เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 658

บทที่ 658 ไก่ตัวหนึ่งทะยานฟ้าขวางด่าน หมื่นบุรุษก็ฝ่าเข้ามาไม่ได้

สร้างความชอบลดโทษสี่ตัวอักษรนี้เมื่อดังออกมา ในบรรดาลูกเจี๊ยบพวกนี้มีหลายสิตัวที่กระพือปีกกระโดดขึ้นมา ส่งเสียงเจี๊ยบๆ ในดวงตาฉายความปรารถนามหาศาล

พวกเขาบ้าคลั่งแล้ว

กระทั่งว่าเพื่อที่จะแช่งชิงโอกาสครั้งนี้ หลังจากที่ต่างฝ่ายต่างกระโดด ก็ตีกันเอง ขนไก่กระจายทั่วพื้น

สวี่ชิงขมวดคิ้ว

ลูกเจี๊ยบพวกนี้เงียบทุกตัวทันที ไม่ว่าก่อนหน้านี้พวกเขาจะมีพลังบำเพ็ญระดับไหน แต่ก็รู้สถานการณ์ของตัวเอง อีกทั้งรู้ดีว่าที่นี่มีระดับเตรียมสู่เทวะสี่คน และยิ่งเมื่อเดาถึงฐานะตำแหน่งของสวี่ชิงออก พวกเขาก็ไม่กล้าเพิกเฉยแม้แต่น้อย

ความโมโหโศกเศร้าแม้จะรุนแรง แต่หากอยากมีชีวิตรอดก็ทำได้เพียงก้มหน้าเท่านั้น

เห็นพวกเขาสงบลง สวี่ชิงก็ยกมือชี้ จากในบรรดาลูกเจี๊ยบร้อยกว่าตัว เลือกไปสามสิบกว่าตัว

“พวกเจ้าใครเร็วที่สุด”

สวี่ชิงถามขึ้นประโยคหนึ่ง

ก็มีลูกเจี๊ยบตัวหนึ่งในนั้นพลัยกระโดดขึ้นมาทันที เสียงเจี๊ยบๆ ฉายความปรารถนาออกมา

สวี่ชิงพยักหน้า เอาแผ่นหยกควบคุมลูกเจี๊ยบที่รัฐทายาทมอบให้ออกมา ประสานปางมือชี้ไป ทันใดนั้นก็มีแสงสีขาวทางหนึ่งพุ่งออกมาจากแผ่นหยก ตรงไปยังลูกเจี๊ยบ

เสี้ยวขณะต่อมา ลูกเจี๊ยบตัวนี้สะท้านเฮือกทั้งร่าง รูปร่างเปลี่ยนไป แต่ไม่ได้กลายเป็นร่างผู้บำเพ็ญ ทว่าตัวไก่ขยายใหญ่ขึ้น มีขนาดถึงสิบจั้ง กลายเป็นไก่ตัวใหญ่

พลังบำเพ็ญก็ฟื้นฟูกลับคืนมาด้วย ทันใดนั้น ระลอกคลื่นพลังระดับหวนสู่อนัตตาขั้นสองก็ปะทุออกมาจากตัวมัน ยิ่งมีพลังชื่อหมู่ลอยเอ่อ คนคนนี้…ก็คือทูตเทวะตำหนักเทพพระจันทร์สีชาดนั่นเอง

ดวงตาสวี่ชิงฉายแววแปลกประหลาด แต่เมื่อนึกถึงว่าท่านย่าห้าเป็นคนเลี้ยง ก็ไม่มีอะไรน่าประหลาดใจแล้ว ดังนั้นร่างเพียงไหววูบก็มาอยู่บนหลังไก่ยักษ์ตัวนี้แล้ว

“พวกเจ้าตามอยู่ข้างหลัง” บอกลูกเจี๊ยบตัวอื่นๆ หลังจากที่ปลดผนึกบางส่วนให้พวกเขา สวี่ชิงก็ออกคำสั่งอย่างสงบนิ่ง

ไก่ตัวยักษ์ระดับหวนสู่อนัตตาขั้นสองไม่กล้าขัดขืน พันธนาการของท่านย่าห้าทำให้มันเมื่อเกิดความความคิดต่อต้านแม้เพียงน้อยนิดก็จะทรมานมีชีวิตอยู่ไม่สู้ตาย ดังนั้นจึงรีบพยักหน้า ทะยานขึ้นฟ้าออกบิน

ตรงไปยังท้องฟ้า

ส่วนลูกเจี๊ยบตัวอื่นๆ ตอนนี้ต่างก็พุ่งตัวออกมา ตามอยู่ข้างหลัง

เช่นนี้เอง ลูกเจี๊ยบฝูงหนึ่งบินทะยานมาตลอดทาง อยู่ในพายุสีเทา ส่งเสียงพรึ่บพั่บ บินไปยังชายขอบทะเลทราย

รวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง ฝ่าทะลวงผืนฟ้า

เพียงแค่ไม่กี่ชั่วยาม จากเทือกเขาทนทุกข์พวกเขาก็บินมาถึงชายขอบทะเลทราย

จากที่ไกลๆ จะเห็นบริเวณชายขอบของทะเลทรายมีห้องทรายง่ายๆ จำนวนมากตั้งอยู่ ผู้ที่ปักหลักอยู่ที่นี่เป็นผู้บำเพ็ญทะเลทรายทั้งนั้น จำนวนเกือบหมื่น มีบรรพจารย์โม่กุยเป็นผู้นำ

หลังจากที่สังเกตเห็นฝูงลูกเจี๊ยบบินมาในท้องฟ้า ผู้บำเพ็ญที่นี่ต่างตกใจสงสัย ส่วนบรรพจารย์โม่กุยพุ่งตัวออกไปเป็นคนแรก

เขารู้จักลูกเจี๊ยบพวกนี้ ยิ่งเมื่อเห็นเงาร่างของสวี่ชิงที่บินอยู่บนท้องฟ้าอย่างชัดเจน ในใจบรรพจารย์โม่กุยก็ตื่นตะลึง

“เป็นนายน้อยท่านนั้น!”

ในฐานะที่เป็นคนงานในร้านยา เขาย่อมรู้ถึงตำแหน่งของสวี่ชิงในร้านยา และได้เห็นรัฐทายาทชี้แนะอีกฝ่ายอยู่หลายครั้ง ดังนั้นจึงรู้ดีเป็นอย่างยิ่งว่าคนคนนี้คือเจ้าของร้านยา ระหว่างรัฐทายาทก็เป็นอาจารย์กับลูกศิษย์

ดังนั้นจึงรีบเอ่ยปากทันที

“คารวะนายน้อย!”

พูดแล้ว บรรพจารย์โม่กุยก็ประสานหมัดคารวะกลางอากาศ

สวี่ชิงพยักหน้า ประสานหมัดทำความเคารพกลับไปเช่นกัน

“คารวะผู้อาวุโส”

แม้ฐานะของอีกฝ่ายจะเป็นคนงานในร้านยา แต่สวี่ชิงรู้ ทุกอย่างล้วนเป็นเพราะรัฐทายาท ไม่เกี่ยวกับตน อีกทั้งเทียบกับลูกไก่พวกนี้ รัฐทายาทปล่อยบรรพจารย์โม่กุยคนนี้ไป คิดแล้วก็คงจะมีเหตุผลบางอย่าง

เจอกับการทำความเคารพคืนของสวี่ชิง บรรพจารย์โม่กุยทอดถอนใจ เขาถูกกระทำหยามหมิ่นที่ร้านยาได้ แต่ตอนนี้ที่นี่มีคนมากมายขนาดนี้ ส่วนใหญ่แล้วเป็นผู้ใต้บัญชาของตนทั้งนั้น ความจริงแล้วในใจของเขาก็ต้องการศักดิ์ศรีเช่นกัน

และการทำความเคารพของสวี่ชิงทำให้ในใจของเขาเบิกบานนัก เกิดความรู้สึกใกล้ชิดสนิทสนมขึ้นมาอีกเล็กน้อยไปตามธรรมชาติ

“นายน้อย จุดประสงค์ของท่านที่มาครั้งนี้คือเรื่องอะไรหรือขอรับ”

“รัฐทายาทสั่งให้ข้ามารับผู้บำเพ็ญตำหนักขบถจันทร์ที่มาถึงที่นี่”

สวี่ชิงเงยหน้ามองไปที่ไกล บริเวณลมสีเทา ฟ้าดินเป็นสีเลือดไปทั้งผืน เหมือนว่าอาบย้อมด้วยเลือดสดๆ และในฟ้าดินสีเลือดนี้ ตอนนี้มีจุดดำมากมายปรากฏอยู่ที่ปลายขอบฟ้า

บินมาทางนี้อย่างเร็วรี่

ปลายขอบฟ้านอกผืนทะเลทราย จุดดำที่ปรากฏเหล่านั้นเป็นเรือเหาะมากมาย

พวกมันก็คือเจ้าตำหนักสี่และลูกน้องใต้บัญชาการที่หลบหนีการไล่ล่าสังหารจากตำหนักเทพพระจันทร์สีชาดมาตลอดทางนั่นเอง

เรือเหาะพันลำ ส่วนใหญ่ล้วนเสียหาย ผู้บำเพ็ญในนั้นอ่อนล้ายิ่งกว่าครึ่งเดือนกว่าๆ ก่อนหน้านี้ ความเหนื่อยล้าก็เช่นกัน การปะทุขึ้นของอาการบาดเจ็บ ความร้อนรนของจิตใจทำให้ทุกคนเหนื่อยสายตัวแทบขาด

ข้างหลังพวกเขาเป็นแสงสีแดงท่วมฟ้า

และเจ้าตำหนักสี่ที่ในกองกำลังหน้าสุด สีหน้าของเขาขาวซีด อาการบาดเจ็บสาหัส ลูกน้องระดับหวนสู่อนัตตาเหล่านั้นที่อยู่ข้างหลัง กลิ่นอายก็ล้วนมาถึงจึดวิกฤตของชีวิตแล้วเช่นกัน

“เจ้าตำหนักสี่ นี่เป็นลูกกลอนลดคำสาปเม็ดสุดท้ายแล้ว ลูกกลอนของปรมาจารย์ลูกกลอนเก้าทางนั้น แม้จะมอบให้โดยไม่ต้องการสิ่งตอบแทน แต่คนที่ต้องการมีมากเหลือเกิน จำนวนมีจำกัด และข้าอย่างไรแล้วก็สู้ปรมาจารย์ลูกกลอนเก้าไม่ได้ ต่อให้เขามอบสูตรลูกกลอน ข้าก็ไม่สามารถหลอมออกมาได้”

ข้างหลังเจ้าตำหนักสี่เป็นชายกลางคนระดับหวนสู่อนัตตาขั้นหนึ่ง เขาเอาขวดลูกกลอนออกมาใบหนึ่ง ยื่นออกไป เอ่ยขึ้นด้วยเสียงแหบแห้ง

บทที่ 658 ไก่ตัวหนึ่งทะยานฟ้าขวางด่าน หมื่นบุรุษก็ฝ่าเข้ามาไม่ได้ 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา