บทที่ 641 แท่นประหารเทพเจ้าในน้ำหมึก
ประวัติศาสตร์ มักมีการบันทึกไว้หลายรูปแบบ
บ้างขึ้นอยู่กับเป้าหมายบางอย่าง บ้างขึ้นอยู่กับเวรกรรมบางอย่าง มักจะมีผู้ซ่อนภาพฉากที่ตนไม่ชอบเอาไว้ หลังจากแก้ไขปรับเปลี่ยนแล้ว ค่อยเผยแพร่ออกมา
และขอแค่กาลเวลาไหลผ่านไป ความจริงเป็นเช่นไร ก็ค่อยๆ ไม่มีใครล่วงรู้แล้ว
เช่นเดียวกันตอนนี้ ภาพที่สวี่ชิงเห็น สรรพชีวิตไม่อาจมองเห็นได้
มันถูกซ่อนไว้ในกาลเวลา เป็นสายลมที่หลงเหลือและจดจำมันไว้ในที่แห่งนี้ ทั้งส่งเข้ามาในทะเลความรู้สึกของสวี่ชิง กลายเป็นน้ำหมึก
เดิมมันก็ยากจะปรากฏขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นคลื่นจิตสังหาร หรือความทรงจำในช่วงนี้ที่ขาดหายไปตามกาลเวลา ล้วนไม่อาจทำให้มันปะติดปะต่อกันได้
เป็นแสงประกายอรุณที่แต่งแต้มสีสัน ชดเชยส่วนที่ขาดหาย ค่อยๆ วาดโครงร่างของมัน ทำให้ประวัติศาสตร์ที่ถูกซ่อนเอาไว้ ปรากฏตัวขึ้นมาในสัมผัสรับรู้ของสวี่ชิง
เขามองร่างเจ้าเหนือหัว มองเงาของชื่อหมู่ ฟังคำพูดของคนหน้า และฟังเสียงเพลงของคนหลัง
เสียงเพลง ลอยระเรื่อย
ความสะเทือนใจแฝงความดื้อรั้นเอาไว้แผ่ออกมาจากในนั้น นั่นคือการละทิ้งทุกสิ่งอย่างได้เพื่อไล่ตามความฝันอย่างหนึ่ง
เหมือนเมื่ออยู่ต่อหน้าความฝัน สรรพสิ่งล้วนไร้ความหมาย
ต่อให้สรรพชีวิตต้องดับดิ้น ต่อให้ฟ้าดินต้องโหยไห้ ก็เป็นเพียงสารอาหารในการกลายเป็นเทพเจ้าของตนเท่านั้น
สิ่งนี้ไม่สำคัญ
ไม่ว่าจะร่างเงาบนม่านฟ้าสีครามหรือผู้อื่น ก็มิอาจลบความปรารถนาที่จะเป็นเทพเจ้าได้
นางอยากจะเป็นเทพเจ้า อยากจะยืนอยู่เหนือพระจันทร์สีชาด
เพื่อสิ่งนี้ นางไม่เสียดายอะไรทั้งนั้น!
ภาพฉากเริ่มปั่นป่วนไปตามการสะท้อนก้องของเสียงเพลง คลื่นยักษ์กำลังโหมขึ้นเป็นระลอก สุดท้ายก็ท่วมทับทุกร่างเงา กลบทุกเสียง เลือนรางไปหมด
สวี่ชิงหายใจหอบถี่ หน้าอกร่างกายที่กำลังนั่งขัดสมาธิกระเพื่อมขึ้นลง เขาที่จดจ่ออยู่ในทะเลความรู้สึก ในภาพเลือนรางนี้ เขามองไม่เห็นถึงเรื่องที่เกิดขึ้นด้านหลัง ไม่ได้ยินเสียงในกาลเวลา
ภาพในทะเลความรู้สึก สีครามเปลี่ยนเป็นขาว สีแดงกลายเป็นดำ พันเกี่ยวกันและกัน กลายเป็นน้ำหมึกอีกครั้ง
สุดท้ายแสงประกายอรุณก็เติมเต็มได้ไม่สมบูรณ์
ดังนั้นเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นจึงกลายเป็นความเลือนราง เหมือนภาพนามธรรม ไม่อาจมองตรงๆ ทำได้เพียงอาศัยการสัมผัสเท่านั้น
สวี่ชิงจึงไม่เลือกตื่นขึ้น เขาใช้จิตใจดำดิ่งในทะเลความรู้สึกต่อไป สัมผัสกับภาพวาดที่เลือนรางนี้
ในภาพวาด ขาวกับดำปะทะกัน น้ำกับหมึกหมุนวน สวี่ชิงเหมือนมองเห็นท้องฟ้าในความเลือนราง
“ในสีขาว แฝงท้องฟ้าสีครามเอาไว้…”
สวี่ชิงพึมพำ นอกจากนี้ เขายังเห็นแผ่นดินใหญ่
‘ในดินสีดำ ปกคลุมเลือดสีแดง…
‘ฟ้าและดิน เหมือนถูกเชื่อมไว้ด้วยกัน นั่นเป็น…แท่นพิธีหรือ”
สีหน้าสวี่ชิงเปลี่ยนเป็นสับสน เขาลืมเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นในโลกภายนอกไปแล้ว มองข้ามทุกสิ่ง ยามนี้ใจทั้งใจ ความรู้สึกทั้งหมดล้วนโถมเข้าไปในน้ำหมึกนี้แล้ว
และเขาค่อยๆ มองเห็นแท่นพิธีฟ้าดิน จากสลัวเลือนรางเหมือนค่อยๆ ชัดเจนขึ้น
แต่ความจริงแล้วเป็นภาพลวงตา เพราะหลังจากภาพฉากเจ้าเหนือหัวและชื่อหมู่สลายไป น้ำหมึกในทะเลความรู้สึกสวี่ชิงก็กำลังหมุนวน ไม่ได้มีภาพใหม่เกิดขึ้น
แต่ในความรู้สึกของสวี่ชิง ทุกอย่างกำลังชัดเจนขึ้นอย่างรวดเร็ว
เพียงแต่ความเร็วนี้สัมพัทธ์กัน
เพราะมันชัดเจน…ชัดเจนมาตลอด
ไม่ว่าสวี่ชิงจะพยายามเพียงใด สุดท้ายก็เป็นเช่นนี้
แต่เมื่อเขาผ่อนคลายสัมผัสรับรู้ แท่นพิธีก็จะสลายไป เขาต้องคอยย้ำเตือนจิตใจ ย้ำเตือนจิตวิญญาณอยู่ตลอดเวลา เหมือนคอยเหนี่ยวรั้งเอาไว้
แต่ก็สุดท้ายก็ยากจะเหนี่ยวรั้งขึ้นมาได้
ความอ่อนล้าทางจิตใจ ก็เพิ่มขึ้นอย่างไร้ขีดจำกัดด้วยเหตุฉะนี้
สวี่ชิงค่อยๆ สัมผัสได้ถึงความแห้งเหี่ยวของจิตใต้สำนึกตัวเอง เขาเริ่มรับไม่ไหวแล้ว
แต่แท่นพิธีนั้น ยังคงชัดเจน
‘จะยอมแพ้แล้วหรือ’
ใจของสวี่ชิง มีเสียงกระซิบดังก้อง
‘แท่นพิธีนี้ ข้าไม่สามารถเหนี่ยวรั้งขึ้นมาจากในน้ำหมึกได้…
‘ข้ายังชาดภาชนะ’
‘ภาชนะ…’
ขณะเดียวกันที่โลกภายนอก
จากการที่สวี่ชิงสัมผัสรับรู้จนถึงช่วงสุดท้าย เสียงครืนครันของฟ้าดินก็ค่อยๆ เบาลง คลื่นวนบนท้องฟ้าก็ไม่ได้ส่งผลกระทบเหมือนอย่างเคย
ทุกอย่างเหมือนใกล้จะจบแล้ว
นี่จึงทำให้พวกหนิงเหยียนต่างถอนหายใจออกมา แรงกดดันที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้สร้างแรงกดดันมหาศาลให้กับพวกเขาจริงๆ การแสดงก็ยากที่จะแสดงได้อย่างสมบูรณ์แบบเช่นกัน
ทว่านายกองกลับรู้สึกเสียดายอย่างลึกซึ้ง แม้เขาจะคิดว่าความเป็นไปได้ที่สวี่ชิงจะสัมผัสรับรู้สำเร็จนั้นน้อยถึงน้อยมาก แต่ภาพก่อนหน้านี้ยังทำให้เขาค่อนข้างคาดหวัง
‘ไม่เป็นไร ได้ผ่านประสบการณ์ก็พอแล้ว อย่างน้อยเขาก็สัมผัสได้ถึงจิตสังหาร’
ที่เสียดายไม่แพ้กันยังมีพวกรัฐทายาท พวกเขามีกรรมขัดขวาง จึงมองไม่เห็นทะเลความรู้สึกของสวี่ชิง แต่กลับสัมผัสความอ่อนล้าทางจิตใจของสวี่ชิงได้จากในนั้น
และยังมองออกว่า สวี่ชิงที่ทดลงในระดับที่ลึกกว่าหลังจากสัมผัสจิตสังหารได้ สุดท้ายก็ล้มเหลว
“เขากำลังสัมผัสรับรู้พลังวิเศษของเสด็จพ่อ แท่นประหารเทพเจ้า
“น่าเสียดาย…

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา