เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 682

บทที่ 682 เจตจำนงจากคนทั้งหลายนำวิญญาณผู้ดับสูญ

แผ่นดินใหญ่เซ่นจันทราในห้วงเวลาอันเนิ่นนานมา สำนัก เผ่าที่แข็งแกร่งช่วงหนึ่งในอดีตได้สร้างดวงอาทิตย์จำลองทั้งสิ้นแปดดวง!

รวมกับดวงที่เก่าแก่ที่สุดดวงนั้น ดวงอาทิตย์เก้าดวงนี้พูดได้ว่าแสงเจิดจ้าพร่างพรายที่สุด

ไม่เคยมีใครสามารถฟื้นฟูดวงอาทิตย์ทั้งเก้าพร้อมกันและสำแดงมันออกมา พวกมันทยอยขึ้นฟ้าในยุคต่างๆ ทั้งยังแตกดับไปทีละดวงด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันไป

แต่วันนี้ ดวงอาทิตย์ในอดีตและปัจจุบันต่างสาดส่องประกาย

ไม่ว่าดวงใดล้วนเปล่งแสงเจิดจ้า หลังจากรวมอยู่ด้วยกันก็ส่องฟ้าดินสว่างไสว

พลังของพวกมันน่าตื่นตะลึง ภายใต้การสาดประกายแสง แสงสีแดงบนท้องฟ้าถูกปกคลุม ค่ายกลบนผืนดินถูกสั่นคลอน และสิ่งที่ทำให้คุณสมบัติพลังของมันเปลี่ยนไป คือเส้นผมที่ร้อยเรียงพวกมันเอาไว้

เส้นผมของเทพชั้นสูงเยวี่ยเหยียนแฝงไว้ด้วยพลังเทพเจ้าเข้มข้น ภายใต้พลังจากองค์ท่าน ดวงอาทิตย์ทั้งเก้าได้รับการเพิ่มพลังอย่างแรงกล้า กลายเป็นดวงอาทิตย์เทพเจ้า

แสงที่ปล่อยออกมากลายเป็นแสงเทพ เกิดเป็นไฟ เกิดเป็นเปลวไฟเทวะ

ทะเลแสงแผ่ระลอกคลื่น เปลวเพลิงปะทุพวยพุ่ง เพียงพริบตาม่านฟ้าที่เป็นแสงสีแดงเพราะเกิดขึ้นจาก-ดาวพระจันทร์สีชาดที่มาเยือน เพียงพริบตาก็ถูกกลบ ค่อยๆ หายไปจากพื้นที่แห่งนี้ช้าๆ

มองไกลๆ แม้ท้องฟ้าของแผ่นดินใหญ่เซ่นจันทราทั้งผืนจะยังเป็นสีแดง แต่ทางนี้กลับมีพื้นที่กว้างใหญ่แห่งหนึ่ง เหมือนม่านฟ้าสีแดงเกิดรูโหว่ขึ้น!

น่าหวาดหวั่นพรั่นพรึงนัก

และทะเลสาบสีเลือดบนพื้น จากการที่ในทะเลแสงเปลี่ยนสีไป ก็ไม่เป็นสีแดงอีก เปลี่ยนมาหม่นลง

จะเห็นโครงกระดูกมากมายลอยขึ้นมาจากในนั้น เหมือนว่านี่คือหน้าตาที่แท้จริงของทะเลสาบผืนนี้

ส่วนเกาะกลางทะเลสาบ ค่ายกลเทพสีแดงเข้มในนั้นยังคงยืนหยัดต่อไป แต่จากการเงยหน้าขึ้นอย่างหยิ่งทะนงของนายกอง เพียงสะบัดมือ

ทันใดนั้นวงกลมดวงอาทิตย์ทั้งเก้าที่หมุนวนอยู่บนท้องฟ้า ก็กดทับลงมาบนค่ายกลเทพสีแดงเข้มบนเกาะเต็มแรง

แข็งแกร่งทรงพลัง ฟ้าถล่มดินทลาย น้ำในแม่น้ำสาดซัด เกาะสะเทือนคำรามลั่น

ทั้งยังมีเสียงเปรี๊ยะๆ ดังก้องไปทั่ว

ค่ายกลพระจันทร์สีชาดสาขาหลักเกิดสัญญาณแตกสลายอย่างเห็นได้ชัด ไม่เพียงแต่เปลี่ยนมาจางลง ยิ่งมีรอยร้าวไร้ระเบียบเป็นทางๆ ปรากฏขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

ในตอนนี้เอง ดวงตารัฐทายาทเป็นประกาย ขณะประสานปางมือตะปูเจ้าเหนือหัวก็พุ่งไปยังค่ายกลเทพอีกครั้งด้วยพลังถล่มภูเขาจมสมุทร ทรงพลังไร้เทียมทาน

เสียงเปรี๊ยะดังขึ้น ค่ายกลเทพแตกออกมาชิ้นหนึ่ง!

องค์หญิงหมิงเหมย องค์หญิงห้า และน้องแปดก็ต่างพากันลงมือในเสี้ยวขณะนี้เอง เสียงเปรี๊ยะๆ ดังอย่างต่อเนื่อง ค่ายกลเทพแตกอีกครั้ง

น้องเก้าทางนั้นดวงตาฉายประกายวาววาบ ยกมือคว้าไปกลางอากาศ มิติพลังทลายเป็นแผ่น หลอมรวมมาข้างหน้าเขา ประกอบเป็นกระบี่เล่มหนึ่ง แทงไปยังค่ายกลเทพสีแดงเข้มเต็มแรง

ค่ายกลเทพพระจันทร์สีชาดสาขาหลัก เดิมอยู่ภายใต้วงกลมจากดวงอาทิตย์ทั้งเก้าก็ร่อแร่เต็มที ทั้งยังมีการลงมือโจมตีจากพวกรัฐทายาท แตกไม่หยุด ตอนนี้รับกระบี่จากน้องเก้าไปอีกที ก็มาถึงขีดจำกัดสูงสุดแล้ว

เสียงระเบิดดังกึกก้องสนั่นหวั่นไหว

ค่ายกลเทพสีแดงเข้มแตกเป็นเสี่ยงๆ แหลกสลายทันที เผยให้เห็นผู้บำเพ็ญพระจันทร์สีชาดที่สีหน้าเคร่งเครียดกลุ่มใหญ่ในนั้น

ในบรรดาพวกเขามีจำนวนไม่น้อยสีหน้าเปลี่ยนไป ในใจเกิดระลอกคลื่น เพราะค่ายกลเทพแตกสลายเร็วเกินไป ทำให้ผู้บำเพ็ญจำนวนมากตกใจ

“ประหลาดใจหรือไม่ ฮ่าๆ” นายกองเห็นภาพนี้ก็หัวเราออกมาอย่างได้ใจ

“นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ข้าเผชิญหน้ากับค่ายกลเทพของพวกเจ้า ตอนนั้นข้ามุดเข้าไป ก็ขบคิดเหมือนกันว่าจะทำลายค่ายกลนี้อย่างไร

“ดังนั้นครั้งนี้ข้าจึงเตรียมตัวมาพร้อมมากๆ!”

ในตอนที่นายกองหัวเราะออกมา พวกรัฐทายาทไม่สนใจ พุ่งตัวออกไปในทันที ตรงไปที่เกาะ น้องเก้าตามอยู่ข้างหลังองค์หญิงหมิงเหมยอยู่ข้างๆ ท่านย่าห้าและน้องแปดทะยานออกไปเช่นกัน

พวกเขาทั้งห้าแปรเปลี่ยนเป็นสายรุ้งยาวห้าสาย พุ่งออกไปราวสายฟ้า เพียงพริบตาก็เข้าไปในพระจันทร์สีชาดสาขาหลัก ตลอดทางไม่ได้หยุดเลย เข้าประชิดคราบร่างก่อนเป็นเทพของชื่อหมู่ที่ส่งเสียงหัวใจเต้นตุบๆ ไม่หยุด

พวกเขาไม่มีเวลาควบคุมผู้บำเพ็ญพระจันทร์สีชาดที่อยู่รอบๆ พวกนั้น พลังเทพเจ้าที่มาจากในคราบร่างก่อนเป็นเทพของชื่อหมู่ ทำให้พวกรัฐทายาทรู้ดีว่า ทางน้องสี่ทางนั้น…อยู่ในช่วงสำคัญในการสำเร็จเทพ

ตอนนี้เวลากระชั้นชิด ต้องรีบไปขัดขวาง ไม่เช่นนั้น ทันทีที่พิธีสำเร็จเทพของน้องสี่เสร็จสิ้น เช่นนั้นหากคิดอยากจะสยบกำราบเขา ความยากจะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล

ในพริบตาที่ประชิด มือทั้งสองขององค์หญิงหมิงเหมยประสานปางมือสะบัดไปข้างนอก แม่น้ำกาลเวลาปรากฏขึ้นทันที หอบม้วนคลื่นยักษ์มา ปกคลุมพวกเขาไว้ในนั้น ซัดไปที่คราบร่างก่อนเป็นเทพของชื่อหมู่

วิธีธรรมดายากจะเข้าไปในคราบร่างก่อนเป็นเทพของชื่อหมู่ มีเพียงใช้วิถีแห่งกาลเวลาแบบนี้ ย่างก้าวเข้าไปจากอดีต!

เพียงพริบตา เงาร่างของพวกรัฐทายาทก็ไปตามแม่น้ำกาลเวลา เข้าไปในคราบร่างก่อนเป็นเทพของชื่อหมู่พร้อมกัน หายลับไป

ส่วนการขยับของคราบร่างก่อนเป็นเทพของชื่อหมู่ก็หยุดลงทันที จากนั้นในนั้นก็มีเสียงเย็นเยือกน่าขนลุกแสบแก้วหูดังมา ยิ่งมีเสียงสะเทือนเลื่อนลั่น ราวสายฟ้าฟาดลงมาอย่างต่อเนื่อง

ทุกอย่างรวดเร็วยิ่งนัก ผู้บำเพ็ญพระจันทร์สีชาดต่างหน้าเปลี่ยนสี ภารกิจที่พวกเขาได้รับคือขัดขวางผู้มาเยือนทุกคนที่ย่างก้าวเข้ามาในคราบร่างก่อนเป็นเทพของชื่อหมู่เอาไว้ จวบจนบุตรเทวะเดินออกมาจากในนั้น

ตอนนี้เห็นว่าขัดขวางไม่ได้ ผู้บำเพ็ญพระจันทร์สีชาดพวกนี้ลุกขึ้นทันที ส่วนทางจักพรรดิตำหนักทางนั้นขมวดคิ้ว กำลังจะสั่งให้ผู้บำเพ็ญพระจันทร์สีชาดสำแดงวิชาเทพ ช่วยเหลือบุตรเทวะ

ตำหนักขบถจันทร์ที่ลอยอยู่นอกเกาะ ตอนนี้เร่งความเร็วขึ้นมา พุ่งมาทางเกาะทางนี้ ลอยอย่างรวดเร็ว ปรากฏอยู่บนท้องฟ้าเหนือเกาะ ปกคลุมอยู่เหนือคราบร่างก่อนเป็นเทพของชื่อหมู่

ระลอกคลื่นผิวกระจกก่อเป็นพลังกดดัน ในขณะที่ปิดล้อมคราบร่างก่อนเป็นเทพของชื่อหมู่ รูปสลักแต่ละรูปก็เดินออกมาจากศาลเจ้า ประดุจเทพมาร ก้าวออกมาจากกระจก มาพร้อมด้วยจิตสังหาร มาพร้อมด้วยความมุ่งมั่น พุ่งไปหาผู้บำเพ็ญพระจันทร์สีชาด

มองไกลๆ การทยอยพุ่งออกมาของรูปสลักหลายหมื่นทำให้มิติรอบๆ แตกร้าว กฎเกณฑ์ต่างๆ กระทบกันไม่หยุด ลมเมฆหอบทะลัก สงครามน่าครั่นคร้าม การสังหารเกิดขึ้นทันที

เพียงแต่เทียบกับผู้บำเพ็ญพระจันทร์สีชาดแล้ว จำนวนของผู้บำเพ็ญขบถจันทร์น้อยกว่ามากนัก ที่นี่คือพระจันทร์สีชาดสาขาหลัก ไม่เพียงแต่ผู้บำเพ็ญพระจันทร์สีชาดมีจำนวนเยอะพลังมหาศาล ยังมีขั้วอำนาจที่สวามิภักดิ์อีกไม่น้อย

อย่างสำนักบุปผาหยินหยางก็อยู่ในนี้ด้วย

บทที่ 682 เจตจำนงจากคนทั้งหลายนำวิญญาณผู้ดับสูญ 1

บทที่ 682 เจตจำนงจากคนทั้งหลายนำวิญญาณผู้ดับสูญ 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา