บทที่ 840 ศึกชิงอันดับหนึ่ง
ท้องฟ้าสงบ ผืนแผ่นดินเงียบนิ่ง
เมฆหมอกบนม่านฟ้าหลังจากผ่านการต่อสู้ระหว่างสวี่ชิงและรัฐทายาทหมิงหนานอ๋อง พรุนเป็นรังผึ้งแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ เหนือศีรษะของพวกเขา
แสงดาวข้างนอกสาดทอเข้ามาอย่างทรงพลัง ตามรอยแยกที่แตกร้าว เหมือนคลุมผ้าโปร่งบางของท้องฟ้าดาราให้กับพื้นที่แห่งนี้ เกิดเป็นความลึกลับ
หลุมลึกบนหินหนืดผืนแผ่นดินและบริเวณที่ยุบลงไปเป็นพื้นที่กว้างขวางก็ฟื้นฟูขึ้นมาอย่างช้าๆ หลังจากที่ราบเรียบเสมอกันแล้ว อุณหภูมิสูงก็เริ่มพวยพุ่ง
จากการสิ้นสุดของการต่อสู้ครั้งนี้ ทุกอย่างเปลี่ยนมาสุขสงบ
มีเพียงเสียงของนายกองที่ดังสะท้อนอยู่รางๆ
เขาพูดเป็นพิธีการบางอย่างอย่างหาได้ยาก
ตอนนี้พูดจบ นายกองยืนอยู่ตรงนั้น มือไพล่หลัง เงยหน้าทอดสายตามองไปยังที่ไกล
ลมพัดมาจากยอดเมฆ สะบัดผมและเสื้อของนายกองปลิวพริ้ว มีสาม สี่เส้นนั้นที่ลอยอยู่ข้างหน้าเขา ผ่านจากช่องว่างระหว่างเส้นผม จะเห็นว่าในดวงตาของนายกองแฝงไว้ด้วยรอยย้อนระลึกความหลังและความสะท้อนใจเล็กน้อย
เหมือนว่ามีประสบการณ์พิเศษที่คนทั่วไปไม่เคยพบเจอ ทำให้เขาแสดงออกมาจากความรู้สึก ดังนั้นเขาในเสี้ยวขณะนี้ เหมือนกับผู้บัญชาการทหารเดียวดายคนหนึ่งยืนอยู่ในใจกลางของสนามศึก
ภาพนี้ปรากฏในสายตาของคนทั้งหลายเผ่ามนุษย์ ต่างรู้สึกบางอย่างในใจไปด้วยเช่นกัน
ในนั้นมีบางคนเคยได้ยินเรื่องของเอ้อร์หนิว
ในเมื่อมีการเปรียบเทียบหยั่งใจประกายแสงหมื่นจั้งของสวี่ชิง ระดับความสูงจากการหยั่งใจหนึ่งจั้งที่ไม่เคยมีมาก่อนและยากจะมีผู้ตามได้ในภายหลังเช่นนี้ จะมากจะน้อย ก็เป็นประสบการณ์เช่นกัน
แต่ตอนนี้จากเสียงสะท้อนจากคำพูดของเอ้อร์หนิว ความรู้สึกที่คนเหล่านี้มีต่อเขาก็เกิดการเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง
แม้แต่องค์ชายใหญ่ก็ยังมองเอ้อร์หนิวอยู่หลายครั้ง ในใจเข้าใจกระจ่าง ประสานมือคารวะ
คนอื่นยากจะค้นพบ แต่สวี่ชิงมองเพียงผ่านเดียวก็มองออกว่านายกองวางมาดอีกแล้ว
แต่เขาย่อมไม่ไปเปิดโปง ตอนนี้ขณะสะบัดมือภูเขาต้องห้ามลูกหนึ่งก็ลอยลงมาจากเหนือศีรษะพุ่งตรงไปยังองค์ชายใหญ่
นั่นเป็นภูเขาที่กันไว้ให้องค์ชายใหญ่ในพื้นที่ต้องห้ามก่อนหน้านี้ ตอนนี้กลับคืนสู่เจ้าของที่แท้จริง
“เจอกันที่ภูเขาเทพ”
สวี่ชิงเอ่ยอย่างสงบนิ่ง
กับองค์ชายใหญ่ สวี่ชิงก่อนหน้านี้ไม่ได้สัมผัสอะไรด้วย แต่เขารู้องค์ชายใหญ่ก็เป็นผู้เข้าร่วมมหกรรมล่าเหยื่อเช่นกัน
และตามกฎของมหกรรมล่าเหยื่อ หากไม่ชิงอันดับหนึ่ง เช่นนั้นภูเขาต้องห้ามหนึ่งลูกก็ตรงกับเงื่อนไขที่เป็นพื้นฐานแล้ว
ส่วนสุดท้ายจะสามารถรักษาเอาไว้ได้หรือไม่ ก็ไม่ใช่สิ่งที่สวี่ชิงทางนี้จะไปแทรกแซงอะไรได้
ตอนนี้มอบภูเขาต้องห้ามให้หนึ่งลูกแล้ว สวี่ชิงก้าวไปทางปลายฟ้า นายกองก็ยังคงรักษาสีหน้าทอดถอนใจของตัวเองเอาไว้ เคลื่อนหน้าเคียงข้างไปกับสวี่ชิง
เงาร่างของทั้งสองกะพริบวูบวาบที่ปลายขอบฟ้า
บนพื้นแผ่นดิน เผ่ามนุษย์ทุกคนต่างจ้องมอง จวบจนกระทั่งในยามที่พวกสวี่ชิงทั้งสองคนหายไปจากในสายตาของพวกเขา ทางองค์ชายใหญ่ทางนั้นก็พลันเอ่ยขึ้น
“เจ้าแดนสวี่”
องค์ชายใหญ่ประสานหมัด โค้งคารวะ!
“ขอให้สำเร็จ!”
เขามองออกแล้ว เป้าหมายของสวี่ชิงคือขุนพลนภาทมิฬ!
ไม่เช่นนั้นแล้วไม่จำเป็นต้องมีภูเขาต้องห้ามมากขนาดนี้
เผ่ามนุษย์ทุกคนที่อยู่ข้างเขาต่างก้มศีรษะลงต่ำ ในใจเคารพและศรัทธา คารวะไปทางปลายขอบฟ้า
สวี่ชิงฝีเท้าหยุดชะงัก หันกลับไปมองพื้นแผ่นดิน หลังจากนั้นครู่หนึ่งก็ทำความเคารพกลับ
จากนั้นก็ก้าวจากไปไกล หายไปจากบ้านฟ้าพร้อมกับนายกอง
ส่วนราชรถมังกรกระดูกตัวนั้น สวี่ชิงก็เก็บไปด้วยเช่นกัน
นานหลังจากนั้น องค์ชายใหญ่และผู้บำเพ็ญเผ่ามนุษย์ก็ต่างสูดลมหายใจลึก หลังจากมองหน้ากัน สายตาทุกคู่ก็รวมไปบนร่างขององค์ชายใหญ่
องค์ชายใหญ่มองบริเวณที่สวี่ชิงหายไปจากท้องฟ้า เอ่ยเสียงต่ำทุ้ม
“เป้าหมายต่อจากนี้ของพวกเราไม่ใช่แลกเปลี่ยนสันติภาพ แต่เป็นคิดหาวิธีมอบรายงานข่าวที่มากเพียงพอให้กับเจ้าแดนสวี่ ลงมืออย่างสุดความสามารถ เตรียมให้เจ้าแดนสวี่ช่วงชิงตำแหน่งขุนพลนภาทมิฬ!”
พูดจบองค์ชายใหญ่ก็เริ่มจัดการ และจากการจัดการวางแผนของเขา คนกลุ่มหนึ่งก็แยกย้ายกันไปตามคำสั่งของเขา รวบรวมข้อมูลและรายงานข่าว
เช่นนี้เอง เวลาค่อยๆหมุนผ่านไป สามวันผ่านไป
ในสามวันนี้ เรื่องความตายของรัฐทายาทหมิงหนานอ๋องไม่สามารถปกปิดได้เลย ค่อยๆ แพร่ออกไป
ทีแรกยังเป็นเพียงแค่ข่าวลือ ผู้ได้ยินข่าวส่วนมากแล้วไม่เชื่อ กระทั่งว่ามีคนหัวเราะเยาะ คิดว่าเป็นเรื่องตลกไร้สาระ
ในการวิเคราะห์ของพวกเขา เบื้องหลังตลอดจนกำลังรบของรัฐทายาทหมิงหนานอ๋อง คนที่มีความสามารถและมีความกล้าที่จะฆ่าเขามีไม่มาก
นั่นเป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของอ๋องหมิงหนานเชียวนะ
แต่จากการแพร่ออกไปไม่หยุดของข่าว ความเคลือบแคลงก็ค่อยๆลดลง ความหวาดหวั่นค่อยๆเพิ่มขึ้น ร่วมกับเงาร่างของรัฐทายาทหมิงหนานอ๋องก็ไม่ได้ปรากฏขึ้นมาโดยตลอด ดังนั้นสุดท้ายแล้ว ข่าวความตายของเขาก็กลายเป็นกระแสร้อนแรง ผู้บำเพ็ญมากมายของเผ่านภาคิมหันต์ล้วนจับตาดู
อย่างไรเสีย รัฐทายาทหมิงหนานอ๋องในฐานะที่เป็นบุคคลโดดเด่นมีชื่อเสียงของเผ่านภาคิมหันต์ ทุกการเคลื่อนไหวของเขาล้วนได้รับการจับตามอง และการหายไปอย่างกะทันหัน…คำตอบที่เผยออกมาจากในนี้ ทำให้คนที่รับรู้ในใจเกิดระลอกคลื่น
ดังนั้นในบริเวณที่รัฐทายาทหมิงหนานอ๋องสู้กับสวี่ชิง ในหลายวันนี้มีผู้บำเพ็ญมากมายต่างมาตรวจสอบ ในร่องรอยเบาะแสที่เป็นชุดนี้ พวกเขาเดาความจริงออกมาได้
และความจริงนี้แปรเปลี่ยนเป็นลมพายุ พัดไปด้วยความเร็วสุดขีด กวาดโหมไปทั่วทั้งเผ่า
“รัฐทายาทหมิงหนานอ๋อง…คล้ายว่าตายแล้ว!”
“คนที่ฆ่ารัฐทายาทหมิงหนานอ๋องเป็นผู้บำเพ็ญเผ่ามนุษย์!”
“มีคนจำตัวตนผู้บำเพ็ญเผ่ามนุษย์คนนั้นได้ คนๆ นี้…ชื่อว่าสวี่ชิง!”
ข้อมูลมหาศาล ในเวลาสั้นๆ ระเบิดไปทั่วทุกทิศ และสำหรับอดีตของสวี่ชิง ไม่นานนักก็มีคนสืบออกมา
เพียงแต่…จากความเข้าใจ จากการรับรู้ ลมพายุลูกใหญ่ยิ่งขึ้นก็เริ่มปะทุ
อดีตของสวี่ชิง ต่อให้เป็นผู้บำเพ็ญเผ่านภาคิมหันต์ก็ต่างเต็มไปด้วยความตะลึงกันทั้งสิ้น
“เจ้าเขตปกครองผนึกสมุทรเผ่ามนุษย์!”
“ในดินแดนเซ่นจันทรา เข้าร่วมการสังหารเทพ!”
“ในแผ่นดินใหญ่วิญญาณทมิฬ ได้รับการยกย่องเป็นเทพเจ้า!”
“ในเมืองหลวงเผ่ามนุษย์ ประหารองค์ชาย! มหาจักรพรรดิประธานกระบี่!”

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา