บทที่ 844 ธงเผ่าบนเขาเทวะ
‘คนผู้นี้เป็นอะไร ข้าก็ไม่ได้ว่าเขาเสียหน่อย’
ชิวเชวี่ยจื่อแปลกใจเล็กน้อย รู้สึกไม่ค่อยเป็นธรรมที่จู่ๆ ก็โดนดุ
เขาคิดว่าตนแค่พูดกฎบางข้อที่เกี่ยวกับเขาเทวะเท่านั้น ไฉนทำให้ศิษย์พี่ของสวี่ชิงอารมณ์แปรปรวนไปได้
เขาจึงคาดเดาในใจอย่างห้ามไม่อยู่
แต่ดูเหมือนว่า ต่อให้เขาจินตนาการหรือกระทั่งฝันอย่างไร ก็คงไม่อาจเข้าใจโลกในความคิดของเฉินเอ้อร์หนิว…
ทว่าเห็นนายกองสีหน้าไม่พอใจกว่าเดิม ชิวเชวี่ยจื่อรีบเก็บความคิด เดินนำหน้ามุ่งไปยังขั้นบันไดด้านหลังเทวรูปทั้งสามกับรูปปั้นคุกเข่า
ตอนเดินผ่านรูปปั้นผู้ลบหลู่เทพเจ้า สวี่ชิงเหลือบมองหลายครั้งอย่างอดไม่ได้
นายกองอยู่ข้างกายเขา ลูบจมูกมองสวี่ชิง กระแอมทีหนึ่งแล้วส่งจิตเทพ
‘หยุดมองได้แล้วอาชิงน้อย ข้าก็นึกไม่ถึงว่าผ่านมานานขนาดนี้ ไอ้แก่หนังเหนียวรื่อเหยียนหญิงก็ไม่ใช่ชายก็ไม่เชิงที่สมควรถูกสับเป็นพันครั้งถึงกับทำเรื่องชวนให้เดือดดาลเช่นนี้!’
‘มันจะมากเกินไปแล้ว!’
นายกองแค่นเสียง
สวี่ชิงนิ่งเงียบ ถอนสายตากลับมา ตอนเข้าใกล้ขั้นบันไดทางเขา สวี่ชิงยังข่มความสงสัยในใจไม่อยู่ ส่งเสียงหานายกอง
“ศิษย์พี่ใหญ่ ท่านมาที่นี่จะถูกเทพจันทรากับเทพสุริยันพบเข้าแล้วฆ่าท่านตายในหนึ่งฝ่ามือหรือไม่…”
นายกองเลิกคิ้ว
“ไม่อย่างนั้นเหตุใดข้าต้องเอาอักษรในตำราสวรรค์ไร้อักษรมาถึงจะกล้ามาที่นี่”
“วางใจ ข้ามีแผนรอบคอบ รื่อเหยียนหลับลึกตลอดเวลา เยว่เหยียนกลืนกินเลือดเนื้อชื่อหมู่ กำลังย่อย ส่วนนางจิ้งจอกนั่น อย่าเห็นว่าเทวรูปฟื้นตื่น ร่างเดิมขององค์ท่านกำลังหลับลึกอยู่เช่นกัน และองค์ท่านก็ชอบดูเรื่องสนุก คงไม่แฉโพยง่ายๆ หรอก ดังนั้นคราวนี้พวกเราเดินทางปลอดภัย”
นายกองตบหน้าอก
ชั่วขณะที่เหยียบขั้นบันได สวี่ชิงร่างกายสั่นสะเทือน ภูเขาต้องห้ามหนึ่งพันแปดร้อยกว่าลูกเหนือศีรษะเขาหายไปลูกหนึ่ง
ภูเขาต้องห้ามลูกนั้นกลายเป็นสายรุ้งยาวตกลงในเขาเทวะ ผสานเข้าในนั้น
ขณะเดียวกัน หลังการผสานของภูเขาต้องห้ามลูกนี้ เขาเทวะเผ่านภาคิมหันต์ที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าสวี่ชิงก็เกิดการเปลี่ยนแปลงประหลาด
สามารถเห็นธงผืนแล้วผืนเล่าปรากฏบนเขาเทวะ
ประหนึ่งรายชื่อติดประกาศที่สัมผัสได้ เรียงจากล่างขึ้นบนเท่ากับความสูงขั้นบันได สีสันต่างกัน ภาพสัญลักษณ์ที่ปักไว้ก็มากมายหลายหลาก
และขนาดธงก็ไม่เหมือนกัน ยิ่งสูงขึ้นไปธงยิ่งใหญ่ ยิ่งเห็นชัด
แม้อยู่ในเมืองศักดิ์สิทธิ์ก็สามารถเห็นชัดถนัดตา
ในนั้นธงที่อยู่ล่างสุดของเขาเทวะมีจำนวนเยอะที่สุด รวมกันแน่นขนัดกว่าหลายหมื่นผืน ทว่าในระดับความสูงร้อยขั้นบันไดกลับเหมือนสันปันน้ำ จำนวนธงตรงนั้นมีแค่ประมาณสองร้อยผืน
มองขึ้นไปอีก ธงที่เกินระดับความสูงห้าร้อยขั้นบันไดกลายเป็นสันปันน้ำที่สอง ตรงนั้นมีแค่ประมาณสามร้อยผืน
ธงผืนบนสุดอยู่ในระดับความสูงแปดร้อยกว่าขั้นบันได ใหญ่โตหาใดเปรียบ ชัดตาอย่างยิ่ง
และสังเกตให้ละเอียดยังเห็นได้ว่าธงในระดับความสูงสามร้อยขั้นบันไดขึ้นไป เจ็ดแปดในสิบล้วนเป็นธงของเผ่านภาคิมหันต์เอง
ส่วนด้านล่างสุด ในธงหลายหมื่นผืนนั้น ยามนี้เพิ่มอีกหนึ่งผืนหลังภูเขาต้องห้ามของสวี่ชิงผสานเข้าไป
นั่นเป็นธงสีแดงผืนหนึ่ง ขนาดธรรมดา บนนั้นปักลวดลายขุนเขาสายธาร แต่ปรากฏในรูปพินาศย่อยยับ ทั้งแดงฉานดุจโลหิต เปี่ยมด้วยความกดดัน
นั่นเป็นธงเผ่ามนุษย์ในปัจจุบันที่เขาเทวะรวบรวมเข้าไปเอง
ชั่วขณะที่มันปรากฏ สวี่ชิงรวมสายตาไปจ้องมองมันตามสัญชาตญาณ
ขณะเดียวกัน เสียงชิวเชวี่ยจื่อทอดเบาอยู่ข้างหลังสวี่ชิง
“การปิดฉากของมหกรรมออกล่ารอบแรกคือผสานภูเขาต้องห้ามเข้ากับเทวะ ทุกขั้นบันไดภูเขาต้องห้ามจะหายไปลูกหนึ่ง กลายเป็นธงเผ่า”
“ธงนี้จะเคลื่อนไหวตามการมุ่งหน้าของผู้บำเพ็ญ จวบจนภูเขาต้องห้ามลูกสุดท้ายหายไป ธงจะตั้งตระหง่านในระดับความสูงที่สัมพันธ์กัน”
“ส่วนธงในเขาเทวะเหล่านี้ มันจะปรากฏในชั่วขณะที่ภูเขาต้องห้ามผสานเข้ามาตอนผู้ผสานมาเยือนเท่านั้น ยามปกติมองไม่เห็น”
ชิวเชวี่ยจื่อเหยียบบันไดขั้นแรกเช่นกัน หลังจากภูเขาต้องห้ามเหนือศีรษะเขาหายไป เขาเทวะก็มีธงเผ่านภาคิมหันต์เพิ่มอีกหนึ่งผืน
“โดยทั่วไป ภูเขาต้องห้ามลูกเดียวก็สามารถผ่านรอบแรกและมีสิทธิ์เข้ามหกรรมออกล่ารอบที่สอง”
“มีเพียงผู้บำเพ็ญที่หมายแย่งเป็นที่หนึ่งในรอบแรก ถึงจะสะสมยอดเขามากกว่านั้นในรอบนี้”
“ส่วนธงเผ่า นั่นเขาเทวะทำให้เกิดขึ้นเอง มันวาดธงที่มีสัญลักษณ์เฉพาะของเผ่านั้นๆ ตามความพิเศษของแต่ละเผ่าได้เอง”
ชิวเชวี่ยจื่ออธิบายเสียงค่อยอยู่ด้านข้าง
สวี่ชิงพยักหน้า ถอนสายตาจากธงเผ่ามนุษย์ ก้าวเท้าไปยังบันไดขั้นที่สอง พริบตาที่เหยียบขึ้นไป ยอดเขาเหนือศีรษะเขาหายไปอีกหนึ่งลูก
ธงขุนเขาสายธารสีแดงก็ยกขึ้นตามมา ทั้งยังใหญ่ขึ้นเล็กน้อย
ก็เป็นเช่นนี้ สวี่ชิงเดินเรื่อยมาจนถึงร้อยขั้นบันได
ยืนอยู่ตรงนี้ ธงขุนเขาสายธารสีแดงใหญ่โตมากแล้ว ในบรรดาธงมากมายก็ให้ความรู้สึกสะดุดตา
เพียงแต่ธงเผ่าใหญ่ขึ้นแล้ว ความแหลกลาญของขุนเขาสายธารบนนั้นก็ยิ่งเห็นชัดถนัดตา ถึงขั้นปรากฏเป็นโครงกระดูกนับไม่ถ้วน เห็นได้ถึงความน่าเวทนา
สวี่ชิงอดจ้องมองอีกครั้งไม่ได้ ผ่านไปค่อนวันจึงถอนสายตา เงยหน้ามองธงแต่ละเผ่าด้านบนอีกครั้ง เงียบนิ่งแล้วเดินต่อไป
สองร้อย สามร้อย สี่ร้อย…



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา