บทที่ 853 แผ่นดินใหญ่ผืนคีรี
ด้วยความระมัดระวังตัวเช่นนี้ สวี่ชิงจึงไม่เลือกที่จะเหาะเหินบนท้องฟ้า แต่เลือกที่จะเดินไปตามเส้นทางในป่าฝน ใช้สภาพแวดล้อมของป่าฝนเพื่ออำพรางร่องรอย
ในขณะเดียวกัน เขาก็ปล่อยให้บรรพจารย์สำนักวัชระออกไป สำรวจบริเวณโดยรอบล่วงหน้า
เวลาผ่านไปห้าวัน
ในห้าวันนี้ เขเห็นผู้บำเพ็ญบางคนที่เข้าร่วมมหกรรมล่าเหยื่อด่านที่สอง บางคน สวี่ชิงจำได้ว่าในบรรดานั้นมีคนที่เคยท้าประลองกับตนมาก่อน
แต่ตอนนี้ สวี่ชิงก็ไม่มีอารมณ์ที่จะสนใจมากนัก ก่อนที่อีกฝ่ายจะสังเกตเห็น เขาก็จากไปแล้ว
ในขณะเดียวกัน เขาก็พบกับสัตว์ประหลาดมากมายในป่าฝนนี้ ไม่ว่าจะอาศัยอยู่ตามคาคบไม้ หรือซ่อนตัวอยู่ในโคลนตม นับไม่ถ้วน
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีสิ่งประหลาดอีกหลายอย่าง เช่นจู่ๆ ภูเขาก็สั่นสะเทือน โผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน แล้วกลายเป็นยักษ์หลายแขน เดินผ่านหน้าสวี่ชิงไป
หรือดวงอาทิตย์ที่มีขา ทั้งตัวใหญ่ตัวเล็ก จับมือกันวิ่ง
หรือตะขาบร้องเพลง และเห็ดที่กระโดดหย็องแหย็งตามสวี่ชิง
หรือสิ่งที่ดูเหมือนต้นไม้ใหญ่ แต่จริงๆ แล้วเป็นจมูก ลำตัวนอนหลับอยู่ใต้ดิน
แม้แต่ลมที่พัดผ่าน ยังทำให้สวี่ชิงตาเบิกโพลง ลมนั้น…ดูเหมือนจะไม่มีรูปร่าง แต่กลับมีรูปร่างของจริง เพียงแค่โปร่งใสเท่านั้น
หากสวี่ชิงไม่ใช่คนประสาทไว ก็อาจจะชนเข้าโดยไม่รู้ตัว
ยังมีสิ่งประหลาดที่น่าสยดสยองอีกมากมาย เช่นหัวลอยได้ โครงกระดูกเดินได้ และเสียงเพลงน่าขนลุกที่ได้ฟังในทุกหนแห่งไม่ว่าจะเดินไปที่ใด
ทั้งมีรูปร่าง และไร้รูปร่าง
ความรู้สึกของสวี่ชิง แผ่นดินใหญ่ผืนคีรีเแห่งนี้หมือนกับโลกอื่น ความสามารถและรูปร่างของสัตว์ประหลาดหลายตัว ได้ทำลายความรู้ชุดเดิมของเขาจนสิ้น
สัตว์ประหลาดไร้หัว เส้นผมยาวที่ลอยอยู่ในแอ่งโคลน และซากวังเทวะที่พังทลายแต่แฝงไปด้วยกลิ่นอายอันตราย และคนแก่ไร้หน้าที่แบกแผ่นศิลาไว้บนหลัง
เช่นเดียวกับตอนนี้ที่สวี่ชิงกระโดดข้ามทะเลดอกไม้ในป่าฝน
ดอกไม้ทะเลผืนนี้นี้มีสีสันสดใส เคลื่อนที่บนพื้นดิน ก่อตัวเป็นคลื่น พืชพรรณ สัตว์ประหลาดที่ขวางทางพวกมัน จะถูกพวกมันกลืนกินและกลายเป็นส่วนหนึ่งของทะเลดอกไม้
แต่หากสังเกตดูอย่างละเอียด จะพบว่าทะเลดอกไม้ที่ว่านี้ แท้จริงแล้วเกิดจากคางคกสีฉูดฉาด การกระโดดของพวกมันแต่ละครั้ง คือต้นกำเนิดของคลื่น
แต่นี่ไม่ใช่สิ่งอันตราย สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของทะเลดอกไม้แห่งนี้ คือรูปปั้นเทพเจ้าแตกหักซึ่งถูกคางคกจำนวนมากแบกหามอยู่
รูปปั้นนั้นเปลือยอก เป็นรูปร่างของบุรุษ มีสี่หัว หัวทั้งหมดหลับตาลง มือข้างหนึ่งอุ้มทารกไว้ที่หน้าอก อีกข้างหนึ่งวางไว้ที่คาง
เสียงกรนแผ่วเบาดังออกมาพร้อมกับการเคลื่อนไหวของทะเลดอกไม้
ส่วนที่พังทลาย เป็นลำตัวที่เหลือเพียงครึ่งเดียว และหัวทั้งสี่มีรอยแตก โดยเฉพาะทารกในอ้อมแขนที่สภาพหนักยิ่งกว่า
สวี่ชิงมองเห็นจากระยะไกล หัวใจเต้นโครมคราว นี่คือรูปปั้นเทพเจ้าองค์ที่สิบเจ็ดที่เขาเห็นในห้าวันนี้ แต่ละองค์แตกต่างกัน แต่ให้ความรู้สึกอันตราย
เช่นเดียวกับซากปรักหักพังของวังเทวะ
รูปปั้นเหล่านี้เองล้วนแต่แตกหักทั้งหมด ไม่มีองค์ใดสมบูรณ์ บางองค์เหมือนถูกแยกออกเป็นชิ้นๆ
องค์ที่อยู่ตรงหน้า ถือว่ายังคงสภาพสมบูรณ์มากแล้ว
“เมื่อหลายปีก่อน เกิดอะไรขึ้นกับแผ่นดินใหญ่ผืนคีรีกันแน่…”
“เหตุใดถึงมีซากศาลเจ้า ซากรูปปั้นเทพเจ้ามากมายขนาดนี้…”
สวี่ชิงรู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆ จึงหลบเลี่ยงทะเลดอกไม้ เดินไปตามทิศทางที่กำหนดพลางครุ่นคิดไปเรื่อยๆ แต่หลังจากที่เขาเดินทางต่อไปอีกหนึ่งชั่วก้านธูป สีหน้าของสวี่ชิงก็เปลี่ยนไป ร่างกายถอยกรูดแล้วเหาะขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว
แทบจะในทันทีที่ร่างของเขาพุ่งตัวออกจากตำแหน่งเดิม บริเวณที่เขาอยู่ก่อนหน้านี้ ก็พังทลาย ปรากฏหลุมดำขนาดใหญ่ขึ้น
หลุมดำนี้ ไม่ได้ปรากฏขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ สาเหตุนั้นมาจากพื้นดิน
ในป่าฝน ในหนองน้ำ มีรูปปั้นเทพเจ้าที่พังทลายขนาดใหญ่ถึงหมื่นจั้ง ลำตัวพังสลาย สภาพไม่สมประกอบ แต่ส่วนหัวค่อนข้างชัดเจน โดยเฉพาะบริเวณปาก ที่ไม่มีรอยแตกหักแต่อย่างใด
และมันกำลังหายใจ
การหายใจแต่ละครั้ง จะทำให้เกิดหลุมดำบนท้องฟ้า
ในขณะเดียวกัน ยังแผ่รังสีคุกคามระดับชีวิตออกมาจากรูปปั้นเทพเจ้ายักษ์ที่พังทลาย
แม้ว่าสวี่ชิงจะมีพลังบำเพ็ญสูง ความสามารถในการต่อสู้น่าทึ่ง และมีสภาวะเทพเจ้าเทพ แต่เมื่อถูกกลิ่นอายระดับนี้ข่มขู่ ย่อมเลือกที่จะหลบเลี่ยง
ในขณะเดียวกัน ดัชนีเทพเจ้าในเขตติงหนึ่งสามสองภายในตัวเขาก็สั่นสะเทือน
“ที่นี่…ที่นี่…”
สวี่ชิงใจเต้น
“ว่ามาสิ”
ดัชนีเทพเจ้าสั่นสะเทือน เอ่ยวาจาเสียงแผ่วเบา
“ที่นี่เคยมีเทพเจ้าตาย ไม่ใช่แค่สองสามองค์ แต่มีเทพเจ้าตายมากมาย…สวรรค์ เหตุใดข้าถึงไม่เคยรู้เรื่องนี้ ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย”
“เป็นไปได้ไหม ว่าตอนที่ร่างของเจ้ามาถึง เจ้ากำลังหลับอยู่ ต่อมาเมื่อเจ้าแยกตัวออกไป ก็ถูกสะกดและหลับอยู่เช่นกัน…”
บรรพจารย์ของสำนักวัชระ บินมาจากระยะไกล ส่งจิตเทพมา


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา