เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 66

บทที่ 66 แย่งความดีความชอบข้าหรือ

รางวัลครั้งนี้น่าตกใจมาก

จากจุดนี้เห็นได้ว่าผู้นำระดับสูงของสำนักเจ็ดเนตรโลหิตเกลียดชังนกเขาราตรีเข้ากระดูกดำ

คนที่ใจหวั่นไหวไม่ใช่แค่สวี่ชิงเท่านั้น กองที่หกทั้งกองตอนนี้ทุกคนตาวาววาบ บางคนส่งเสียงหัวเราะฮี่ๆ ออกมา บางคนเลียริมฝีปาก และบางคนในดวงตายิ่งฉายแววปรารถนา

สำหรับลูกศิษย์สำนักเจ็ดเนตรโลหิต การได้มาซึ่งทรัพยากรฝึกบำเพ็ญตัดสินทุกอย่างของตัวเอง

ปกติแล้วทุกคนล้วนใช้วิธีต่างๆ นานาไปจับคนร้ายเพื่อหาเงินพิเศษ โอกาสเคลื่อนไหวขนาดใหญ่แบบนี้มีไม่มาก ตอนนี้ทุกคนต่างตระหนักว่า หากทำงานครั้งนี้ได้ดี ในช่วงนี้ก็จะไม่ขาดทรัพยากรแล้ว

ดังนั้นแต่ละคนจึงค่อยๆ หายใจถี่กระชั้นขึ้นมา พากันมองไปทางนายกอง

“นายกองจะออกเดินทางเมื่อไรหรือ”

“นั่นสิ แค่ลงมือก็ได้แล้ว!”

ฟังเสียงร้อนใจของสมาชิก นายกองหัวเราะ กัดผิงกั่วในมือ หยิบแผ่นหยกออกมาแล้วแบ่งให้ทุกคน

“เป้าหมายของพวกเราก็ไม่ได้ใหญ่มาก หัวหน้าของศัตรูที่เป็นระดับรวมปราณขั้นสมบูรณ์สองคนจะต้องเป็นของพวกเรา!

“อีกเดี๋ยวเมื่อถึงที่หมาย พวกเราแฝงตัวเข้าไปตัดหัว ตอนลงมือข้าจะไปจัดการคนหนึ่งก่อน อีกคนหนึ่งทันทีที่พวกเจ้าเห็นก็ให้ล้อมเอาไว้ทันที ฆ่าได้ก็ฆ่า หากฆ่าไม่ได้ให้ถ่วงเวลารอข้ามา หวังว่าจบภารกิจครั้งนี้พวกเจ้าจะยังมีชีวิตอยู่ทุกคน

“ตอนนี้ ออกเดินทางได้!”

ทั้งกรมปราบพิฆาตเคลื่อนไหวทันที

มองไกลๆ ที่ว่าการกรมปราบพิฆาตใต้แสงจันทร์มีเงาร่างแต่ละเงาๆ พุ่งออกมา มุ่งหน้าไปทั่วทุกทิศในเมือง

ความเร็วและความรุนแรงของจิตสังหารที่เย็นยะเยือกทำให้เงาร่างทุกร่างล้วนเหมือนรยางค์หนามของกรมปราบพิฆาต จากการที่ย้ายกระจายกันไปไม่หยุด ทั้งกรมปราบพิฆาตเป็นเหมือนสัตว์อสูรยักษ์บรรพกาลที่กำลังยืดตัวหลังจากที่ตื่น พลังกดดันปะทุท่วมฟ้าในทันที

ทำให้โจรชั่วช้าทั้งหลายในเมืองต่างหวาดผวา

‘กองที่ฆ่าหัวหน้าศัตรูได้ จะได้หินวิญญาณสิบก้อนทุกคน หัวหน้าศัตรูมีสองคน…หากถูกกองหกฆ่า อย่างน้อยทุกคนก็จะได้หินวิญญาณยี่สิบก้อนเป็นพื้นฐาน’

สวี่ชิงเป็นสมาชิกในกองหก สำแดงความเร็วเคลื่อนไปข้างหน้าพลางพึมพำในใจ ดวงตาฉายแววคาดหวัง

เขาได้กวาดตาดูแผ่นหยกที่นายกองแจกจ่ายอย่างรวดเร็วแล้ว ในนั้นมีข้อมูลของทุกคนที่ไปที่กบดาน ครบถ้วนสมบูรณ์มากๆ หน้าตาท่าทางและวิชาที่ชำนาญล้วนมีบันทึก เห็นได้ว่าช่วงนี้ในหน่วยทำการตรวจสอบนกเขาราตรีที่อยู่ในเมืองได้อย่างสมบูรณ์

ตอนนี้คนทั้งหลายไม่พูดอะไรอีก เคลื่อนที่ตามนายกองที่อยู่ข้างหน้า เพิ่มขึ้ความเร็วนเรื่อยๆ จิตสังหารเดือดพล่าน ทั้งยังรุนแรงยิ่ง

จิตสังหารท่วมฟ้าในความมืด การเคลื่อนไหวของกรมปราบพิฆาตไม่มีข้อมูลใดๆ หลุดออกมาเลย จึงทำให้คืนนี้ คนที่ออกเคลื่อนไหวตอนกลางคืนที่เห็นพวกเขาต่างจิตใจสั่นสะท้าน ดวงตาฉายแววตื่นกลัว รีบหลบซ่อนไปในทันทีไอรีนโนเวล

หอนางโลมและโรงพนันเหล่านั้นจากที่คึกครื้นก็เงียบลงทันควัน คนในนั้นต่างตาเบิกโพลงอ้าปากค้าง ใจสั่นตื่นกลัวรีบปิดประตูทันที

โจรชั่วทุกคนในใจรู้กระจ่างเป็นอย่างดีว่า กรมปราบพิฆาตเคลื่อนไหวเช่นนี้ เช่นนั้นก็หมายความว่าในคืนนี้…

ทั้งเมืองหลักจะต้องหลั่งเลือด!

คนมากมายมองความตายครั้งนี้เหมือนสายอัสนีฟาดผ่านท้องฟ้า ขับไล่ความชั่วร้ายทั้งมวลไป!

กระทั่งว่าโรงเตี๊ยมที่ปกติเปิดตอนกลางคืนมากมายเหล่านั้น วันนี้ก็ต่างเลือกที่จะปิด ที่ถนนทองผุดก็เช่นกัน

กองหกตอนนี้ผ่านถนนทองผุด สวี่ชิงเห็นชายแก่เจ้าของโรงเตี๊ยมที่ปิดโรงเตี๊ยมอย่างรวดเร็ว สายตาของทั้งสองคนประสานกันในเสี้ยวเวลาสั้นๆ

“เขากลัวแล้ว…” สวี่ชิงหรี่ตา สังเกตได้ว่าในดวงตาของชายชรามีแววหวาดระแวงฉายกะพริบ ดังนั้นจึงก้มหน้ามองเหรียญตราบนเสื้อของตัวเอง

อย่างน้อยในคืนนี้ เหรียญตราบนชุดนักพรตสีเทาของเขาก็เป็นตัวแทนของอำนาจความน่าเกรงขามของสำนักเจ็ดเนตรโลหิต

ขั้วอำนาจใดก็ตาม จะงูก็ดี มังกรก็ช่าง ในคืนวันนี้ล้วนต้องก้มหัว ล้วนต้องขดตัว!

ในเวลานี้ หากแม้นมีการรบกวนแม้เพียงเศษเสี้ยวก็จะต้องถูกบดขยี้แหลกละเอียดในเสี้ยวพริบตาแน่นอน

“ที่ใดก็ตามล้วนมีแสงสว่างและความมืดทั้งนั้น ที่นี่ก็เช่นเดียวกัน แม้สำนักจะเลี้ยงกู่ อีกทั้งยังอนุญาตให้ในเมืองมีความรุ่งเรืองอันมืดมน แต่หนึ่งคือจะลงมือกับประชาชนคนธรรมดาไม่ได้ สองคือระดับสร้างฐานจากข้างนอกฆ่าระดับรวมปราณสำนักเราไม่ได้ นี่คือเส้นแดงสองเส้น ข้ามเส้นแเดงไป…ต้องจ่ายค่าตอบแทน”

นายกองที่อยู่ข้างหน้าเอ่ยเสียงราบเรียบ เมื่อพูดจบก็แบ่งหน้าที่ก่อนจากไป

ในใจของสวี่ชิงเกิดระลอกคลื่นอารมณ์ ก่อนนี้เขาก็ตระหนักถึงจุดนี้แล้ว แต่วันนี้เมื่ออยู่ในการปฏิบัติการ หลังจากสัมผัสกับตัวเองแล้วก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงความทรงอำนาจของสำนักเจ็ดเนตรโลหิตได้ลึกซึ้งขึ้น

ตอนนี้เขาติดตามอยู่ในกลุ่มสมาชิก คนกลุ่มหนึ่งมีเป้าหมายที่ชัดเจน หลังจากนั้นครึ่งชั่วยาม ก็มองเห็นจุดหมายของครั้งนี้ได้จากที่ไกลๆ

นั่นเป็นคฤหาสน์หลังหนึ่ง

พระจันทร์กลอยเด่นกลางฟ้า ผืนแผ่นดินมืดมิดไปทั่ว ในคฤหาสน์แห่งนี้แม้จะมีแสงไฟ แต่ในความมืดนี้ แสงไฟเล็กน้อยราวสะเก็ดไฟก็ไหวระริกจะมอดดับไป

นอกคฤหาสน์ มีเงาร่างลูกศิษย์กรมปราบพิฆาตที่ซ่อนตัวอยู่ในที่มืดออกมาจากการมาถึงของกองหก

พวกเขาเป็นคนที่กรมมอบหมายให้รับผิดชอบสอดแนม ตอนนี้หลังจากที่ประสานหมัดคารวะนายกองก็จากไปอย่างรวดเร็ว

“ทำตามการแบ่งหน้าที่ เริ่มการแทรกซึม!” ประกายเย็นเยียบในดวงตานายกองเพียงกะพริบวาบ ร่างก็ไหววูบพุ่งเข้าไปในคฤหาสน์ ส่วนสมาชิกกองหกก็แบ่งออกไปแปดคนล้อมคฤหาสน์เอาไว้ทั่วทุกทิศ เกิดเป็นการปิดล้อม สิบกว่าคนที่เหลือต่างแยกย้ายกันไป แทรกซึมไปตามตำแหน่งต่างๆ ในคฤหาสน์

สวี่ชิงก็อยู่ในนั้น ตอนนี้ตั้งท่าโจมตี รวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง

มองไกลๆ คนของกองหกทั้งหลายเหมือนมือยักษ์ข้างหนึ่ง คว้าไปทางแสงไฟ

ในขณะเดียวกันก็มีเงาร่างของลูกศิษย์กรมปราบพิฆาตปรากฏตัวขึ้นเช่นกันจากที่ไกลๆ คนที่อยู่ข้างหน้าก็คือเด็กหนุ่มเผ่าเงือกคนนั้น พวกเขาคือหน่วยปราบพสุธากองสาม วันนี้สนับสนุนกองหกต่อสู้

ตอนนี้เมื่อมาถึง เห็นกองหกวางแผนบุกเข้าไปแล้ว เด็กหนุ่มเผ่าเงือกสายตาก็ฉายแววดูถูกออกมา แค่นเสียงหัวเราะ เพียงสะบัดมือก็มีวัตถุทรงกลมสีดำชิ้นหนึ่งพุ่งออกไป ร่วงหล่นในคฤหาสน์ แล้วระเบิดทันที ส่งเสียงดังสนั่นหวั่นไหว

กองย่อยใต้การบัญชาการของเขาแต่ละคนก็ต่างยิ้มเหี้ยมเกรียม ต่างโยนวัตถุที่คล้ายกันออกไป เกิดเสียงระเบิดสนั่นหวั่นไหวดังขึ้นทันที”ฮณ๊ฯดฯฌซ,

ตอนกลางคืนจู่ๆ มีเสียงดังขึ้นมา ก็ทำให้คนของนกเขาราตรีทั้งหลายตกใจตื่นทันที แต่ละคนสีหน้าเปลี่ยนไป กระจายตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้แผนการแทรกซึมโจมตีลอบตัดหัวของกองหกล้มเหลว

สวี่ชิงขมวดคิ้ว กองสามใช้วิธีนี้วิธีรบกวนภารกิจของกองหกอย่างชัดเจน

บทที่ 66 แย่งความดีความชอบข้าหรือ 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา