บทที่ 988 ฝูเสียแหลกสลาย
………………..
หลังจากนั้นสองวัน
ในแผ่นดินใหญ่หมู่เกาะใต้ที่อยู่ติดทะเลเหมือนกับแผ่นดินใหญ่คลื่นศักดิ์สิทธิ์ ในเทือกเขารกชัฏแห่งหนึ่ง ฝูเสียที่รูปลักษณ์เปลี่ยนแปลงอีกครั้ง หน้าตาเหมือนต่างเผ่ากำลังเร่งเดินทาง
สองวันนี้ เขาซ่อนอำพรางตัวมาตลอด เริ่มจากใต้ทะเลมุ่งหน้าไปยังมหาสมุทรนอก
สำหรับเขา ในเมื่อแดนตะวันออกแห่งแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ล้วนกำลังตามหาสวี่ชิง เช่นนั้นตนไปยังมหาสมุทรนอกก็น่าจะปลอดภัยกว่ามาก
แม้อันตรายที่มหาสมุทรนอกจะมากมาย เขาเองก็ไม่กล้าบุ่มบ่ามเหยียบย่างเข้าไป แต่เทียบกันแล้วเหมาะที่จะซ่อนอำพราง
เพียงแต่ตัวเลือกนี้ หลังจากที่เขาสัมผัสได้ว่ามีผนึกไร้รูปร่างทางหนึ่งสกัดกั้นมหาสมุทรนอกและมหาสมุทรในก็จำต้องล้มเลิก
ผนึกนี้มาจากโองการของเผ่ามนุษย์และเผ่านภาคิมหันต์ ด้วยพลังอำนาจเทพที่อยู่เหนือกฎเกณฑ์ เกิดเป็นผนึกจากวาจา
ทันทีสัมผัส การซ่อนอำพรางของเขาก็ยากที่จะรักษาสมดุล
หลังจากจ้องสวี่ชิงอยู่นาน ในใจของฝูเสียก็ยิ่งเคร่งเครียด
สุดท้ายเขาก็ปรับเปลี่ยนทิศทาง
เดิมวางแผนว่าจะหาที่ซ่อนตัวต่อไปในใต้ทะเล แต่สองวันนี้ เขาสัมผัสได้ว่าจำนวนของจิตเทพใต้ทะเลเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลทุกชั่วขณะ
มากขึ้นเรื่อยๆ ถี่ขึ้นเรื่อยๆ
เหมือนว่าสิ่งมีชีวิตคุณสมบัติเทพทั้งหมดในทะเลล้วนเข้าร่วมการตามหานี้
แม้แต่น้ำทะเลก็ยังทำให้เขารู้สึกแปลกประหลาดไปเล็กน้อย เหมือนว่ากระแสใต้น้ำนอกร่างของตนเพิ่มมากขึ้นอย่างแปลกประหลาด
“โดยเฉพาะวิหคเพลิงสวรรค์ตัวนั้นคอยสัมผัสรับรู้อยู่ตลอดเวลา หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ของวิเศษมหาจักรพรรดิก็ใกล้จะทนต่อไปไม่ไหวแล้ว…จะต้องไปจากพื้นที่บริเวณ!”
แต่ติดที่ความกดดันและความรู้สึกอันตรายที่เพิ่มขึ้นไม่หยุด ฝูเสียหลังจากที่ล้มเลิกความคิดที่จะมุ่งหน้าไปยังมหาสมุทรนอก ทั้งล้มเลิกการซ่อนตัวอยู่ในมาหสมุทรใน จึงต้องมายังแผ่นดินใหญ่หมู่เกาะใต้ที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ของเขตปกครองผนึกสมุทร
พื้นที่แห่งนี้แทบจะไม่มีขั้วอำนาจเผ่ามนุษย์ ควบคุมดูแลโดยเผ่าพันธุ์ระดับกลางเจ็ดเผ่า โดยปกติแล้วติดต่อกับโลกภายนอกน้อยมาก ในมุมหนึ่งก็นับว่าเป็นดินแดนที่สกัดกั้นกับโลกแห่งหนึ่ง
อีกทั้งภูมิประเทศในแผ่นดินใหญ่นี้มีเทือกเขาเป็นหลัก พื้นที่ริมชายแดนเป็นทะเลทรายสุดลูกหูลูกตา
เพียงแต่ดินแดนแห่งนี้ดูเหมือนเหมาะที่จะซ่อนตัว แต่ก็เป็นเพราะเหตุนี้กลับดึงดูดสายตาของคนมากกว่าเดิม
ดังนั้นจึงกลายเป็นตัวเลือกภายใต้ความอับจนหนทางของฝูเสีย
“แต่ว่า ที่นี่แม้จะเป็นดินแดนตะวันออก ทว่ากลับไม่ใช่ดินแดนที่ดูแลควบคุมโดยเผ่ามนุษย์โดยตรง…”
มาพร้อมด้วยความคิดเช่นนี้ ฝูเสียที่เหยียบย่างเข้ามาในแผ่นดินใหญ่แห่งนี้ ตลอดทางมาเปลี่ยนรูปลักษณ์ไปหลายครั้ง ตัดร่องรอยและผลกรรมเวรทุกอย่างของตัวเองอย่างระมัดระวัง ทะยานไปในขุนเขารกชัฎอย่างระมัดระวัง
ขณะเดียวกันเขาก็หลอมเจดีย์ผุพังอยู่ตลอดเวลา ลองหลอมสวี่ชิงไปในร่างด้วยให้เร็วที่สุด
เพียงแต่พลังของเจดีย์ผุพังอัศจรรย์นัก แรงต้านทานของฟองอากาศคงอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นขั้นตอนการหลอมช้าเป็นอย่างมาก
นี่ยิ่งเพิ่มความร้อนรนเร่งรีบให้กับฝูเสีย
สิ่งที่ทำให้เขายิ่งหงุดหงิดขึ้นไปอีกคือสวี่ชิงที่อยู่ในเจดีย์ผุพัง
คำพูดก่อนหน้านี้ของตนถูกอีกฝ่ายจับข้อมูลบางอย่างได้ ดังนั้นในหลายวันนี้ การต่อต้านของสวี่ชิงยิ่งรุนแรงขึ้น ประเดี๋ยวๆ ก็ส่งจิตเทพบางอย่างออกมา
แม้จิตเทพเหล่านี้เขาจะตัดทิ้งทั้งหมด ไม่อาจส่งออกไปข้างนอกได้ แต่ดังมาในจิตใจของเขาก็ทำให้เขาค่อยๆ เครียดขึ้นมาได้เหมือนกัน
“คำถามครั้งที่แล้ว เจ้าเลือกที่จะไม่ตอบ ท่าทางแดนศักดิ์สิทธิ์บ่อกำเนิดกาลกิณีที่เจ้าอยู่เกิดปัญหาแล้วจริงๆ”
สวี่ชิงขัดสมาธินั่งสมาธิ ตอนนี้อาการบาดเจ็บฟื้นฟูไปเกือบครึ่งแล้ว ส่งจิตเทพออกมา
ไม่ได้ตอบกลับ
“หรือบางที…อาจจะไม่มีอยู่แล้ว”
สวี่ชิงสีหน้าสงบนิ่ง ภายใต้การชักนำจากความเป็นเทพ เขามีเหตุผลเป็นอย่างมาก ดังนั้นต่อให้นิสัยไม่ชอบพูดอะไรมาก แต่เขาต้องการปฏิกิริยาของเจาเหนือหัวผู้นี้มาวิเคราะห์ข่าวของโลกภายนอก
“เช่นนั้นเจ้าในตอนนี้น่าจะกำลังหนีอยู่กระมัง หลบหนีการไล่ล่าสังหารจากเผ่ามนุษย์ หลบซ่อนการค้นหาจากขั้วอำนาจฝ่ายต่างๆ”
สวี่ชิงเอ่ยต่อไป
แต่ฝูเสียก็ไม่ใช่คนโง่ ไม่ว่าสวี่ชิงจะพูดอะไร ก็ไม่ตอบกลับแม้แต่น้อย
แต่ความเคร่งเครียดในใจมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว
และดีที่การวิเคราะห์ต่อแผ่นดินใหญ่หมู่เกาะใต้ของเขาจะถูกต้องอยู่บ้าง หลังจากหลายวันที่เข้ามาในแผ่นดินใหญ่หมู่เกาะใต้แห่งนี้ เขาสัมผัสถึงการค้นหาจากจิตเทพที่เหมือนอย่างในมหาสมุทรในไม่ได้
ดังนั้นจึงชั่งน้ำหนัก ฝูเสียเลือกถ้ำแห่งหนึ่ง นั่งขัดสมาธิอยู่ในนั้นเตรียมซ่อนตัวสักช่วงหนึ่ง หลอมเจดีย์นี้อย่างสุดกำลัง
แต่ความสุขสงบนี้ก็เป็นเพียงแต่ไม่กี่ชั่วยามเท่านั้น
ในยามที่ม่านราตรีปกคลุมลงมา นอกถ้ำที่ฝูเสียอยู่ ฟ้าดินคำรามเลื่อนลั่น จิตเทพแข็งแกร่งมากมายกวาดมาเป็นระลอกๆ
นั่นเป็นสัมผัสรับรู้จากผู้แข็งแกร่งที่อยู่ที่แผ่นดินใหญ่แห่งนี้
ฝูเสียลืมดวงตาทั้งสองขึ้นมาทันที ระมัดระวังสุดตัว
จวบจนกระทั่งหลังจากนั้นครึ่งชั่วยาม จิตเทพเหล่านี้ก็สลายไป
แต่ยังไม่ทันที่ฝูเสียจะได้โล่งอก กลับมีเจตจำนงที่น่ากลัวยิ่งกว่า มาพร้อมด้วยพลังอำนาจ พุ่งมาอย่างแข็งแกร่งทรงพลัง
พื้นที่กินไปทั่วทุกสารทิศ บริเวณที่ลงมาเยือน ท้องฟ้าเดือดพล่าน แผ่นดินสั่นไหวว ขุนเขาทุกลูกล้วนสั่นคลอน
นั่นคือเทพเจ้า!
ฝูเสียหน้าเปลี่ยนสี เอากรรไกรเล่มนั้นออกมาทันที อำนาจลบเลือนแผ่ลาม ในขณะที่เพิ่มการซ่อนอำพราง นอกถ้ำที่เขาอยู่ ลมแรงพัดกรรโชก
ในสายลมมีเสียงแปลกประหลาดดังเป็นระลอกขึ้นลง
“สวี่ชิง…สวี่ชิง…สวี่ชิง…”
เสียงแหบแห้ง แฝงด้วยท่วงทำนองที่บอกไม่ถูกบางอย่าง ดังก้องไปทั่วทุกทิศ
นี่คือมีเทพเจ้าสำแดงพลังอำนาจเทพของตัวเอง ใช้ชื่อเรียกขาน
ทุกที่ที่ผ่าน ฟ้าดินเปลี่ยนสี กระบี่ใหญ่ข้างหลังฝูเสียสั่นรุนแรงขึ้น สวี่ชิงที่อยู่ในเจดีย์ผุพัง ดวงตาทั้งสองพลันลืมขึ้นมา
ในตอนนี้เอง ฝูเสียจัดสินใจอย่างเด็ดขาด กัดปลายลิ้นให้เลือดวิถีอันล้ำค่าของตัวเองไหลออกมา แล้วพ่นไปบนกรรไกร
กระไกรสั่นท้านเฮือก สนิมบนนั้นเกิดมากขึ้นกว่าเดิม สุดท้ายจากการตัดครั้งนี้ ก็ลบทุกอย่างไป
นานหลังจากนั้น เสียงค่อยๆ เลือนหายไป
ส่วนสีหน้าของฝูเสียค่อนข้างซีดขาว
เขาไม่กล้าหยุดอยู่ที่นี่ค่อไป หลังจากมั่นใจว่าเทพเจ้าจากไปแล้ว เขาก็เดินออกไปทันที กรรไกรยังไม่ได้เก็บลงไป ยังคงรักษาพลังอำนาจลบเลือนเอาไว้ เดินทางต่อไปอย่างรวดเร็ว
เช่นนี้เอง ผ่านไปอีกสองวัน เขาข้ามผ่านภูเขานับไม่ถ้วน เปลี่ยนทิศทางหลายครั้ง สุดท้ายก็เข้าไปในทะเลทรายแห่งหนึ่ง
ในสองวันนี้ ฝูเสียพูดได้ว่าอกสั่นขวัญแขวน เจอกับจิตเทพเจ้าหลายครั้ง หากไม่ใช่ว่าเขามีกรรไกรมหาจักรพรรดิ เกรงว่าคงถูกพบไปไม่รู้ต่อกี่ครั้งแล้ว
ต่อให้มีกรรไรมหาจักรพรรดิ แต่ใช้งานถี่ขนาดนี้ก็ผลาญพลังไปอย่างมหาศาล
โดยเฉพาะเขาพ่นเลือดวิถีออกมาหลายครั้ง นี่ทำให้พลังบำเพ็ญที่เพิ่งเลื่อนขั้นขึ้นมาของเขาเกิดความไม่เสถียรขึ้นมาเล็กน้อย
แต่เขาก็อับจนหนทางแล้ว
ตอนนี้ความกดดันในใจมาถึงระดับรุนแรงเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นในทะเลทราย ฝูเสียร่างเพียงไหววูบก็เปลี่ยนเป็นเม็ดทราย เคลื่อนไปข้างหน้าตามสายลม
วันแรก ทุกอย่างเป็นปกติ


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา