เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 662

บทที่ 662 ความลับที่บอกหลิงเอ๋อร์ไม่ได้

หลังจากนั้นหนึ่งก้านธูป เจ้าตำหนักสี่ก็ไปจากร้านขายยา

ทันทีที่เดินออกมา เขาหันกลับไปมองร้านยา ดวงตาฉายประกายแปลกประหลาด

ก่อนหน้านี้เขาเดินไปในร้านยา พบกับรัฐทายาท ตลอดการพูดคุยเขารักษาความเคารพนอบน้อมและมารยาทตลอด ในการพูดคุยแม้จะไม่มาก แต่เขาก็แสดงความคิดที่จะติดตามออกมาแล้วเช่นกัน

ผลก็ดี เพียงแต่ความธรรมดาของร้านยาร้านนั้นทำให้เขาสัมผัสได้อย่างลึกซึ้ง

“ชายหนุ่มที่เช็ดพื้นคนนั้น ในสายเลือดแฝงไว้ด้วยพลังเผ่ามนุษย์เข้มข้น…ไม่ธรรมดา แล้วยังมีคนที่ท่องกลอนหน้าประตูนั่น ข้าสัมผัสได้ว่าบนร่างของเขามีการอวยพรบางอย่าง!”

“แล้วก็ยังมีแม่หนูเผ่าวิญญาณบรรพกาลคนนั้น ในตัวมีพลังชะตา!”

“ส่วนหญิงรับใช้ต้มน้ำคนนั้นทำให้ข้ารู้สึกถึงระดับเตรียมเทวะ คนคนนี้วิญญาณไม่ครบสมบูรณ์ คงจะเป็นผู้แข็งแกร่งระดับเตรียมสู่เทวะโบราณคนใดในอดีต หลังจากตายแล้วเนื่องจากการแทรกแซงจากคุณสมบัติสายเลือดสูงบางอย่าง วิญญาณแปลงมา”

ทุกอย่างล้วนทำให้เจ้าตำหนักสี่จิตใจสั่นไหว และสิ่งที่ยิ่งทำให้เขารู้สึกไม่ธรรมดาคือ ห้องข้างหลังห้องนั้น…

“ทั้งร้านยาเต็มไปด้วยพลังอำนาจแปลกประหลาดกลุ่มหนึ่ง น่าจะเกี่ยวข้องกับการลืมเลือน พลังบำเพ็ญหากไม่เพียงพอ ตัวอยู่ในร้านยา จะได้รับผลกระทบโดยไม่รู้ตัว”

“ผลกระทบเช่นนี้…แม้จะเป็นขั้นต้นแต่ก็จะส่งผลกระทบถึงพลังวิญญาณเทพ หากถึงระดับบริบูรณ์…ก็มากพอที่จะทำให้สรรพชีวิตในแผ่นดินใหญ่ทั้งแผ่นดินถูกเขาจัดการได้ ให้ฝึกบำเพ็ญแทน แล้วทำการเข้าแลกเปลี่ยนการรับรู้ ยากที่จะแยกซึ่งกันและกัน”

“ต้นกำเนิดพลังคือห้องข้างหลังห้องนั้น ซึ่งก็คือห้องของชายหนุ่มที่มารับข้าก่อนหน้านี้อยู่”

“เช่นนี้แล้ว คนเหล่านี้มีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดากับรัฐทายาท โดยเฉพาะชายหนุ่มที่ถูกเรียกว่านายน้อยคนนั้น…”

เจ้าตำหนักสี่คล้ายครุ่นคิด เดินไปไกลเรื่อยๆ

และในห้องข้างหลังตอนนี้ สวี่ชิงลืมตาช้าๆ การสัมผัสกันของปราณติงหนึ่งสามสองในร่างและนิ้วเทพเจ้าแยกออกจากกันในเสี้ยวขณะนี้

เพียงพริบตา ในดวงตาของเขาก็ฉายแววเหม่อลอย และคนทั้งหลายในร้านยาก็ต่างสะท้านเฮือก สีหน้าเหม่อลอยเช่นกัน จากนั้นก็สูญเสียความทรงจำก่อนหน้านี้

แต่ขั้นตอนนี้ไร้สุ้มเสียง เป็นธรรมชาติยิ่งนัก

สวี่ชิงขมวดคิ้ว หยิบแผ่นหยกบันทึกเงาเคลื่อนไหวที่อยู่ข้างหน้าขึ้นมา

ของชิ้นนี้เป็นเขาที่จัดวางไว้ไว้ตามวิธีที่ตนอยู่กรมราชทัณฑ์ในตอนนั้น ใช้เพื่อสังเกตการเปลี่ยนแปลงของตนในช่วงนี้ แต่เขาเปิดดูทั้งหมดแล้ว ก็ไม่พบอะไรที่ผิดปกติในนั้น

ตัวเองนับแต่ต้นจนจบล้วนนั่งสมาธิอยู่ที่นี่

“แต่ทำไมข้าถึงรู้สึกเหมือนว่าตัวเองลืมอะไรไป”

สวี่ชิงนึกๆ ขณะสะบัดมือบรรพจารย์สำนักวัชระก็ลอยออกมา และยังมีเจ้าเงาที่อยู่บนพื้นก็แผ่ระลอกคลื่น ส่งข้อมูลออกมาเช่นกัน

“ทุกอย่างเป็นปกติหรือ”

แผ่นหยกบันทึกภาพเงาเคลื่อนไหวเป็นแค่หนึ่งในนั้นเท่านั้น เจ้าเงากับบรรพจารย์สำนักวัชชระเป็นการเตรียมการอีกอย่างของสวี่ชิง

จากนั้นเขาก็ตรวจสอบรอบๆ และถุงเก็บของของตัวเอง ตามหาเบาะแสอื่นๆ จนทุกอย่างเป็นปกติ เขานึกๆ ดูก็ไปจากห้องข้างหลัง ไปยังโถงใหญ่

ในโถงใหญ่ทุกคนเป็นปกติ หลิงเอ๋อร์เห็นสวี่ชิงก็ยิ้มหวาน วิ่งมาหา

“พี่สวี่ชิง ท่านฝึกฝนเป็นอย่างไรบ้าง ข้าหลายวันนี้ก็ใกล้ทะลวงขั้นแล้ว”

สวี่ชิงลูบศีรษะหลิงเอ๋อร์ ยิ้มน้อยๆ จากนั้นก็เดินไปทางโต๊ะรับลูกค้า ยื่นมือแล้วคว้าเอาแผ่นหยกบันทึกภาพเงาเคลื่อนไหวที่ซ่อนอยู่บนคานลงมา

นี่เป็นแผ่นหยกที่เขาวางไว้เมื่อวาน

แม้หลายวันนี้ในด้านการสัมผัสรับรู้ทุกอย่างล้วนเป็นปกติ แต่สวี่ชิงมักจะรู้สึกแปลกๆ ดังนั้นจึงคิดอยากจะดูช่วงเวลาศึกษาค้นคว้าของตัวเองว่าข้างนอกมีอะไรที่แตกต่างออกไปหรือไม่

ตอนนี้ถือไว้ในมือ สวี่ชิงตรวจดูอย่างละเอียด พบว่าทุกอย่างเป็นปกติ

ภาพบันทึกในแผ่นหยกไม่มีปัญหาอะไรทั้งสิ้น

นี่ทำให้ในใจของเขาเกิดความสงสัยมากขึ้น

“ระหว่างการศึกษาค้นคว้า ไม่ว่าจะเป็นตัวเองหรือข้างนอกล้วนไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ หรือ เช่นนั้นหลายวันนี้ข้ากำลังศึกษาค้นคว้าอะไร”

สวี่ชิงดวงตาฉายแววครุ่นคิด

ไม่ไกลนัก รัฐทายาทถือถ้วยชา มองสวี่ชิงอย่างเงียบผาดหนึ่ง สบายใจยิ่งนัก

แผ่นหยก…ย่อมเป็นเขาที่ลบและปรับเนื้อหาข้างใน

“เจ้าด็กนี่ก็มีวันที่คิดไม่เข้าใจเหมือนกัน ฮ่าๆ เห็นแล้วสบายใจริงๆ”

“แต่ว่าการสัมผัสรับรู้ของเจ้าเด็กนี่ก็น่าตกใจจริงๆ เขาลืม เช่นนั้นสรรพสิ่งก็ลืมด้วยเช่นกัน เขตแดนจิตลืมเลือน ทรงพลังจริงๆ”

นึกถึงตรงนี้ รัฐทายาทก็ตัดสินใจว่าอีกสามสี่วัน หลังจากตัวเองสังเกตมากขึ้นอีกหน่อยก็จะไปชี้แนะสวี่ชิง ใช้เรื่องนี้มาสร้างอำนาจความน่าเกรงขามของตน

สวี่ชิงขมวดคิ้ว หลังจากเก็บแผ่นหยกลงไปก็มองไปทางรัฐทายาท

รัฐทายาทสีหน้าสงบนิ่ง ดวงตาล้ำลึก

สวี่ชิงคิดๆ หลังจากประสานหมัดก็เดินไปห้องข้างหลัง ในตอนที่ขัดสมาธินั่งลง เขาก็นึกย้อนอย่างละเอียด

แต่ไม่ว่าจะคิดอย่างไรทุกอย่างล้วนเป็นปกติ เพียงแต่เขาก็ยังคงมีความรู้สึกว่าตัวเองลืมอะไรไป ดังนั้นจึงเตรียมสำแดงวิชาไพ่ตาย

“หลายวันนี้ข้าลืมเรื่องอะไรหรือไม่ หรือเกิดปฏิกิริยาตอบสนองที่ผิดปกติอะไรหรือไม่”

สวี่ชิงแผ่จิตเทพของตัวเองไปในนิ้วเทพเจ้าติงหนึ่งสามสอง

นิ้วเทพเจ้าแกล้งหลับ ไม่สนใจเขา

แต่จากพฤติกรรมนี้ของมัน ก็ยังคงทำให้สวี่ชิงสัมผัสร่องรอยอะไรได้

“ไม่ปฏิเสธอย่างนั้นหรือ”

สวี่ชิงหรี่ตา เขายังมีไพ่ตายอีกใบหนึ่ง ดังนั้นจึงล้วงมือไปในถุงเก็บของ เอาขวดออกมาใบหนึ่ง ถือไว้ในมือเขย่าเบาๆ ทันใดนั้นในนั้นมีเสียงกระทบกันดังออกมา ยิ่งมีเสียงซุบซิบดังแว่วๆ มาจากในนั้น

สัมผัสถึงพลังชีวิตในนั้นว่ายังใช้ได้ สวี่ชิงเปิดขวดออก มือซ้ายดูดผ่านอากาศ ทันใดนั้นแสงกลุ่มหนึ่งก็พุ่งออกมา ขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็วต่อหน้าเขา จนกระทั่งมีขนาดครึ่งจั้ง สวี่ชิงถึงได้หยุด

นี่คือสมองที่เหมือนกับต้นไม้ก้อนหนึ่ง

เป็นต้นสมองที่สวี่ชิงไปจับมาจากในแดนมายา ก่อนเดินทางออกมาจากเขตปกครองผนึกสมุทร เพื่อที่จะกำจัดจิตฟุ้งซ่านของร่างมารฟ้า

บทที่ 662 ความลับที่บอกหลิงเอ๋อร์ไม่ได้ 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา