เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 865

บทที่ 865 เงาร่างในเขาเถ้ากระดูก

ท่ามกลางฟ้าดิน คลื่นเป็นระลอกแผ่ขยายออกมาวงแล้ววงเล่าไม่สิ้นสุด กระจายทั่วทุกสารทิศ

ด้านสวี่ชิงมีหมอกเทานับไม่ถ้วนแผ่ทั่วกาย

พลังต้นกำเนิดที่มาจากศาสตร์เวททำให้เขารับแรงกดดันหันไปมองได้ในระยะห่างเช่นนี้

หลังมองผาดหนึ่ง สวี่ชิงถอนสายตากลับทันที ห้อตะบึงไปข้างหน้าโดยไม่เหลียวหลัง

มองจากไกลๆ จะเห็นหมอกเทาหนาหนักแผ่ซ่านอยู่รอบตัวสวี่ชิง พลิกม้วนบดบังท้องฟ้าอำพรางดวงอาทิตย์ ด้วยการเสริมพลังนั้น ความเร็วของเขาก็ยิ่งน่าตื่นตะลึง

ผ่านไปสิบกว่าลมปราณ เมื่อเงาร่างสวี่ชิงหายไปจากขอบฟ้า ไอหมอกที่นี่ถึงกับลดลงไปมากถึงสามส่วน

กล่าวให้ถูกคือไม่ได้ลดลง แต่ไอหมอกสามส่วนที่ตรงศูนย์กลางนั้นเคลื่อนที่ไกลออกไปคล้ายมีชีวิตขึ้นมา

หลังสวี่ชิงมุ่งหน้าตลอดทาง ไอหมอกเคลื่อนที่นั้นก็ยิ่งรวดเร็ว ราวกับไอหมอกทั้งหมดในเขตต้องห้ามจิ่วหลีแบ่งเป็นสองส่วน

เกิดเป็นสายลมถ่ายเทหวีดคำรามท่ามกลางฟ้าดิน

กระทั่งสองชั่วยามผ่านไป ที่ชายแดนเขตต้องห้ามของจิ่วหลี ไอหมอกรุนแรงขึ้นฉับพลัน กระจายออกข้างนอกทีละกลุ่ม ทะลวงเขตของจิ่วหลีออกมาปรากฏที่โลกภายนอก

ไม่นาน กลุ่มไอหมอกมหึมาพุ่งออกมาจากเขตจิ่วหลี

กลุ่มไอหมอกนี้กินบริเวณน่ากลัว ในนั้นเต็มไปด้วยหมอกเทามหาศาล ถึงกับเกิดเป็นเกลียวคลื่นสีเทาขนาดยักษ์ด้วยไอหมอกหนาแน่นเกินไป

หากมีผู้บำเพ็ญอยู่แถวนี้ เห็นแล้วต้องหวาดผวา ใจสะท้านดุจฟ้าผ่าเป็นแน่

เพราะเกลียวคลื่นไอหมอกนี้มีอานุภาพสะเทือนฟ้าเกินไปอย่างแท้จริง

ขณะเดียวกัน นี่ยังเป็นเหตุการณ์ครั้งแรกที่มีไอหมอกออกมาข้างนอกนับจากเขตต้องห้ามจิ่วหลีก่อเกิด ก่อนหน้านี้ไอหมอกในเขตของจิ่วหลีมีเขตแดน จะไม่กระจายออกมาแม้เพียงนิด

จนกระทั่งวันนี้ มันเปลี่ยนไปแล้ว

และในเกลียวคลื่นไอหมอกนั้นมีเงาร่างสายหนึ่ง เป็นสวี่ชิงนั่นเอง

เขาออกจากเขตต้องห้ามจิ่วหลีสำเร็จ!

แม้คนที่เข้าเขตต้องห้ามจิ่วหลีจะเกิดพันธะผลกรรมกับหมอกเทา ไม่อาจแยกจาก แต่เขาทำตามความคิดของตน…นั่นคือเอาไอหมอกออกมาด้วย

ส่วนการเปลี่ยนแปลงตรงใจกลาง ตอนนี้เขาไม่มีเวลาไปคิดแล้ว พริบตาที่ออกมาข้างหน้า ความเร็วของสวี่ชิงพุ่งพรวดอีกครั้ง หวีดคำรามมุ่งไปข้างหน้า

เขาต้องหาที่ฟื้นฟูอาการบาดเจ็บให้เร็วที่สุด

อีกอย่าง ตอนนี้เขายังไม่สามารถรับหมอกเทารอบตัวเข้ามาในร่าง มันจึงเตะตาอย่างยิ่ง

เป็นเช่นนี้ต่อไปจะยากซ่อนตัว

และสภาวะของเขาตอนนี้ หากเจอยอดอัจฉริยะฟ้าประทานแบบจี้ตงจื่อคงไม่ดีเอาเลย

เขาต้องใช้เวลารับหมอกเทาทั้งหมดกลับมา

ร่างสวี่ชิงจึงเคลื่อนจากท้องฟ้าลงมาฉับพลัน ขณะถึงพื้น เขายกเท้าขวาเหยียบรุนแรง เงาร่างผสานเข้าผืนดินในชั่วลมปราณ

ระหว่างจมลงต่อเนื่องก็เอาหมอกเทารอบกายลงไปใต้ดินด้วย

กระทั่งจมลงถึงตำแหน่งพันกว่าจั้ง หมอกเทาผสานเข้ามา มองจากข้างนอกไม่เหลือร่องรอยเท่าใดแล้ว

สวี่ชิงจึงโล่งอกไปกึ่งหนึ่ง

แต่เขารู้ว่าที่นี่ยังไม่ค่อยปลอดภัย เพราะใกล้จิ่วหลีมากเกิน

ดังนั้นเขากัดฟันมุ่งดำดินต่อไป จนผ่านไปหนึ่งวัน เจอที่เหมาะแก่การซ่อนตัวในที่สุด

นั่นคือเทือกเขาผืนหนึ่งในป่าฝน

เทือกเขานี้ซ่อนหมอกเทาได้ดีกว่า เป็นฉากกำบังตามธรรมชาติ

สวี่ชิงจึงขุดถ้ำใต้ดินเทือกเขาแห่งนี้เพื่อนั่งสมาธิ

‘หาที่ซ่อนต่อไปก็ไม่มีประโยชน์ ที่ข้าหลบคือผู้บำเพ็ญคนอื่นที่เข้าร่วมมหกรรมออกล่า หาใช่เทพเจ้าทั้งสาม…’

‘หากเทพเจ้าทั้งสามอยากตามหาข้า เช่นนั้นในแผ่นดินใหญ่ผืนคีรีนี้ ข้าซ่อนหรือไม่ซ่อนล้วนไม่ต่างกัน’

สวี่ชิงรู้จุดนี้ดี ยามนี้ประเมินในใจแล้วหลับตา ผลึกวารีสีม่วงในกายแผ่แสงสีม่วงปกคลุมทั่วร่าง

เริ่มฟื้นฟู

เวลาไหลผ่านไปช้าๆ สามวันต่อมา สวี่ชิงที่นั่งขัดสมาธิอยู่ตรงนั้นลืมตา นัยน์ตาฉายรัศมีสีม่วงแวววาม บาดแผลบนกายเขาหายสนิทโดยสิ้นเชิง แต่อาการบาดเจ็บภายในฟื้นฟูเพียงครึ่ง

ครั้งนี้เขาเจ็บหนักเหลือหลาย

แม้เป็นผลึกวารีสีม่วงก็ต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งถึงจะทำให้เขากลับมาหายดี

ทว่าด้านกำลังรบ ตอนนี้สวี่ชิงเริ่มมีบ้างแล้ว

‘เช่นนั้นต่อไป ก็คือรับหมอกเทาเข้าผลึกวารีสีม่วง…’

สวี่ชิงหรี่ตา เขารู้ว่าหมอกเทาไม่ได้ตามตัวเขาออกมา แต่ตามกะโหลกทั้งเก้าของจิ่วหลี

ดังนั้นหลังครุ่นคิดครู่หนึ่ง เขาหลับตาผสานจิตเข้าในผลึกวารีสีม่วง ลองรับไอหมอกสีเทาด้วยวิธีต่างๆ

นี่เป็นขั้นตอนการสำรวจกะโหลกจิ่วหลี จึงไม่เร็วนัก แต่หลังจากสวี่ชิงพิจารณากะโหลกทั้งเก้าในผลึกวารีสีม่วง หมอกเทาที่กระจายอยู่ในดินโคลนรอบตัวเขาพลันรวมตัวมาทางเขาอย่างช้าๆ

แทรกซึมเข้าในกายทีละกลุ่มจากทั่วทิศ ไหลท่วมสู่ผลึกวารีสีม่วงในอกเขามาตามเลือดเนื้อ เพียงแต่ขั้นตอนยังคงช้าเล็กน้อย

จนสองวันผ่านไป หลังรัศมีผลึกวารีสีม่วงเปล่งประกายเด่นชัด สวี่ชิงเบิ่งตาฉับพลัน

“ในที่สุดก็เอาตรานาบของข้าผสานเข้ากะโหลกทั้งเก้าได้แล้ว ฝืนรวมเป็นหนึ่งกับพวกมัน จะได้กีดกันข้าไม่ได้อีก!”

สวี่ชิงหรี่ตา ยกมือขวาวางตรงหน้าอก เอ่ยเสียงทุ้มต่ำ

“พลังต้นกำเนิดเวท!”

เมื่อเขาเอ่ยคำ กะโหลกทั้งเก้าพลันปรากฏในแสงสีม่วงที่เปล่งประกายรอบด้าน ขณะพากันสำแดงความดุร้ายยังแผ่กลิ่นอายความเป็นพวกเดียวกับสวี่ชิงออกมาเล็กน้อย

“หวนคืน!”

มือขวาสวี่ชิงทำมุทราอัดไปด้านนอก

ไอหมอกสีเทาที่แหวกว่ายอยู่รอบตัวเขาพลันหยุดนิ่ง ชั่วลมปราณถัดมาก็กลายเป็นรุนแรง แทรกออกจากดินโคลนรอบทิศอย่างบ้าคลั่ง ผสานเข้ากะโหลกทั้งเก้าโดยไม่รอช้า

ไอหมอกน้อยลงเรื่อยๆ

กะโหลกทั้งเก้าถึงกับงอกเลือดเนื้อเป็นสีเทา

บทที่ 865 เงาร่างในเขาเถ้ากระดูก 1

บทที่ 865 เงาร่างในเขาเถ้ากระดูก 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา