เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 647

บทที่ 647 นี่คือความรัก

นายกองได้ยินก็ยิ้มๆ สายตาจริงใจ

“ผู้อาวุโส นั่นเป็นไปไม่ได้ ตอนนั้นเป็นองค์ท่านที่อ้อนวอนขอช่วยข้า”

คำพูดของเขาสงบนิ่ง สีหน้าสุขุม สายตาแฝงด้วยแววย้อนความหลัง ทำให้คนรู้สึกว่าสำหรับตัวตนข้างหลังประตูไม้สีดำ เขาเชื่อมั่นถึงที่สุด ระหว่างพวกเขาเคยเกิดเรื่องราวในอดีตที่งดงามมากมาย

หนิงเหยียนและอู๋เจี้ยนอูมองตากัน ต่อให้เข้าใจในตัวเอ้อร์หนิว แต่เห็นอีกฝ่ายมีสีหน้าเช่นนี้ ในใจก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งเล็กน้อยเช่นกัน

สวี่ชิงกลับไม่ลังเลใดๆ ทั้งสิ้น ถอยห่างออกไปหลายสิบจั้ง มาอยู่ข้างรัฐทายาทและองค์หญิงหมิงเหมย เขารู้สึกว่าตรงนี้ปลอดภัย

ส่วนคำเชื้อเชิญให้เดินไปของนายกอง สวี่ชิงเมินเฉยไป

เขาคิดว่าตัวเองเป็นคนที่มีเหตุผล ไม่ได้บ้าระห่ำสักเท่าไร ทุกอย่างล้วนดูว่ามีคุณค่ามากพอหรือไม่ จุดนี้ต่างไปจากนายกอง

ดังนั้น เทียบกับความบ้าคลั่งรนหาที่ตาย สวี่ชิงรู้สึกว่านายกองอยู่เหนือกว่า

เห็นสวี่ชิงถอยหลัง ในดวงตานายกองฉายแววตัดพ้อ

“องค์ท่านด่าไม่น่าฟังเอามากๆ” ผู้อาวุโสแปดมองนายกองพลางเอ่ยอีกครั้ง

“องค์ท่านสาปแช่งเจ้า เหมือนเจ้าเป็นเสือผู้หญิงหลอกให้รักแล้วทิ้ง องค์ท่านอยากจะกินเนื้อของเจ้า ดื่มเลือดของเจ้า สูบวิญญาณของเจ้า คั้นไขกระดูกของเจ้า

“อืม แล้วก็ องค์ท่านเฝ้าหวังการมาเยือนของเจ้ามากๆ”

สีหน้าของนายกองเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย อกสั่นขวัญแขวนนิดๆ แต่ก็สะกดเอาไว้โดยสัญชาตญาณ กระแอมขึ้นมา

“จะเป็นไปได้อย่างไร พวกเราเป็นสหายสนิทกัน”

ส่วนน้องแปดเห็นครั้งนี้ตนไม่ถูกพี่ใหญ่และพี่หญิงสามขัด จึงนึกสนุกขึ้นมา หัวเราะพรืดออกมา พูดต่อไป

“อำนาจของข้าคืออารมณ์และความปรารถนา ดังนั้น ผ่านกลิ่นอายของที่นี่ข้าสามารถสัมผัสได้ถึงเทพชั้นสูงจันทราคิมหันต์ในประตูองค์นั้นได้ ในความคิด ความเคียดแค้นสุดขีดและความบ้าคลั่งมหาศาลที่มีต่อเจ้า จุ๊ๆ ระลอกคลื่นอารมณ์นี้รุนแรงนัก”

ผู้อาวุโสแปดสัมผัสอย่างละเอียดครู่หนึ่ง สีหน้าฉายแววเลื่อมใส

ผู้อาวุโสแปดพูดจบ เห็นเอ้อร์หนิวยังทำท่าเหมือนจะแก้ตัว จึงหงุดหงิด ชีวิตนี้ สิ่งที่เขาเกลียดที่สุดคือคนอื่นไม่เชื่อเขา จึงถลึงตาใส่

“หากเจ้าไม่เชื่อ เจ้ารีบเดินไปสองสามก้าวไปให้ถึงประตู ดูซิว่าเสียงเคาะประตูนั่นจะรุนแรงยิ่งขึ้นหรือไม่”

นายกองในใจคลื่นซัดกระหน่ำเล็กน้อย แต่คิดถึงคำโอ้อวดของตนก่อนหน้านี้ เขาจึงกัดฟันลองเดินไปข้างหน้าสองสามก้าว แต่ในทันทีที่ฝีเท้าเหยียบย่างลงมา เสียงเคาะจากประตูไม้สีดำนั่นก็กระหน่ำรัวขึ้นมาทันที

ปังๆๆๆ!

ถี่รัวและบ้าคลั่งยิ่งกว่าก่อนหน้านี้ ประตูสั่นอย่างรุนแรง คล้ายว่าจะพังทลายระเบิดมาจากในนั้นได้ทุกเวลา

เสี้ยวขณะนี้ต่อให้เป็นพวกหนิงเหยียนที่ไม่มีพลังอำนาจอารมณ์ก็ต่างสัมผัสได้ถึงความน่ากลัวและความโกรธแค้นจากในเสียงอันรุนแรงนี้ จึงต่างสูดลมหายใจ ถอยห่างออกไปสิบกว่าจั้ง

ผู้อาวุโสแปดแค่นเสียงหัวเราะขึ้นจมูก

เห็นเป็นเช่นนี้ นายกองถอนหายใจ

“เยวี่ยเยวี่ยน้อย เจ้ายังเกลียดข้าอยู่อีกหรือ”

เสียงนี้เพียงดังขึ้น เสียงเคาะในปนะตูสีดำก็หยุดลงโดยพลัน เปลี่ยนมาเงียบสงบ

และความหมายที่แฝงอยู่ในคำพูดของนายกองก็ยิ่งทำให้สวี่ชิงดวงตาจ้องเพ่ง

อู๋เจี้ยนอูและหนิงเหยียนต่างอึ้งตะลึง

โยวจิงทางนั้นกลับขมวดคิ้ว มองไปทางประตูไม้สีดำ นางอยากเห็นเฉินเอ้อร์หนิวตาย แต่ประตูบานนี้ตอนนี้กลับเงียบสงบ

ส่วนนายกองที่อยู่ตรงนั้น ตอนนี้สีหน้าโศกเศร้า เดินไปยังประตูไม้สีดำทีละก้าวๆ จวบจนไปถึงหน้าประตู แววตาของเขาก็แฝงด้วยรอยย้อนความหลัง สีหน้าทอดถอนใจ เอ่ยเสียงแผ่วเบา

“เยวี่ยเยวี่ยน้อย รออีกนิดหนึ่ง อีกไม่นานก็เรียบร้อยแล้ว…

“ความจริงเมื่อครู่ข้าหลอกสหายของข้าพวกนั้น แล้วก็หลอกอาชิงน้อยด้วยเช่นกัน อ้อ จริงสิ เจ้ายังไม่รู้ว่าอาชิงน้อยเป็นใคร เขาเป็นศิษย์น้องของข้าในชาตินี้ อีกเดี๋ยวเมื่อเจ้าออกมา ข้าจะแนะนำให้เจ้ารู้จัก

“เฮ้อ ข้าบอกพวกเขาว่าพวกเราเป็นสหายสนิทกัน

“แต่ความจริงแล้ว…ความสัมพันธ์ของพวกเราจะใช้คำว่าสหายสนิทมาบรรยายได้อย่างไร…”

ในดวงตานายกองแฝงไว้ด้วยห้วงอารมณ์ เสียงพึมพำดังก้องไปในมิติ ไปตามถนนที่แปรเปลี่ยนจากเส้นผมดำ ส่งไปยังรอบนอกวงแหวนพลังแห่งเจตจำนงตั้งมั่นของสรรพชีวิต ดังมาในหูพวกสวี่ชิง

แต่เดิมพวกเขาไม่มีทางเชื่อ แต่จากการพูดขึ้นมาของเอ้อร์หนิว ประตูไม้สีดำก็ไม่มีเสียงเคาะดังมาอีก เหมือนกับว่ากำลังขานตอบจริงๆ อย่างไรอย่างนั้น

ภาพฉากนี้ทำให้หนิงเหยียนกับอู๋เจี้ยนอู ตลอดจนหลี่โหยวเฝ่ยค่อนข้างจะเชื่อไปอีกสองสามส่วนโดยสัญชาตญาณ

โยวจิงกลับขมวดคิ้ว

สวี่ชิงเงียบนิ่ง มองไปที่มือทั้งสองข้างของศิษย์พี่ใหญ่อย่างละเอียด ในตอนที่สังเกตอย่างละเอียด นายกองก็ถอนหายใจออกมา หันกลับไปมองคนทั้งหลาย

“แนะนำให้รู้จักอีกครั้ง ผู้ที่อยู่ในประตูบานนี้ คือภรรยาเก่าของข้า”

ประโยคนี้ราวสายอัสนีฟาดผ่า

หนิงเหยียนตื่นกลัวร้องเสียงหลง อู๋เจี้ยนอูดวงตาเบิกกว้างแทบถลน ในสมองยิ่งมีสายฟ้าฟาดผ่า หลี่โหยวเฝ่ยอึ้งงงงันไปโดยสมบูรณ์ โยวจิงก็ตกตะลึงไปเช่นกัน

“ภรรยาเก่าหรือ”

“เทพเจ้าเนี่ยนะ”

“นี่…นี่มันสถานการณ์อะไรกัน!”

สวี่ชิงไม่เหมือนพวกเขา เขาจ้องมือขวาที่กำเอาไว้ของศิษย์พี่ใหญ่ ในใจคล้ายครุ่นคิด

ส่วนพวกรัฐทายาท ปฏิกิริยาตอบสนองก็ต่างออกไปเล็กน้อย น้องแปดสงสัย น้องหญิงห้าหรี่ตา องค์หญิงหมิงเหมยสายตาลังเลขบคิด รัฐทายาทพลันเอ่ยขึ้น

“มือขวาเจ้าถืออะไรเอาไว้”

เห็นพวกเขาแสดงออกมาเช่นนี้ ในใจนายกองเบิกบานสุดขีด แต่สีหน้ากลับรักษาคลื่นอารมณ์เอาไว้ ถอนหายใจออกมา

“ขายหน้าทุกท่านแล้ว ตอนนั้นเยวี่ยเยวี่ยน้อยจะไปเป็นเทพ ความคิดไม่ตรงกับข้า สุดท้ายพวกเราก็ทำได้เพียงแค่แยกทางใครทางมัน นางไปเป็นเทพเจ้าบนฟ้าของนาง ข้าก็เป็นมนุษย์เดินดินของข้าไป

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา