หลังจากออกไพ่กันอยู่หลายรอบ เด็กสาวที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับเซิ่งอันหรานก็เดาเจตนาของเธอได้อย่างรวดเร็ว
“ไพ่เลขสอง "
เซิ่งอันหรานมองดูไพ่ที่เหลือเพียงใบเดียวที่อยู่ในมือของตัวเอง ด้วยแววตาที่เป็นประกาย
แต่จู่ๆก็มีเสียงทุ้มต่ำดังขึ้น “โจ๊กเกอร์”
อวี้หนานเฉิงมองไปที่เซิ่งอันหรานด้วยสีหน้าที่สงบนิ่ง "ถึงตาคุณแล้ว"
เซิ่งอันหรานทำหน้ามุ่ย เธอรู้สึกไม่สบอารมณ์เอามากๆ และพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แข็งทื่อ "ผ่าน"
ไพ่เลขสองหนึ่งใบ เขากลับใช้โจ๊กเกอร์เกทับ แสดงว่าเขารู้ว่าเธอกำลังถือไพ่อะไรอยู่ในมือ จงใจชัด ๆ !
ในอีกสองรอบถัดมา ก็ยังคงอยู่ในสถานการณ์เช่นเดิม ไพ่ดีๆที่อยู่ในมือของเซิ่งอันหราน แต่เธอกลับไม่ได้ออกไพ่เลยสักใบ เพราะถูกอวี้หนานเฉิงตัดหน้าไปเสียก่อน
“เย้ !เราชนะอีกแล้ว! คุณลุงสุดยอดมาก”
เด็กสาวที่อยู่ทีมเดียวกันกับอวี้หนานเฉิง อายุน่าจะราวๆสิบแปดถึงสิบเก้าปี และเธอก็น่าจะเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย เธอเรียกอวี้หนานเฉิงว่า " คุณลุง คุณลุง" อยู่บ่อยครั้งด้วยความกระตือรือร้น ส่วนเด็กสาวอีกคน แม้ว่าเธอจะอยู่ทีมเดียวกันกับเซิ่งอันหรานแต่สายตาของเธอก็จับจ้องไปที่อวี้หนานเฉิงอยู่ตลอด
นอกจากรอบแรกที่พวกเธอเล่นเกมกันอย่างจริงจังแล้ว รอบหลังๆเด็กสาวทั้งสองต่างก็ผลัดกันถามอายุ เรื่องการงานของอวี้หนานเฉิง ไปจนถึงเรื่องบ้านและครอบครัว
รอบถัดมา เซิ่งอันหรานก็ถึงกับพูดไม่ออก เธอใช้มือผลักไพ่ออกไป “เอาล่ะๆ ไม่เล่นแล้ว”
เด็กสาวสองคนไม่ยอมแพ้ พวกเธอรีบเข้าไปล้อมอวี้หนานเฉิงและถามเขาต่อไปว่า
“คุณลุง คุณอายุสามสิบเอ็ดปีแล้วเหรอ ? แล้วคุณแต่งงานหรือยัง ?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เซิ่งอันหรานก็ใจสั่นขึ้นมา เธอรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย
เซิ่งอันหรานนั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้ หรือว่าเด็กสาวสองคนนั้นไม่ได้มีคิดเลยว่าเธอเป็นลูกสาว หรือเป็นภรรยาของอวี้หนานเฉิงอะไรแบบนั้น ? หรือพวกเธอจงใจทำให้เธอเป็นเพียงอากาศธาตุที่ไม่มีตัวตนอย่างนั้นเหรอ ?
ด้วยความโกรธ เธออดไม่ได้ที่จะเงี่ยหูฟังคำตอบของอวี้หนานเฉิง
อวี้หนานเฉิงเอนหลังพิงกับเก้าอี้ และตอบคำถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย
"ปีนี้ลูกชายของผม อายุห้าขวบแล้ว"
เมื่อได้ยินดังนั้น เด็กสาวทั้งสองสาวก็ถึงกับตกตะลึง
เดิมทีเซิ่งอันหรานคิดว่า พออวี้หนานเฉิงตอบออกไปว่าเขามีลูกแล้ว เด็กสาวทั้งสองก็น่าจะหลบห่างออกจากเขา แต่ที่ไหนได้พวกเธอไม่ได้มีความคิดเช่นนั้นเลย ดวงตาของพวกเธอเป็นประกายขึ้น แต่พวกเธอกลับลากเก้าอีกเข้าไปนั่งใกล้ๆกับอวี้หนานเฉิงมากกว่าเดิมเสียอีก
“คุณลุงมีลูกแล้วเหรอ ! คุณลุง ขอดูรูปลูกของคุณหน่อยได้มั้ยคะ ?”
“คุณลุงหล่อขนาดนี้ ลูกชายของคุณลุงจะต้องน่ารักมากแน่ๆ ”
เซิ่งอันหรานกำหมัดแน่น และหลังจากนั้นไม่กี่วินาที เธอก็หยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าของเธอ
“รูปอยู่นี่ เดี๋ยวฉันจะเอาให้พวกเธอดูเอง”
ใบหน้าของเด็กสาวทั้งสองดูเปลี่ยนไปเล็กน้อย หนึ่งในนั้นถามขึ้นว่า
“พี่สาว พวกคุณไม่ได้เป็นคนบอกเองหรือว่า คุณกับคุณลุงเป็นเพียงแค่เจ้านายกับลูกน้อง แล้วทำไมคุณถึงได้มีรูปลูกชายของเขาล่ะ ?”
เซิ่งอันหรานขมวดคิ้ว“แล้วใครบอกว่าลูกน้องจะมีรูปลูกชายของเจ้านายไม่ได้ล่ะ ?ฉันไม่ได้มีเพียงแค่รูปถ่ายลูกชายของเขาเท่านั้นนะ แต่ฉันยังมีรูปถ่ายที่เราถ่ายด้วยกันด้วย ”
เซิ่งอันหรานพูดขึ้น พลางเปิดรูปถ่ายของพวกเขาทั้งสี่คนที่ถ่ายด้วยกันในเกาะมัลดีฟส์ให้เด็กสาวทั้งสองดู
เด็กสาวทั้งสองตกตะลึง
“นี่พวกคุณเป็นสามีภรรยากันอย่างนั้นเหรอ? ” เด็กสาวยิ้มอย่างเจื่อนๆ “ฉันคิดพวกคุณเป็นเพียงแค่เจ้านายกับลูกน้องเท่านั้น เพราะเมื่อกี้ฉันได้ยินคุณเรียกเขาว่า ท่านประธานอวี้ ”
เซิ่งอันหรานเหลือบไปเห็นอวี้หนานเฉิงที่กำลังนั่งดูพวกเธอคุยกันด้วยท่าทางที่สบายใจ หลังจากเธอก็หันกลับไปสนทนากับเด็กสาวทั้งสองคนต่อ
“พวกเธอยังเรียนไม่จบมหาวิทยาลัยล่ะสินะ ?”
เด็กสาวสองคนพยักหน้า
“รอให้พวกเธอเรียนจบก่อน แล้วพวกเธอจะรู้ว่า ชีวิตของการทำงานนั้นมีเรื่องที่ซับซ้อนกว่าตอนที่พวกเธอเรียนมหาวิทยาลัยมาก บางเรื่องไม่ใช่พวกเธอคิดว่าควรเป็นอย่างไรแล้วจะเป็นอย่างนั้นเสมอไป เพราะบางครั้ง อัตลักษณ์หลายอย่างก็แตกต่างจากความเป็นตัวตนของตัวเอง”
"ห๊า?"
“เขากับฉันไม่ใช่สามีภรรยากันหรอก” เซิ่งอันหรานจงใจพูดขึ้น
เด็กสาวทั้งสองต่างมองหน้ากัน ๆ ราวกับว่าพวกเธอเข้าใจอะไรบางอย่างแล้ว ดังนั้นพวกเธอจึงค่อยๆขยับเก้าอี้และถอยเก้าอี้ออกไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน