เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 92

บทที่ 92 เลือดย้อมเกาะกิ้งก่าทะเล

มหาสมุทรยามราตรี ลมเมฆเปลี่ยนผัน สภาพอากาศก็ลึกลับประดุจน้ำทะเล คาดคะเนไม่ได้

เวลานี้รอบด้านเกาะกิ้งก่าทะเลท้องฟ้าส่งเสียงอัสนีครืนครัน สายฟ้าผ่าแลบแปลบปลาบ

พายุฝนกำลังใกล้เข้ามา

การสังหารกำลังดำเนินอย่างบ้าคลั่งบนยอดภูเขาที่สูงที่สุดของเกาะกิ้งก่าทะเลใต้การสะท้อนของสายฟ้าเวลานี้

คราบกิ้งก่าระดับเทพทั้งสามชิ้น มูลค่าของพวกมันเพียงพอที่จะทำให้เหล่าผู้บำเพ็ญไร้สังกัดเอาชีวิตเข้าแลก

เสียงครืนครันซ้อนทับกับสายอัสนีเวลานี้ จิตสังหารในดวงตาสวี่ชิงก็เข้มข้นจนจะหลั่งทะลักออกมา ร่างกายปะทะกับร่างกายผู้บำเพ็ญลัทธินอกวิถี แรงปะทะมหาศาลผลักร่างของอีกฝ่ายจนถอยหลังไป

สวี่ชิงไม่สนใจการโต้กลับของคนผู้นี้ ไม่สนใจวิชาเวทที่พุ่งเป้ามาบนร่างกายเหล่านั้น เหล็กแหลมในมืออยู่ที่ตำแหน่งหัวใจของอีกฝ่าย แทงติดต่อกันหกครั้ง

ทุกครั้งล้วนทำให้ผู้บำเพ็ญลัทธินอกวิถีคนนี้ร่างกายสั่นกระตุก จนกระทั่งพริบตาต่อมา ร่างกายสวี่ชิงก็ไหววูบฉีกตัวหลบจากวิชาเวทรอบด้านที่พุ่งเข้ามา ศพของผู้บำเพ็ญลัทธินอกวิถีคนนั้นก็แหลกละเอียดด้วยวิชาเวทท่ามกลางเสียงครืนครัน

ขณะเดียวกัน พริบตาที่สวี่ชิงฉากตัวถอยออกมา กลุ่มภูตสมุทรต่างเผ่าอีกสี่คนก็อาศัยความแข็งแกร่งของการฝึกกายาเข้าปะทะฉับพลัน ล้อมเขาไว้แล้วพุ่งเข้าสังหารอย่างไม่รักตัวกลัวตาย

ยิ่งชายร่างใหญ่ภูตสมุทรที่มีใบหน้าเหี้ยมเกรียมปรากฏที่หน้าอกคนนั้นสองมือประกบปางจนเกิดเป็นเลือดทรงกลมขนาดใหญ่ขึ้นลูกหนึ่ง แปรเป็นค้างคาวสีเลือด บินโฉบเข้ามาทางสวี่ชิง ในปากตอนที่อ้ามีฟันแหลมคม ราวกับถ้าถูกมันกัด หากไม่ตายก็คงจะเจ็บหนัก

เมื่อเห็นวิกฤต สวี่ชิงก็โบกมือใช้ของวิเศษอักขระกลายเป็นเกราะป้องกัน หลังจากต้านทานค้างคาวสีเลือดและการลงมือของภูตสมุทรคนนั้นแล้ว ร่างกายใช้แรงปะทะนี้ถอยฉากกลับ พุ่งตรงไปหาผู้บำเพ็ญลัทธินอกวิถีสามคนที่พุ่งเข้ามาด้านหลังเวลานี้

เป้าหมายของเขาชัดเจนมาก จัดการสังหารลัทธินอกวิถีก่อน!

สาเหตุที่เลือกลัทธินอกวิถี ก็เพราะอีกฝ่ายสร้างแรงคุกคามกับเขามากที่สุด

ลัทธินอกวิถีเย็นชาต่อชีวิต ไม่เพียงแต่ต่อคนภายนอกเท่านั้น กระทั่งตัวพวกเขาเองก็เช่นกัน นี่จึงทำให้พลังการต่อสู้ของพวกเขาแข็งแกร่งมาก

การถอยกลับของสวี่ชิงเวลานี้ ผสานทะเลเพลิงของเงาป๋าไว้ด้วย แต่สีหน้าผู้บำเพ็ญลัทธินอกวิถีสามคนนั้นไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย ยังคงพุ่งตรงเข้ามา ตั้งใจคิดจะใช้ความตายแลกกับอาการบาดเจ็บในพริบตาที่สองฝ่ายปะทะกัน

ตอนที่เสียงครืนครันดังขึ้น หนึ่งในผู้บำเพ็ญลัทธินอกวิถีทั้งสามคนหน้าอกก็เว้าเป็นรู แต่กลับกอดเอวของสวี่ชิงเอาไว้ คนหนึ่งถูกเหล็กแหลมแทงหน้าผากจนทะลุ แต่กลับกำเหล็กแหลมไว้แน่น ไม่เปิดโอกาสให้สวี่ชิงได้ชักกลับ

คนสุดท้าย คลื่นอารมณ์แรกที่เผยออกมาในดวงตาคือความบ้าคลั่ง

“นอกวิถี!” เขาตะโกนขึ้น ร่างกายเผาไหม้ในฉับพลันกลายเป็นแสงเจิดจ้าแยงตาสายหนึ่ง พุ่งเข้าหาสวี่ชิงด้วยความเร็วที่น่าตกตะลึง

จังหวะที่พุ่งมาถึง พอเห็นว่ากำลังจะแทงเข้ามา

ดวงตาสวี่ชิงปรากฏประกายเย็นเยียบ ทะเลวิญญาณเก้าสิบกว่าจั้งในร่างกายระเบิดปะทุขึ้นฉับพลัน แผ่ภาพมายากวาดม้วนจากร่างออกไปแปดทิศ

พริบตาที่ศพของผู้บำเพ็ญลัทธินอกวิถีที่ตายไปสองคนถูกสัมผัสก็แตกสลายทันที ผู้บำเพ็ญอีกมากมายที่เข้ามารอบด้านก็ล้วนหลบไม่พ้น ถูกซัดออกไปทุกทิศทาง

สวี่ชิงใช้จังหวะนี้เบนตัวออกทันควัน หอกแสงมาพร้อมด้วยพลังเผาไหม้ทำลายล้างที่ใกล้เข้ามาก็แฉลบผ่านหน้าอกเขาไป

แม้จะไม่ได้ถูกแทงทะลุ แต่ก็ยังเป็นรอยถากอยู่บ้าง เสื้อผ้าขาดวิ่น เนื้อหนังถลอกปอกเปิด

สวี่ชิงหายใจหอบถี่ ร่างกายยังคงถอยออกมาจนถึงระยะห้าจั้ง จากนั้นก็หยุดลง โค้งตัวลงเหมือนแมว ใช้เท้าขวาดีดกับพื้นอย่างแรง พุ่งทะยานออกไปราวกับลูกศรหลุดจากคันสาย

บนพื้นยังเหลือเงาคงค้าง แต่ร่างจริงของเขาไปอยู่ด้านหน้าผู้บำเพ็ญลัทธินอกวิถีอีกคนแล้ว ผู้บำเพ็ญลัทธินอกวิถีคนนี้ดวงตาแผ่ความร้อนแรงออกมาเช่นกัน

“นอกวิถี!” ขณะที่คำราม ร่างกายของเขาก็เลือกที่จะระเบิดตัวเองทันที

และลัทธินอกวิถีเวลานี้ ยังเหลืออยู่อีกสามคน

สามคนนี้นอกจากคนตรงกลางแล้ว อีกสองคนเวลานี้ล้วนบินเข้าหาสวี่ชิง

ดวงตาใต้ชุดคลุมของพวกเขาร้อนแรง และในจังหวะนี้ก็เลือกที่จะระเบิดตัวเองเช่นเดียวกัน

ภูตสมุทรทางนั้นขณะเดียวกันก็ตาแดงก่ำ สิบสองคนที่เหลืออยู่เวลานี้ ต่างฝ่ายต่างลงมือทันที ขณะที่ท่าไม้ตายต่างๆ สำแดงเดช ก็ยังมีของวิเศษอักขระอีกสามชิ้นก่อจิตสังหารพุ่งมาบดขยี้สวี่ชิง

ไม่เพียงเท่านี้ ผู้บำเพ็ญไร้สังกัดเหล่านั้นที่มองสวี่ชิงอยู่รอบๆ ตั้งแต่แรกและยังมีพวกที่มาจากยอดเขาอื่น ดวงตามีประกายร้อนแรง ต่างเข้าประชิดและลงมือ

สวี่ชิงเวลานี้มองไกลๆ เหมือนตกอยู่ท่ามกลางวิกฤตการสังหารอันแรงกล้า พริบตาต่อมา จากการระเบิดตัวเองของผู้บำเพ็ญลัทธินอกวิถีทั้งสามคน จากการลงมือของพวกผู้บำเพ็ญภูตสมุทร จากการระเบิดของของวิเศษอักขระ จุดที่สวี่ชิงอยู่ก็ถูกกลบด้วยเสียงครืนครันและฝุ่นตลบทันที

เพียงแต่ว่ายังไม่ทันที่ฝุ่นควันจะเบาบาง ร่างของสวี่ชิงก็พุ่งออกไปราวสายฟ้าฟาดท่ามกลางฝุ่นควันนี้

เกราะแสงสีเหลืองนอกร่างกายเขาสว่างวาบ นั่นคือพลังจากของวิเศษอักขระใบหนึ่ง

ขาของเขายังมียันต์บินทะยานอยู่อีกแผ่น

ทั้งหมดนี้ ทำให้ความเร็วของสวี่ชิงมากกว่าที่เคยเป็น พุ่งทะยานสังหารออกไปยังกลุ่มคน เขารวดเร็วเป็นอย่างมาก เพียงพริบตาก็มาอยู่ด้านหน้าผู้บำเพ็ญไร้สังกัดที่ถือกริชอยู่คนหนึ่ง กระแทกเข้าไปอย่างรุนแรง

ร่างกายผู้บำเพ็ญคนนี้แหลกเละพร้อมเสียงกรีดร้อง สวี่ชิงยังไม่หยุด หยิบเอากริชที่หลุดจากมืออีกฝ่าย พุ่งทะยานไปยังกลุ่มคนที่อยู่รอบๆ

มุมปากเขายังมีเลือดสดไหลซิบ ชุดนักพรตของสำนักเจ็ดเนตรโลหิตก็ขาดวิ่นไปไม่น้อย แต่ความเย็นชาของดวงตาทั้งสอง ไม่ถูกจางหายเลยแม้แต่น้อย

ทุกที่ที่ผ่าน เสียงกรีดร้องแหลมลั่นออกมา ศพร่วงล้มลงทีร่าง เลือดสดหลั่งรินไปรอบด้าน ทำให้ดินโคลนบนยอดเขานี้คละคลุ้งกลิ่นคาวเลือดรุนแรง

ในนี้ยังมีผู้บำเพ็ญภูตสมุทรอีกหลายคนที่ศีรษะหลุดไปท่ามกลางการไหววูบไปมาของเงาสวี่ชิง

การสังหารที่โหดเหี้ยมนี้ จนถึงคนสุดท้ายของลัทธินอกวิถีรวมไปถึงชายร่างใหญ่ที่มีใบหน้ากลางหน้าอกของกลุ่มภูตสมุทรคนนั้นเขาทั้งสองคนลงมือเข้าสกัดกั้นพร้อมกัน ขัดจังหวะลงมือของสวี่ชิงลงชั่วคราว

สวี่ชิงรับการโจมตีวิชาเวทของสองคนอย่างจัง มือขวาโบกแทงไปยังหน้าอกของผู้บำเพ็ญไร้สังกัดคนหนึ่ง หลังจากซัดไปอย่างหนักหน่วงก็ถอยกลับมาบนหินใหญ่ก้อนหนึ่ง นั่งยองลงเงยหน้าขึ้น หอบหายใจเล็กน้อย มองไปยังผู้บำเพ็ญที่เหลืออยู่รอบๆ อย่างเย็นชา

ลัทธินอกวิถี ยังมีอีกคนหนึ่งที่เป็นหัวหน้า

กลุ่มภูตสมุทรยังมีอีกสี่คน รวมถึงชายร่างใหญ่คนนั้นด้วย

เลือดสดไหลหยดลงมาจากคมกริชของเขาทีละหยด ผสานกับรอยเลือดที่อยู่บนพื้นเข้าด้วยกันจากการกวาดตามองของสวี่ชิง

ยันต์บินทะยานอยู่กับตัว อันที่จริงสวี่ชิงจะบินหนีไปเลยก็ได้ แต่พวกที่อยู่ที่นี่ล้วนมีใจจะสังหารเขาทั้งสิ้น

หลักการของสวี่ชิง ทำให้เขาไม่อยากออกไปทันที แต่คิดจะสังหารแรงคุกคามให้หมดเท่าที่จะทำได้

และศพรอบๆ เวลานี้ก็มีถึงสี่สิบกว่าศพ กลิ่นอายแห่งความตายเข้มข้นไร้ที่ใดเปรียบ โดยเฉพาะผู้บำเพ็ญไร้สังกัดเหล่านั้น แต่ละคนล้วนสั่นเทาไม่กล้าลงมือต่อ พากันถอยหนี

สวี่ชิงขมวดคิ้วเล็กน้อย

ทั้งหมดในนี้ล้วนเคยลงมือกับเขา เขาไม่อยากปล่อยใครไปทั้งสิ้น ต่อให้อีกฝ่ายพลังบำเพ็ญยังไม่สูงพอ แต่สวี่ชิงก็รู้สึกว่าเป็นภัยแฝงเร้นทั้งสิ้น

เมื่อคิดจะเคลื่อนไหว จู่ๆ หัวหน้าที่เหลืออยู่คนนั้นของลัทธินอกวิถีก็เอ่ยขึ้น

“ข้าขอแค่คราบกิ้งก่าชิ้นหนึ่ง ให้ข้า แล้วข้าจะรายงานเรื่องนี้ขึ้นไป เจ้าจะได้รับมิตรภาพจากลัทธินอกวิถีของข้า!”

บทที่ 92 เลือดย้อมเกาะกิ้งก่าทะเล 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา