เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 82

บทที่ 82 จากร้อยเสียงเป็นภูตผี

จ่ายก่อนช่วยทีหลัง เรื่องเช่นนี้สวี่ชิงทำไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไรในฐานที่มั่นคนเก็บกวาด แม้ครั้งนี้จะเกินสมควร แต่เขาไม่คิดว่าตัวเองทำผิด ช่วยเหลือไม่ใช่หน้าที่ ย่อมต้องจ่ายอยู่แล้ว กริยาท่าทางไม่ดีเช่นนี้เพิ่มราคาก็ถูกต้องแล้ว

ตอนนี้เขาบอกออกไป ศิษย์พี่ติงคล้ายครุ่นคิด ส่วนเจ้าจงเหิงกลับสีหน้าอึมครึม อยากจะพูดอะไรแต่กลับไม่ได้เอ่ยออกไป

หากเป็นเมื่อก่อน เขาจะต้องถากถางเสียดสีแน่ แต่ตอนนี้เขากลับลังเลเล็กน้อย

สวี่ชิงกวาดตามองคนพวกนี้ ดูออกว่าพวกเขาเหมือนไม่อยากจ่ายเงิน ก็ไม่พูดอะไรอีก ควบคุมเรือเวทจะจากไป แต่ในตอนนี้ ทางศิษย์พี่ติงก็มองใบหน้าด้านข้างสวี่ชิงแล้วพลันเอ่ยขึ้น

“ไม่มีปัญหา!”

นางพูดพลางสะบัดมือเอาเรือเวทของตัวเองออกมา มันกระแทกไปที่ผิวน้ำ ร่างกระโดดลงไปบนนั้น ควบคุมเข้าใกล้สวี่ชิง

เจ้าจงเหิงอึ้งตะลึง ค่อนข้างร้อนใจขึ้นมาทันที

“ศิษย์พี่ ท่าน…”

ศิษย์พี่ติงไม่แม้แต่จะหันกลับไปมองเจ้าจงเหิงแม้แต่น้อย เรือเวทของนางเหมือนใบหลิวใบหนึ่ง ในขณะเดียวกับที่สวยงามก็เต็มไปด้วยความคล่องแคล่วปราดเปรียว ตอนนี้เถาวัลย์รอบๆ ก็พันรัดทันทีจากที่เข้าใกล้มา อันตรายอยู่ต่อหน้าแล้ว

สวี่ชิงสะบัดมือ ลูกกลอนดำเม็ดหนึ่งก็ตกไปข้างหน้าเรือของศิษย์พี่ติง เถาวัลย์หลบหลีกไปในทันทีหลังจากที่ลูกกลอนดำร่วงลงมา ทำให้เรือของนางผ่านมาได้อย่างราบรื่น หลังจากที่แล่นมาทางสวี่ชิงตรงนี้แล้ว นางก็รีบเก็บเรือเวท กระโดดขึ้นมาบนเรือของเขา

เพราะมีการป้องกันอยู่ ดังนั้นทั้งตัวนางจึงยืนอยู่บนเกราะป้องกันได้ไม่มั่นคงนัก

สวี่ชิงขมวดคิ้ว มองไปทางศิษย์พี่ติง

“ขอบคุณศิษย์น้องที่ช่วย ข้าชื่อติงเสวี่ย ข้าน่าจะอายุมากกว่าเจ้า เจ้าเรียกข้าว่าศิษย์พี่ก็ได้ เรือเวทของข้าไม่เหมาะเดินเรือในพื้นที่นี้ ข้าให้หินวิญญาณเจ้าอีกยี่สิบก้อน ให้ข้าอยู่กับเจ้าในเขตพื้นที่นี้ชั่วระยะหนึ่งได้หรือไม่”

ศิษย์พี่ติงเดาลักษณะนิสัยของสวี่ชิงได้เลาๆ แล้ว ยิ้มหวานให้แล้วหยิบตั๋ววิญญาณของยอดเขาที่หกมูลค่าเท่ากับหินวิญญาณสี่สิบก้อนใบหนึ่งออกมา ส่งสัญญาณให้สวี่ชิงที่นอกเกราะป้องกัน

สวี่ชิงกวาดตามองตั๋ววิญญาณแวบหนึ่ง แล้วสำรวจพลังบำเพ็ญของศิษย์พี่ติงคนนี้ กวาดตามองคอของนาง แล้วจึงสลายม่านพลังเป็นร่องทางหนึ่งเปิดเกราะป้องกันให้ศิษย์พี่ติงลอยลงสู่กระดานเรือ จากนั้นก็ยกมือคว้าไปกลางอากาศ เอาตั๋ววิญญาณแผ่นนั้นมาตรวจดู

แน่ใจว่าเป็นของจริง เขาก็ไม่พูดอะไรอีก เก็บตั๋ววิญญาณแผ่นนี้ลงไปในกระเป๋าเสื้อ ควบคุมให้เรือเวทเริ่มเคลื่อนที่ เขาไม่กลัวอีกฝ่ายมีใจคิดไม่ซื่อกับเรือเวทของตัวเอง ในชั่วพริบตาที่อีกฝ่ายมาถึงก็โดนพิษของเขาแล้ว

เพียงแต่พิษชนิดนี้ ต้องใช้พิษอีกชนิดหนึ่งของเขาเข้าผสมด้วยจึงจะออกฤทธิ์

ตอนนี้เป็นเวลาพลบค่ำ สวี่ชิงที่อยู่ในเรือใต้แสงอาทิตย์ยามเย็นร่างเหยียดตรง หล่อเหลาเป็นอย่างยิ่ง ศิษย์พี่ติงที่อยู่ข้างๆ รูปร่างอรชรอ้อนแอ้น งดงามหยาดเยิ้ม เรือนผมงามปลิวพลิ้วในสายลมทะเล คิ้วตาเต็มไปด้วยเสน่ห์น่าหลงใหล ท่วงท่ากริยาเช่นนี้ ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีให้กับเจ้าจงเหิงเลย

และการพัดมาของลมทะเลก็นำเสียงอ่อนหวานของศิษย์พี่ติงที่อยู่บนเรือดังลอยมา

“ศิษย์น้อง เจ้าชื่ออะไรหรือ

“ศิษย์น้อง เรือเวทลำนี้ของเจ้าพิเศษมากๆ ข้าไม่เคยเห็นมาก่อนเลย

“ศิษย์น้อง เจ้าอยู่สังกัดใดหรือ”

เจ้าจงเหิงเห็นภาพนี้ก็ร้อนใจทันที กว่าตัวเองนัดศิษย์พี่ติงออกมาได้ก็ลำบากลำบนเหลือเกิน แต่นางกลับไปขึ้นเรือคนอื่น นี่ทำให้เขากลัดกลุ้มกระวนกระวายนัก ตอนนี้กำลังกัดฟันกรอดๆ หยิบเอาของวิเศษอักขระสีแดงแผ่นหนึ่งออกมา

นี่เป็นของวิเศษอักขระ

เห็นสวี่ชิงและศิษย์พี่ติงใกล้จะจากไปแล้วเต็มที เจ้าจงเหิงสะกดความเจ็บปวดใจ ซัดของวิเศษอักขระลงสู่ผิวน้ำ ของวิเศษอักขระชิ้นนี้ลุกไหม้ทันที เกิดเป็นคลื่นน่าหวาดกลัวดังลอยไปทั่วทุกสารทิศ

เถาวัลย์รอบๆ เรือวิหคหงส์ถูกปกคลุมฉับพลัน ส่วนมากขาดสะบั้นเป็นส่วนๆ ในทันใด ส่วนที่เหลือก็หดไปอย่างรวดเร็ว

ฉวยจังหวะที่มันหดไป เจ้าจงเหิงตะโกนเสียงดัง

“ศิษย์พี่หญิงรอข้าด้วย”

พูดพลางบังคับเรือวิหคหงส์อย่างเต็มกำลัง ผลาญพลังอย่าไม่คิดเสียดายทำให้ความเร็วของเรือปะทุขึ้น พุ่งออกไปทันที คนสนิทติดตามที่อยู่ข้างหลังพวกนั้นต่างรีบร้องเสียงดังขอความช่วยเหลือ

“พวกเจ้ารออยู่ตรงนี้ ข้าบอกท่านปู่ข้าแล้ว อีกไม่นานสำนักก็จะมาช่วยพวกเจ้า” เจ้าจงเหิงไม่มีเวลาไปสนใจพวกเขา ทะยานไปอย่างรวดเร็ว

แต่เถาวัลย์ในพื้นที่นี้มีเยอะมากเหลือเกิน เรือของเขาจึงถูกพันรัดอย่างรวดเร็วอีกครั้ง ด้วยความรีบร้อน เจ้าจงเหิงจึงฝืนสะกดความเจ็บปวดใจ ใช้ของวิเศษอักขระโจมตีต่อไป

โจมตีไปด้วยไล่ตามไปด้วยมาตลอดทาง เถาวัลย์ถูกระเบิด เขาจึงค่อยๆ ดึงระยะห่างเข้ามาใกล้สวี่ชิงได้

และเสียงตูมตามข้างหลังในที่สุดก็ทำให้ความสนใจของศิษย์พี่ติงเบนไปจากตัวสวี่ชิง นางขมวดคิ้วงามมองไปข้างหลัง เพียงพริบตาก็เห็นเรือวิหคหงส์และเจ้าจงเหิง

มองการระเบิดโจมตีจากของวิเศษอักขระของอีกฝ่าย ดวงตาเรียวของศิษย์พี่ติงก็ถลึงจ้อง แค่นเสียงหัวเราะขึ้นมา

“เจ้าจงเหิง เดิมทีข้าก็ไม่ได้คิดจะให้เจ้าตามมาด้วยอยู่แล้ว เป็นเจ้าที่กระตือรือร้นอยากจะพาข้าไปส่งที่หมู่เกาะปะการังตะวันตก ข้าบอกแล้วว่าไม่มาเส้นทางนี้ แต่เจ้ากลับรั้นอวดเก่ง ถูกขังอยู่ที่นี่ก็ช่างเถอะ แม้ข้าจะใจร้อนอยากจะเดินทางต่อ เข้าใจความอับจนปัญญาของเจ้า แต่เจ้ามีวิธีทำให้หลุดจากวิกฤต ก่อนนี้กลับไม่ใช้!”

เจ้าจงเหิงขมขื่น ตอนนี้ท่วงท่าอย่างตอนที่เพิ่งออกทะเลหายไปหมดสิ้นตั้งนานแล้ว รีบร้อนอธิบาย

“ศิษย์พี่หญิง ท่านเข้าใจข้าผิดแล้ว นี่…นี่เป็นของวิเศษที่ท่านปู่ให้ข้าไว้รักษาชีวิต เหลือไม่กี่ครั้งแล้ว”

ศิษย์พี่ติงแค่นเสียงขึ้นจมูก สะบัดหน้าไปไม่สนใจ

ในใจเจ้าจงเหิงยิ่งกระวนกระวาย ไม่กล้ากล่าวโทษศิษย์พี่ติง ดังนั้นมองเรือเวทของสวี่ชิงก็ยิ่งรู้สึกขัดตา

แต่อีกฝ่ายแข็งแกร่งอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นเขาจึงจำต้องสะกดความโมโหลงไป ใช้ของวิเศษอักขระอีกสองสามครั้ง จวบจนมันแตกสลายไปแล้ว ในที่สุดเขาก็หลุดพ้นวิกฤต ไล่ตามเรือเวทของสวี่ชิงมาทัน

“ศิษย์พี่ ท่านกลับมาเถอะ ข้าสำนึกแล้ว…”

ศิษย์พี่ติงเหมือนไม่ได้ยิน มองใบหน้าด้านข้างของสวี่ชิงด้วยรอยยิ้มหวานหยด เอ่ยเสียงเบา

“ศิษย์น้อง เจ้าหิวหรือไม่ ที่ข้ามีขนมอยู่บ้าง” พูดแล้วนางก็หยิบกล่องใบเล็กออกมาจากถุงเก็บของ

สวี่ชิงใบหน้าไร้อารมณ์ ส่ายหน้า มองไปทางศิษย์พี่ติง

“ศิษย์พี่ติง ที่นี่พ้นจากเขตเถาวัลย์แล้ว โปรดลงจากเรือด้วย”

ได้ยินคำพูดของสวี่ชิง เจ้าจงเหิงกระดี๊กระด๊าทันที แอบพูดในใจว่าเจ้านี่นับว่ารู้งานดี ดังนั้นแล้วจึงมองไปทางศิษย์พี่ติงอย่างวาดหวัง

“ศิษย์น้อง เจ้าจะไปทางใดหรือ ไม่แน่ว่าพวกเราอาจจะไปทางเดียวกันก็ได้” ศิษย์พี่ติงพูดด้วยรอยยิ้มงดงามหวานหยดย้อย

เจ้าจงเหิงสีหน้าย่ำแย่ไปในทันที

สวี่ชิงขมวดคิ้วเล็กน้อย

เห็นสวี่ชิงขมวดคิ้ว ดวงตาใสกระจ่างของศิษย์พี่ติงก็ไหววูบเล็กน้อย หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่งก็พูดลองดู

“ศิษย์น้อง สถานที่ที่ข้าจะไปคือหมู่เกาะปะการังตะวันตก ห่างจากที่นี่ไปอีกแค่ห้าวันเท่านั้น หากเจ้าไม่ได้ไปทางเดียวกันข้าจะลงเรือเดี๋ยวนี้ แต่หากไปทางเดียวกัน ข้ายินดีจ่ายเพิ่มอีกสองร้อยหินวิญญาณเป็นค่าเดินทาง ศิษย์น้องว่าดีหรือไม่”

ศิษย์พี่ติงพูดพลางหยิบตั๋ววิญญาณสองใบออกมา ดวงตางดงามจ้องสวี่ชิง

สวี่ชิงมองตั๋ววิญญาณ จิตใจหวั่นไหวมาก

เขาคิดไม่ถึงว่าหลังจากออกทะเลแล้วจะมีวันที่หาหินวิญญาณได้ง่ายๆ ขนาดนี้ด้วย

เขาจะไปเกาะกิ้งก่าทะเลที่ไกลที่สุดของหมู่เกาะปะการังตะวันตกย่อมไปทางเดียวกันอยู่แล้ว หากอีกฝ่ายอยากติดเรือไปด้วยโดยไม่จ่ายเงิน เขาย่อมไม่ยอม แต่หากจ่ายเพิ่มสองร้อยหินวิญญาณ…

บทที่ 82 จากร้อยเสียงเป็นภูตผี 1

บทที่ 82 จากร้อยเสียงเป็นภูตผี 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา