บทที่ 651 พิษต้องห้ามคำสาปเทพเจ้า หลอมอยู่ตรงหน้า (1)
ในยามที่สวี่ชิงความคิดโลดแล่นอยู่ทางนี้ บนทะเลสาบอีกด้านหนึ่งของมิติแห่งนี้ นายกองร่างสวมชุดคลุมยาวสีดำ มือไพล่หลังยืนอยู่ตรงนั้น เงยหน้ามองไปยังมิติข้างบน
ในสีหน้าของเขาแฝงไว้ด้วยความทอดถอนใจ คล้ายว่ากำลังดื่มด่ำ กำลังย้อนรำลึก ความรู้สึกผ่านห้วงเวลามายาวนาน ปรากฏขึ้นมาจากสีหน้าของเขา
เนิ่นนาน เสียงทอดถอนใจที่แฝงไว้ด้วยอารมณ์ซับซ้อนก็ดังออกมาจากปากของเขา ดังก้องไปทั่งทิศ เกิดแว่วเสียงเป็นชั้นๆ ทำให้คนรู้สึกอารมณ์ท้วมท้น
“ฟ้าดินที่นี่ ต้นไม้ใบหญ้าที่นี่ ทุกสิ่งทุกอย่างที่นี่ ข้าล้วนคุ้นเคยถึงเพียงนี้…”
นายกองพึมพำ
เพียงแต่ เสียงจากคำพูดของเขายังไม่ทันจบลง เสียงเย็นยะเยือกเสียงหนึ่งก็ดังมาจากทะเลสาบกระจกใต้เท้าเขา น้ำเสียงเย็นชา
“เจ้าตาบอดหรือ ที่นี่ไม่มีฟ้าดิน และไม่มีต้นไม้ใบหญ้าด้วยเช่นกัน ที่นี่นับแต่เสี้ยวพริบตาที่เจ้าเหนือหัวสร้างมันขึ้นมาก็เป็นความว่างเปล่า เป็นมาโดยตลอด”
นายกองกะพริบตาปริบๆ สีหน้าเป็นปกติ ไม่ได้รู้สึกกระอักกระอ่วนเพราะถูกเปิดโปงใดๆ ทั้งสิ้น แต่ในใจกลับได้ใจ แอบพูดในใจว่าเจ้าวิญญาณศัสตราตัวเล็กๆ จะได้เข้าใจอะไร ข้าพูดคือคาถา
ตอนนี้ร่ายคาถาจบ เขาก็เงยหน้าขึ้นเอ่ยเสียงดัง
“สำหรับเจตจำนงในการทดสอบ ข้าคิดออกแล้ว!”
น้ำใต้เท้าเขาแผ่คลื่นกระเพื่อม ชายชราชุดขาวจ้องเพ่ง เอ่ยขึ้นเสียงเย็น
“บอกเจตจำนงของเจ้าออกมา”
“เจตจำนงของข้าคือช่วยสรรพชีวิตทั้งหลายในแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ให้พ้นทุกข์ นำพวกเขาต่อต้านพระจันทร์สีชาด สุดท้ายข้าจะทำเหมือนเจ้าเหนือหัวในตอนนั้น สังหารชื่อหมู่ กลืนกินนาง ฟ้าดินรับรู้ เบิกฟ้าเบิกปฐพี!”
นายกองสีหน้าหยิ่งทะนงภาคภูมิ เสียงสะท้อนก้อง
ในทะเลสาบกระจก สีหน้าชายชราชุดขาวคนนั้นไม่เปลี่ยนแปลงใดๆ คล้ายว่าไม่หวั่นไหวกับเจตจำนงนี่ แต่กลับมีไอเย็นแผ่ออกมาจากใต้เท้าของเขา หลังจากแผ่ลามไปทั่วทั้งทะเลสาบ ก็ลอยออกมาจากใต้ทะเลสาบที่นายกองอยู่ แปรเปลี่ยนเป็นเสียงเย็นเยือก
“เจ้าจะทำอย่างไร”
“เรื่องนี้ง่ายมาก ก่อนอื่นข้าจะเป็นนายแห่งตำหนักขบถจันทร์ นี่เป็นขั้นหนึ่งที่สำคัญในแผนการนี้ของข้า
“นอกจากนี้ ข้ายังมีเจตจำนงข้อที่สอง ข้าจะเปลี่ยนชื่อแผ่นดินใหญ่เซ่นจันทราแห่งนี้เป็น…แผ่นดินใหญ่วัวสวรรค์!”
นายกองดวงตายึดมั่น เสียงฮึกเหิม
ชายชราชุดขาวไม่พูดอะไร ไอเย็นเยือกที่ยิ่งเย็นหนาวเหน็บปกคลุมนายกองมาอย่างช้าๆ จากทั่วทุกทิศ
เห็นเป็นเช่นนี้ นายกองในใจลิงโลด เหมือนว่าพูดเช่นนี้ยังเกินสมควรไม่พอ ยังฮึกเหิมไม่พอ อีกทั้งความเย็นรอบๆ ก็แผ่ลามมาช้าเหลือเกิน เขาจึงเอ่ยปากพูดอีก
“ข้ายังพูดไม่จบ ยังมีเจตจำนงข้อที่สาม สุดท้าย ข้าจะทำลายเสี้ยวหน้าบนท้องฟ้า สำเร็จเป็นจักรพรรดิโบราณคนใหม่ของแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ รวบรวมต้องประสงค์ให้เป็นหนึ่ง!
“ถึงตอนนั้น ข้าจะชกหมัดไปทั่วแดนศักดิ์สิทธิ์ เท้าเหยียบนภาเจิดจรัส หมื่นเผ่าล้วนต้องเคารพหมอบกราบข้า ฟ้าจะต้องจมลงมาเพื่อข้า”
พูดถึงตรงนี้ นายกองก็ฮึกเหิมเป็นอย่างยิ่ง เงยหน้าหัวเราะร่า
และท่ามกลางเสียงหัวเราะของเขา ไอเย็นรอบๆ ปะทุขึ้นมาทันที พุ่งตรงไปหาเขา เพียงพริบตาก็ท่วมจมเขาไปในนั้น สุดท้าย…ก็กลายเป็นรูปสลักน้ำแข็งรูปหนึ่ง
นายกองที่อยู่ในน้ำแข็งแกะสลักยังคงรักษาท่าทางหัวเราะเอาไว้ ดูแล้วกำเริบเหิมเกรมนัก
ตอนนี้ค่อยๆ จมลงไปอย่างช้าๆ หายไปจากบนทะเลสาบ ร่วงหล่นไปยังจุดลึกของมิติแห่งนี้…
เห็นได้ชัดว่าเจตจำนงของเขาถูกวิญญาณศัสตราตำหนักขบถจันทร์พิพากษาว่าเสแสร้ง จึงได้รับโทษผนึก
อีกด้านหนึ่ง สวี่ชิงจิตใจฮึกเหิม
หลังจากเขาขบคิดแล้ว รู้สึกว่าความคิดเกี่ยวกับพิษต้องห้ามของตนไม่มีปัญหาอะไร มีเพียงจุดเดียวคือเขาไม่แน่ใจว่าวิญญาณศัสตราจะรับรู้การกระทำของเขาหรือไม่
อย่างไรนี่ก็นับว่าเป็นการยืมการสอบมาทำให้ความปรารถนาส่วนตัวของตัวเองสัมฤทธิ์ผล
ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันเหตุไม่คาดฝัน สวี่ชิงรู้สึกว่าควรจะทำให้แน่ใจและปลอดภัยไว้ก่อน หลอมลูกกลอนลดคำสาปก่อน ใช้เรื่องนี้เป็นการอำพราง
นึกถึงตรงนี้ สวี่ชิงก็สะบัดมือทันที สมุนไพรจำนวนมากลอยมา แยกส่วนในมือเขาไม่หยุด
บ้างเอาน้ำ บ้างแยกส่วนประกอบ บ้างเร่งปฏิกิริยา บ้างติดตาเข้าด้วยกัน แตกต่างกันไป ปรับซึ่งกันและกัน
ส่วนยาลูกกลอนพื้นฐาน คือลูกกลอนลดคำสาปที่สวี่ชิงหลอมมาจากข้างนอก
ลูกกลอนพวกนี้เดิมก็สามารถลดคำสาปได้ประมาณหนึ่งส่วน สวี่ชิงก่อนหน้านี้ในช่วงว่างหลอมไว้เป็นจำนวนไม่น้อย
ตอนนี้ภายใต้การหลอมใหม่อีกครั้งของเขา แม้บางส่วนที่เติมเข้าไปจะทำให้ยาลูกกลอนเปลี่ยนมามีทั้งส่วนที่เป็นของจริงและส่วนที่เนรมิตขึ้นมา แต่บนทะเลสาบกระจกแห่งนี้ ลูกกลอนที่ผสานสมุนไพรเนรมิตเหล่านี้ ส่วนประกอบในนั้นผสานกันไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ สมุนไพรที่นี่ทุกต้นล้วนมีจำนวนที่มากพอ ทำให้เวลาสวี่ชิงหลอมในใจเบิกบานเป็นอย่างยิ่ง
ต้องการอะไร ก็สั่งอันนั้น
ขอเพียงสั่งก็จะปรากฏขึ้นมาทันที
อายุไม่พอ ก็เพิ่มอายุ สรรพคุณยาไม่เป็นที่พอใจ ก็เปลี่ยนเป็นสมุนไพรตัวอื่นที่ดียิ่งขึ้น
ความรู้ทฤษฎีทุกอย่างในเวลาหลายปีมานี้ของเขาล้วนพุ่งเพิ่มขึ้นในเวลาสั้นๆ นี้ สมุนไพรที่ในชีวิตนี้เขาไม่เคยเจอ ล้วนแค่พูดก็ปรากฏขึ้นที่นี่
หลังจากที่ได้รับการพิสูจน์อยู่ตลอด วิชาสมุนไพรของสวี่ชิงก็พัฒนารุดหน้าไปอย่างมหาศาล
มองไกลๆ สวี่ชิงที่นั่งขัดสมาธิอยู่ตรงนั้น ขณะที่มือทั้งสองโบกสะบัด สมุนไพรนับไม่ถ้วนก็หมุนวนอยู่ข้างหน้าเขา รูปร่างเปลี่ยนไปไม่หยุด
และภายใต้การเร่งปฏิกิริยาของสมุนไพรเหล่านี้ พลังในการลดคำสาปของลูกกลอนก็ค่อยๆ เพิ่มมากขึ้น จนมาถึงเกือบสองส่วนแล้ว
ทุกอย่างนี้ทำให้สวี่ชิงฮึกเหิม
เขารู้ว่าทิศทางการค้นคว้าก่อนหน้านี้ของตนไม่ผิด


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา