บทที่ 595 ท่านปู่ชราในดวงอาทิตย์
เสี้ยวขณะนี้บนท้องฟ้าเหนือแม่น้ำเซ่นทมิฬ ลูกทรงกลมขนาดมหึมาลุกไหม้ พลังกดดันน่าหวาดกลัวแผ่ออกไปอย่างต่อเนื่อง ในนั้นยิ่งมีเสียงเปรี๊ยะๆ ดังออกมา เหมือนขบเคี้ยวฟัน ชวนให้หวาดหวั่นพรั่นพรึงนัก
โดยเฉพาะสีของมันในตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นสีแดงก่ำ กระทั่งว่าผิวบางแห่งของมันเนื่องจากอุณหภูมิน่ากลัวไปอย่างมาก ก็เกิดสัญญาณละลาย เหล็กเหลวหยดลงมาเป็นหยดๆ
และระลอกคลื่นพลังที่ไม่เสถียรจากในลูกไฟยักษ์ลูกนี้ ตอนนี้แผ่ออกมาอย่างบ้าคลั่ง ทำให้ผู้ที่เห็นทุกคนในใจล้วนเกิดความตื่นกลัวขึ้นมา
แผ่นดินได้รับผลกระทบไปด้วยสั่นไหวอย่างรุนแรง เม็ดทรายสีแดงนับไม่ถ้วนลอยฟ้าขึ้นเอง ถูกดวงอาทิตย์บรรพกาลที่เผาไหม้ดวงนั้นดูด ผิวน้ำก็เช่นกัน น้ำในแม่น้ำเป็นระลอกๆ ไหลทวนน้ำลอยขึ้น แสงสีเลือดสุดลูกหูลูกตา
ภาพนี้ทำให้คนทั้งหลายที่อยู่บนฝั่งในสมองต่างเกิดสายฟ้าฟาดผ่า เหมือนอัสนีสวรรค์นับร้อยหมื่นฟาดลงมากลางใจของพวกเขา
“เกิดอะไรขึ้น!”
“สมควรตาย ข้ารู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้!”
“ทุกครั้งที่เฉินเอ้อร์หนิวลงมือล้วนไม่มีเรื่องดี เขาไม่รนหาที่ตายจะไม่สบายใจใช่หรือไม่ น่าโมโหนักที่ข้าเชื่อคำเพ้อเจ้อของเขาอีกแล้ว!!”
อู๋เจี้ยนอูและหนิงเหยียนหน้าขาวซีด ความรู้สึกวิกฤตเป็นตายปะทุขึ้นทั่วทั้งร่างทันที หลังจากที่มารวมอยู่ในสมอง ร่างของพวกเขาก็สั่นสะท้านอย่างรุนแรงขึ้นมา หนิงเหยียนตั้งสติได้เร็วที่สุด ร้องตะโกนขึ้นมาแล้วหันหลังวิ่งอย่างบ้าคลั่ง
วิ่งไปด้วย ทั้งยังเก็บเถาวัลย์ของตัวเองกลับมาไปด้วย ขณะที่ท้องพองยุบขึ้นลงก็ลองดึงเถาวัลย์กลับเข้าไป
อู๋เจี้ยนอูพลังบำเพ็ญไม่พอ ช้าไปเล็กน้อย แต่เขาก็คว้าเถาวัลย์ของหนิงเหยียนที่ลากอยู่บนพื้น อาศัยแรงหลบหนีด้วย
หลี่โหยวเฝ่ยก็ตั้งสติได้เร็วมาก เขาหวาดกลัวจนถึงขีดสุด หนังศีรษะชาวาบ นี่เป็นครั้งแรกที่ติดตามสวี่ชิงทำภารกิจ จึงไม่ได้เตรียมใจก่อนล่วงหน้า ตอนนี้เห็นดวงอาทิตย์ที่แผ่พลังกดดันน่ากลัวใกล้ระเบิดเต็มที สมองของเขาก็ส่งเสียงดังวิ้ง หลบหนีอย่างรวดเร็วตามสัญชาตญาณ
ทั้งสามรวดเร็วนัก คิดจะส่งข้าม แต่พื้นที่บริเวณนี้ไม่เพียงแต่มีการผนึกต้องห้ามของนายกอง ยิ่งมีการปกคลุมจากดวงอาทิตย์บรรพกาล มิติปั่นป่วน การส่งข้ามไม่อาจทำได้
แม้นกแก้วจะทำได้ แต่…ขนของมันยังงอกไม่สมบูรณ์
‘จบเห่แล้วๆ ข้าจะตายแล้ว ข้าแค้นนัก!’ นกแก้วโศกเศร้าโกรธแค้น งับเถาวัลย์ของหนิงเหยียน ในใจเกิดความคับแค้นเสียใจไม่สิ้นสุด
แม้พวกเขาทั้งสามจะตั้งตัวได้เร็ว แต่สุดท้ายในเวลาสั้นๆ ก็ไม่สามารถหนีไปได้ไกลเท่าไรนัก
สวี่ชิงมองผาดหนึ่ง ถอนหายใจ ความจริงเขาก็เดาเอาไว้อยู่แล้ว รู้ว่าทุกครั้งที่นายกองทำอะไรจะต้องเป็นเช่นนี้ ตอนนี้ไม่ได้หนีไปทางหนิงเหยียนพวกนั้น แต่หันหลังพุ่งตรงไปยังแม่น้ำเซ่นทมิฬ
เทียบกับโลกภายนอกที่กว้างโล่งแล้ว อาศัยพลังของแม่น้ำเซ่นทมิฬเห็นได้ชัดว่าผลดียิ่งกว่า
แต่ว่าเขาก็เตือนพวกหนิงเหยียนที่อยู่ที่ไกลๆ สักหน่อยเช่นกัน
“ดำลงไปในแม่น้ำเซ่นทมิฬ!”
หนิงเหยียนและอู๋เจี้ยนอูได้ยินก็เปลี่ยนทิศทันที หลี่โหยวเฝ่ยอึ้งไปเล็กน้อย นึกถึงความพิเศษของตัวเอง จึงกัดฟันพุ่งไป
ส่วนนายกองตอนนี้เขามองดวงอาทิตย์บนท้องฟ้า อึ้งตะลึงไปโดยสมบูรณ์
สัมผัสได้ถึงระลอกคลื่นน่ากลัวที่มาจากดวงอาทิตย์ นายกองตามสวี่ชิงถอยหลังไปพลางเอ่ยอย่างสับสนงุนงง
“เป็นไปไม่ได้ ข้าคำนวณไว้แล้ว ไม่มีทางพลาด เป็นการเล็กๆ จริงๆ นะ…”
สวี่ชิงร่างเหยียบลงไปในแม่น้ำเซ่นทมิฬ มองนายกองผาดหนึ่ง
“ท่านเรียกเรื่องแบบนี้ว่าการเล็กๆ อย่างนั้นหรือ”
“เป็นการเล็กๆ จริงๆ นะ ก็แค่งมของขึ้นมาจุดไฟก็เท่านั้นเอง”
นายกองจิตใจว้าวุ่น ครั้งนี้เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ในความคิดของเขานี่เป็นแค่การเล็กๆ จริงๆ และเขาก็เตรียมการเพื่อเรื่องนี้มานานมาก
“งมดวงอาทิตย์ขึ้นมาดวงหนึ่งจะเป็นเรื่องใหญ่เพียงใดเชียว ไม่ได้งมเทพเจ้าขึ้นมาเสียหน่อย ตามหลักแล้วไม่ควรเป็นเช่นนี้”
นายกองน้อยใจอัดอั้นนัก ที่มากกว่านั้นคือปวดใจ เขารู้สึกว่าดวงอาทิตย์บรรพกาลนี้เกิดปัญหาขึ้น ไม่ตรงกับแผนของตัวเอง ไม่สามารถเอาไปได้
“อาชิงน้อย ข้าอยากจะไปดูสักหน่อย ไม่แน่ว่าอาจจะแก้ไขอะไรได้…”
นายกองเพิ่งพูดออกไป กลิ่นอายของดวงอาทิตย์บรรพกาลกลางท้องฟ้าก็ปะทุขึ้นมาอีกครั้ง ระลอกคลื่นยิ่งน่ากลัวขึ้น
พื้นรอบๆ ไม่มีเม็ดทรายลอยขึ้นฟ้าอีกแล้ว แต่เกิดการเผาไหม้ขึ้น ภูเขาก้อนหินละลายทันที
น้ำในแม่น้ำในบริเวณรอบๆ เดือดพล่าน กลิ่นอายระเบิดในเสี้ยวขณะนี้เข้มข้นจนถึงขีดสุด
และการระเบิดของดวงอาทิตย์ที่ขนาดใหญ่เช่นนี้ ความรุนแรงของพลังยากจะบรรยาย แต่สามารถยืนยันได้เรื่องหนึ่ง สรรพสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในบริเวณนี้จะกลายเป็นเถ้าถ่านในพริบตาแน่นอน
นายกองเก็บความคิดที่จะแก้ไขสถานการณ์ดวงอาทิตย์ไปในทันที สวี่ชิงก็สูดลมหายใจเช่นกัน ความรู้สึกวิกฤตอันตรายในใจเดือดพล่านถาโถม เขาเร่งความเร็วพุ่งลงไปในแม่น้ำ
แต่ในตอนนี้ ดวงอาทิตย์บรรพกาลที่ลอยอยู่กลางอากาศจู่ๆ ก็ดิ่งวูบลงมาข้างล่าง
ทันใดนั้น ฟ้าดินเปลี่ยนสี คลื่นความร้อนระเบิด พลังกดดันในนั้นตอนนี้รุนแรงจนถึงขีดสุด
และสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นคือดวงอาทิตย์บรรพกาลดวงนั้นไม่ได้ดิ่งลงไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่พุ่งไปทางสวี่ชิงและนายกองอย่างรวดเร็ว
ในครรลองสายตาของสวี่ชิง ดวงอาทิตย์ที่เดิมก็มีขนาดมหึมาอยู่แล้ว จากการเข้าใกล้ ก็ยิ่งมีขนาดใหญ่ขึ้น และในเสี้ยวขณะที่ดวงอาทิตย์เข้ามาใกล้ แม่น้ำเซ่นทมิฬรอบๆ เขาและนายกองก็ถูกแช่แข็ง
ไม่อนุญาตให้พวกเขาดำลงไป!
เสียงบึ้มดังขึ้น การดำลงไปของสวี่ชิงและนายกองถูกขัดจังหวะทันที
สวี่ชิงหน้าเปลี่ยนสี จะเปลี่ยนทิศ แต่เสี้ยวขณะต่อมา พลังกดดันนั่นก็พันธนาการเขาเอาไว้ทันที เพียงพริบตา สวี่ชิงก็ค้นพบอย่างตื่นตะลึงว่าร่างกายของตัวเองไม่อาจขยับเขยื้อนได้เลย
ไม่ใช่แค่เขาเป็นเช่นนี้ แม่น้ำก็เป็นเช่นนี้ แผ่นดินเองก็เช่นกัน ร่างของพวกหนิงเหยียนทั้งสามคนสูญเสียพลังการเคลื่อนไหวไปทันใด ยืนอยู่ตรงนั้นหยุดอยู่ที่โดยสมบูรณ์
นายกองยิ่งร้องครวญครางขึ้นมา
“อะไรกัน เจ้าสิ่งนี้หรือจะมีสติปัญญาอย่างนั้นหรือ”
สวี่ชิงหนังศีรษะชาวาบ ส่วนความหวาดกลัวในใจของคนทั้งหลายตอนนี้ได้กลายเป็นพายุแห่งความตาย ภายใต้การระเบิดปะทุท่วมฟ้า ดวงอาทิตย์บรรพกาลนั่นก็เข้ามาใกล้อย่างเร็วรี่ แต่กลับเล็กลงเรื่อยๆ
จนกระทั่งสุดท้าย ท่ามกลางการสั่นสะท้านของทุกคน ดวงอาทิตย์ที่มีขนาดมหึมาดวงนี้ก็เปลี่ยนมามีขนาดเท่ากับกำปั้น ถูกเงาร่างที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่าถือไว้ในมือ
ผู้ที่ปรากฏตัวขึ้นสวมชุดคลุมยาวขาดวิ่นสีน้ำตาล หน้าตางามสง่าไม่ธรรมดา ผมยาวทั้งศีรษะอยู่ข้างหลังปลิวพริ้ว ก่อเป็นวิญญาณเป็นดวงๆ ส่วนดวงตาสีฟ้าทั้งสองข้างของเขาก็ราวกับอัญมณี ทำให้เขาทั้งคนเต็มไปด้วยรัศมีอำนาจสูงส่งยากจะบรรยาย
การปรากฏตัวของเขาทำให้ท้องฟ้าพลันแข็งค้าง แผ่นดินหยุดนิ่ง ลมหยุดพัด เปลวไฟกลายเป็นภาพนิ่ง
แม้แต่น้ำในแม่น้ำเซ่นทมิฬตอนนี้ก็ราวกับว่ากลายเป็นรูปภาพ นิ่งไม่ไหวติง
สรรพสิ่งในฟ้าดิน ทุกสิ่งทุกอย่าง จากการเดินมาของคนคนนี้ต่างหยุดนิ่ง
มีเพียงหัวใจเท่านั้นที่ยังขยับ ดังนั้นความตื่นกลัวมหาศาลจึงปะทุขึ้นมาอย่างบ้าคลั่งในใจคนทั้งหลาย
หนิงเหยียนหวาดกลัว อู๋เจี้ยนอูใจสั่น พวกเขามองตัวคนของผู้มาเยือนออกแล้ว…
ส่วนหลี่โหยวเฝ่ยทั้งคนใกล้จะสติแตก หลังจากติดตามสวี่ชิง เขารู้สึกว่าทุกเรื่องที่เกิดขึ้นล้วนกลับตรงข้ามความคิดจินตนาการของเขาหมด เวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่เดือน เรื่องที่เขาได้เห็นและประสบล้วนเกินกว่าประสบการณ์ครึ่งชีวิตก่อนหน้านี้ของตัวเอง
ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา