บทที่ 665 เทพชั้นสูงซิงเหยียน
ประตูบานนี้ เขาเคยเห็น!
ครั้งแรกที่เห็นคือที่แท่นประหารเทพเจ้าวันนั้น ที่ที่เทพชั้นสูงเชื่อมกับเส้นทางที่นายกองรวบรวมความหวังสรรพชีวิตบุกเบิกขึ้นมา ที่นั่นก็มีประตูบานนี้ปรากฏขึ้น!
เหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน เหมือนกระทั่งรอยขีดข่วน
ตรงหน้านี้คือครั้งที่สอง
และสภาพแวดล้อมกับกลิ่นอายคุ้นเคยในรอยแยกที่สวี่ชิงสัมผัสได้ ทำให้เขาตระหนักได้ทันทีว่าที่แห่งนี้…คือที่ที่นายกองไปวันนั้น
‘ที่ที่จิ้งจอกดินเหนียวตามหา คือที่นี่!’
สวี่ชิงจำได้แม่น ตอนนั้นพวกรัฐทายาทเคยกล่าวไว้ว่าตัวตนของประตู คือเทพชั้นสูงของเผ่านภาคิมหันต์!
คำเรียกเทพชั้นสูงนี้ เป็นตัวแทนของความน่ากลัวและความสูงส่ง
ชื่อหมู่คือเทพชั้นสูง เทพชั้นสูงจิ่วโยวก็เป็นเทพชั้นสูงเช่นกัน
แม้จะแข็งแกร่งไม่เท่ากัน แต่ต่อให้เทพชั้นสูงจะอ่อนแอเพียงใด ล้วนก็มีพลังอำนาจน่าตื่นตะลึง ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะจินตนาการได้
ดังนั้นระลอกคลื่นในใจสวี่ชิงจึงโหมซัดไม่หยุด
เขาจำได้ชัดเจนอย่างยิ่ง ตอนนั้นนายกองยืนให้คำสัญญาอยู่หน้าประตูไม้บานนี้กับเทพชั้นสูงด้านใน อีกฝ่ายส่งเส้นผมสีเทาเส้นหนึ่งออกมา
และสายลมสีเทาทั่วทั้งทะเลทราย ก็เกิดขึ้นเพราะเส้นผมเส้นนี้
‘ถ้าครอบคลุมไปถึงก่อนหน้านี้อีก เทพชั้นสูงในประตูบานนี้เคยมีการแลกเปลี่ยนกับนายกองในชาติที่แล้ว…ด้วยความช่วยเหลือขององค์ท่าน ศิษย์พี่ใหญ่ใช้วิชาระบำบวงสรวง ซ่อนร่างกายส่วนหนึ่งไว้
‘และทะเลทรายคราม ก็เป็นสถานที่ทำสัญญาระหว่างพวกเขา
‘นี่เป็นไพ่ตายหนึ่งที่ศิษย์พี่ใหญ่วางแผนมาอย่างยาวนานโดยพุ่งเป้าไปที่ชื่อหมู่!’
ภาพผุดขึ้นมาในสมองสวี่ชิงทีละฉาก จิตใจเขาโหมคลื่นลูกมหึมา ทุกอย่างเชื่อมโยงกันแล้ว
‘อีกทั้งในศาลเจ้าจิ้งจอกดินเหนียว ข้าเห็นสิ่งของที่หมื่นเผ่าใช้สักการะ เป็นดาวหกแฉกดวงหนึ่ง…เผ่านภาคิมหันต์ มีเทพชั้นสูงอยู่สามองค์ ตะวันจันทราดารา…’
สวี่ชิงพลันหันหน้ามองไปทางจิ้งจอกดินเหนียว
ตัวตนของอีกฝ่าย เขาเดาได้แล้วกว่าครึ่ง
จิ้งจอกดินเหนียวยิ้มหวานให้สวี่ชิง ระหว่างคิ้วมีเสน่ห์เย้ายวน ร่างอรชรเยื้องย่างทิ้งสะโพกไปทางรอยแยก กระทั่งเดินออกจากความว่างเปล่า เดินเข้าไปในรอยแยก จนมาถึงหน้าประตู
“พี่หญิง ในที่สุดข้าก็หาตราประทับของท่านเจอ”
จิ้งจอกดินเหนียวน้ำเสียงยั่วยวน เมื่อผ่านเข้ามาในหูก็ทำให้จิตใจสั่นไหวไปตามสัญชาตญาณ กลายเป็นคลื่นวน ประหนึ่งดูดกลืนความรู้สึกนึกคิดทั้งหมดเข้าไปได้ ลุ่มหลงมัวเมาอยู่ในนั้นจนไม่อยากตื่นขึ้นมา
ประตูใหญ่เป็นปกติ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด และไม่ส่งเสียงครืนครันรุนแรงเหมือนตอนที่นายกองมาวันนั้น
ทว่าความชั่วร้ายเย็นยะเยือกรอบด้านกลับยิ่งชัดเจน ไอพลังประหลาดที่นี่ก็เข้มข้นขึ้น ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนเป็นเลือนราง ปราณหมอกเบาบางอบอวลไปทั้งแปดทิศ
เพียงแต่สำหรับผู้บำเพ็ญแล้ว อาจจะกลายเป็นอุปสรรคที่ใหญ่มาก แต่สำหรับจิ้งจอกดินเหนียว เห็นได้ชัดว่าไม่ได้รับผลกระทบมากนัก
นางก้าวเดินไปด้วยรอยยิ้ม ตรงไปที่ประตูไม้
“ท่าทาง พี่หญิงอยากจะมาเยือนที่นี่ในอนาคต จึงทิ้งประตูจิตวิญญาณไว้ น่าสนใจ
“ครั้งนั้นข้าก็สังเกตเห็นว่าพี่หญิงมีพิรุธ ทำตัวลึกลับ เหมือนจะแอบกินอะไรคนเดียว ดังนั้นหลายปีมานี้น้องสาวจึงขบคิดมาตลอดว่าท่านอยากกินอะไร”
จิ้งจอกดินเหนียวเลียริมฝีปาก ดวงตาเปล่งแสงชมพูออกมา ยืนอยู่หน้าประตูใหญ่
แทบจะพริบตาที่นางหยุด เลือดสดมากมายก็ไหลออกมาตามร่องประตูไม้ กระจายไปทั่วพื้นอย่างรวดเร็ว
สวี่ชิงก็พุ่งจากความว่างเปล่าเข้าประชิดรอยแยกในตอนนี้ แต่เขาไม่ได้เลือกจะก้าวเข้าไป แต่ยืนอยู่ที่ขอบรอยแยก คอยสังเกตอย่างละเอียด
ส่วนจิ้งจอกดินเหนียว นางไม่สนใจเลือดสดบนพื้น เสียงยังคงนุ่มนวล
“พี่หญิง หลายปีนี้น้องสาวลำบากมามาก กระทั่งข้าเจอไตชิ้นหนึ่ง ข้าได้กลิ่นกลิ่นอายของพี่หญิงจากมัน แม้จะเบาบางนัก แต่จะปิดบังข้าได้อย่างไร
“ตอนนั้น ข้าก็เดาเป้าหมายของท่านได้เลาๆ แล้ว แต่พี่หญิงเพื่อจะกินคนเดียว จึงซ่อนไว้เสียมิดชิด กระทั่งน้องสาวยังหลีกเลี่ยง ทำให้น้องสาวหาอย่างยากลำบาก
“แต่เรื่องโลกใบนี้ ก็น่าสนใจเสียจริง”
จิ้งจอกดินเหนียวยิ้ม หันหน้ามองสวี่ชิง ร่างกายสั่นไหวระหว่างที่หัวเราะเบาๆ ผ้าโปร่งไหลร่วงลงมาเล็กน้อย ความน่าหลงใหลเย้ายวนใจรุนแรงอย่างยิ่งในยามนี้
“ข้าสัมผัสผลกรรมจากร่างน้องชายตัวแสบผู้นี้ได้ ตอนนั้นความเป็นเทพบอกกับข้าว่า อีกไม่นานเขาจะได้พบกับพี่หญิง
“และจะกลายเป็นผู้ชี้นำของข้า ทำให้ข้าหาพี่หญิงพบ
“ท่านดูสิ นี่คือวาสนาทั้งหมด น้องไม่ได้ปิดบังพี่หญิงเลยแม้แต่น้อย
“และตอนนี้ ข้าก็มั่นใจได้แล้วว่าพี่หญิงอยากจะกินอะไร”
เมื่อจิ้งจอกดินเหนียวกล่าวถึงตรงนี้ ด้านในประตูไม้ก็ส่งเสียงครืนครันออกมาทันที ราวกับมีคนกำลังระบายโทสะใส่ประตูใหญ่ ทำให้บริเวณนี้สั่นไหวอย่างรุนแรงในทันใด
เลือดสดบนพื้นลอยขึ้นมาอย่างรวดเร็ว กลายเป็นจันทร์กระจ่างดวงหนึ่ง ลอยสูงเด่น แสงจันทร์ส่องสว่างไปทั้งแปดทิศ กลายเป็นอำนาจเทพ ส่งผลกระทบกับทุกสิ่ง
สวี่ชิงต่อให้อยู่ที่ขอบรอยแยก ยังไม่ได้เข้าไป แต่ก็ยังสัมผัสได้ถึงใจที่สั่นสะท้าน เลือดเนื้อทั่วร่างกำลังสั่นเทา
‘ไร้ประโยชน์!’ สายตาสวี่ชิงสงบนิ่ง ตำหนินิ้วเทพเจ้าในใจ
ถึงอย่างไรร่างกายนี้ก็เป็นนิ้วเทพเจ้าที่สร้างขึ้น และอีกฝ่ายก็เป็นเทพเจ้า แต่กลับไร้ประโยชน์ถึงเพียงนี้
นิ้วเทพเจ้าโมโห แต่ก็ไม่กล้าตอบกลับ ยังคงแกล้งตายต่อไป
สวี่ชิงไม่สนใจ ต่อต้านกลิ่นอายที่มาจากเบื้องหน้าสุดกำลัง พลังพระจันทร์สีม่วงในร่างกายก็แผ่ระลอกคลื่น
โดยเฉพาะอำนาจยิ่งแผ่ขยายออกมา ปกคลุมทั่วทั้งร่างสวี่ชิงเพื่อแบ่งรับให้เขา
แต่ต่อให้เป็นเช่นนี้ สวี่ชิงก็ยังแบกรับไม่ไหว

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา