละนิดๆ
เวลาสามวันผ่านไปเพียงพริบตา
ด้วยความพยายามของพวกนายกอง ในที่สุดลูกเหล็กขนาดมหึมาลูกนี้ก็ปรากฏขึ้นในครรลองสายตาของพวกเขา เผยขอบออกมา โผล่จากความมืดมิดไม่เห็นเดือนเห็นตะวันเป็นเวลานับไม่ถ้วน ปรากฏขึ้นมายังโลกภายนอกเป็นครั้งแรก
รอยสนิมบนนั้นเกรอะกรังไปหมด ความเก่าแก่โบราณชัดเจน แม้แต่ท้องฟ้าในเสี้ยวขณะนี้ยังเกิดระลอกคลื่นขึ้นมา
“ออกมาแล้ว ทุกคนออกแรงหน่อย!”
นายกองตื่นเต้นเป็นที่สุด พลังบำเพ็ญปะทุขึ้นทุกด้าน พยายามสุดกำลัง
ขนาดของลูกเหล็กลูกนี้ใหญ่ถึงหมื่นจั้ง น้ำหนักของมันก็เกินวงแหวนและกรอบประตูแล้ว ดังนั้นไม่เพียงแต่ขยับได้ช้าพลังที่ต้องใช้ก็มากขึ้น กระทั่งว่าระหว่างนั้นมีสองครั้งที่เถาวัลย์เกือบจะฉีกขาด
ดีที่นายกองใช้ร่างตัวเองเพิ่มพลัง ทั้งยังอาศัยพลังพระจันทร์สีม่วงของสวี่ชิงถึงได้ฝืนคงสภาพเอาไว้ได้
ตอนนี้เห็นโอกาสอยู่ข้างหน้า คนทั้งหลายต่างปะทุพลัง ร่างของสวี่ชิงยิ่งขยายไปจนถึงห้าจั้ง ราวกับยักษ์ตัวย่อมๆ
ในที่สุด ภายใต้การหอบหายใจเหนื่อยของพวกเขา ลูกเหล็กที่ปรากฏบนผิวน้ำลูกนั้น ส่วนที่ปรากฏขึ้นมาก็มากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งผ่านไปอีกหลายชั่วยาม ลูกเหล็กขนาดหมื่นจั้งลูกนี้ก็ปรากฏขึ้นข้างหน้าพวกเขาราวจะบดบังฟ้าดิน
ถูกพวกเขาลากขึ้นมาจากแม่น้ำเซ่นจันทรา
ทันทีที่ลากขึ้นฝั่ง น้ำในแม่น้ำสีแดงมหาศาลไหลออกมาจากในลูกเหล็กลูกนี้ ไหลทะลักออกมาจากบริเวณที่เป็นรูทุกรูไม่หยุดราวกับน้ำตก
ห้วงเวลาอันยาวนานและความเก่าแก่โบราณ ในเสี้ยวขณะนี้ยิ่งรุนแรงขึ้น คล้ายว่าส่งผลกระทบต่อเวลา ทำให้รอบๆ รางเลือนและบิดเบี้ยว
ภาพนี้ทำให้หลี่โหยวเฝ่ยที่ในใจเกิดคลื่นยักษ์ซัดโหมไปตั้งนานแล้ว หนิงเหยียนสูดลมหายใจลึก มีเพียงอู๋เจี้ยนอูที่ในดวงตาฉายประกาย เข้าไปใกล้อย่างรวดเร็ว ไปหากลอนของเสวียนโยวที่นายกองพูด
ส่วนนายกองตอนนี้นอนแผ่กางแขนกางขาอยู่ตรงนั้น หมดสิ้นเรี่ยวแรงทั้งหมด แต่มองลูกเหล็กขนาดมหึมา มุมปากของเขาก็ฉีกออก ส่งเสียงหัวเราะได้ใจออกมา
“ศิษย์น้องเล็ก เป็นอย่างไร ศิษย์พี่ใหญ่คนนี้เยี่ยมยอดหรือไม่!
“ฮ่าๆ ดวงอาทิตย์สามดวงล้วนอยู่กับข้าที่นี่!
“รวมกับเจ้าอ้วนน้อย พวกเราก็มีดวงอาทิตย์สี่ดวงอยู่ในมือ ข้าจะบอกเจ้าให้ แม้ดวงที่เหลืออีกห้าดวงจะอยู่ในเผ่าอื่น แต่ดวงอาทิตย์ของแผ่นดินใหญ่เซ่นจันทราทุกดวงข้าล้วนแอบวางแผนเอาไว้!
“ขอเพียงถึงเวลา ดวงอาทิตย์ทั้งเก้าดวงแค่เพียงเสี้ยวความคิดของข้าล้วนลงมาเยือนทั้งหมด ส่วนสามดวงนี้อีกเดี๋ยวต้องยืมพลังของเจ้า เพิ่มแรงให้พวกมันหน่อย!
“ศิษย์น้องเล็ก วันที่พวกเรามาที่นี่เพื่อทำการใหญ่เรื่องสุดท้ายอยู่อีกไม่ไกลแล้ว!”
สวี่ชิงได้ยินก็มองไปยังวัตถุขนาดมหึมาทั้งสาม ในใจก็สั่นสะท้านเช่นกัน นึกถึงคำพูดที่นกแก้วมาเรียกตนในตอนนั้น จึงเอ่ยถามไปว่า
“ศิษย์พี่ใหญ่ ที่ท่านเรียกข้ามาจุดไฟหมายถึงว่าให้จุดดวงอาทิตย์ทั้งสามดวงนี้ใช่หรือไม่”


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา