“คุณชายน้อย ท้องไส้ไม่ค่อยดีมาตั้งแต่เด็ก แล้วจะทานอาหารที่ไม่สะอาดแบบนั้นได้ยังไง ?คุณเซิ่ง ทำไมคุณถึงได้เป็นคนไร้ความรับผิดชอบแบบนี้ ? แล้วอย่างงี้ผมจะไปอธิบายกับคุณชายได้อย่างไร ?”
เมื่อต้องเผชิญกับคำต่อว่าจากพ่อบ้าน เซิ่งอันหรานก็ไม่สามารถอธิบายหรือแก้ตัวได้เลย ตอนนี้เธอรู้สึกสับสนและกังวลใจเป็นอย่างมาก
“ไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ เดี๋ยวเรื่องนี้ฉันจะไปขอโทษประธานอวี้ด้วยตัวเอง เป็นเพราะฉันไม่ระวังเอง”
เมื่อเห็นเธอน้อมรับการต่อว่าจากตนเองโดยไม่โต้เถียง พ่อบ้านก็ไม่รู้จะพูดกับเธออะไรต่อ เขาถอนหายใจอย่างแรง จากนั้นก็เดินออกไปทางด้านข้างเพื่อโทรแจ้งอวี้หนานเฉิง
หลังจากที่แผนกฉุกเฉินได้ทำการตรวจเสร็จแล้ว ก็ส่งตัวของอวี้จิ่งซีไปสังเกตอาการที่ห้องผู้ป่วยใน นอกจากอาการอาหารเป็นพิษแล้ว สาเหตุอื่นยังคงต้องรอผลการตรวจสอบทางห้องปฏิบัติการ หลังจากให้น้ำเกลือ สีหน้าของอวี้จิ่งซีก็ดีขึ้นมาก เด็กน้อยนอนหลับไปแล้ว
เซิ่งอันหรานอยู่กับอวี้จิ่งซีที่โรงพยาบาลตลอดเวลา เมื่อเห็นดูจิ่งซีนอนหลับแบบนี้ ในใจของเธอก็เอาแต่ตำหนิตนเอง
แม่ว่าจะมีโอกาสได้อยู่เขาไม่มาก แต่ก็ดันมาเกิดเรื่องแบบนี้เสียได้
เธอดูไม่เหมาะสมกับการที่มีสถานะเป็นแม่คนซะเลย หากว่าวันหนึ่งจิ่งซีรู้ว่าเธอเป็นแม่แท้ๆ ของเขาล่ะก็ เขาคงจะเอาตำหนิเธอแน่
หลังจากที่ไม่ได้นอนตลอดทั้งคืน ก่อนเวลารุ่งสางของวันรุ่งขึ้น เซิ่งอันหรานกลับบ้านเพื่อทำอาหารเช้า และหลังจากกำชับเซิ่งเสี่ยวซิงว่าอย่าลืมทานอาหารและอยู่บ้านคนเดียวดีๆ เซิ่งอันหรานก็หิ้วกล่องเก็บร้อนไปที่โรงพยาบาล
ทันทีที่เธอเดินมาถึงประตูหน้าห้องผู้ป่วย เสียงที่คุ้นเคยดังออกมาจากทางด้านใน เซิ่งอันหรานชะงักไปชั่วครู่ มือของเธอกำลูกบิดประตูไม่ขยับ
“ทันทีที่ฉันได้ยินว่าจิ่งซีเข้าโรงพยาบาล ฉันก็รีบวางงานทุกสิ่งทุกอย่างและมาที่นี่ ฉันยังนำอาหารเช้ามาให้จิ่งซีด้วย ฉันให้แม่บ้านเป็นคนเตรียมอาหารเช้าและกำกับด้วยตัวเอง รับรองได้ว่าสะอาดปลอดภัยอย่างแน่นอน "
เสียงพูดของเกาหย่าเหวินดูอ่อนโยนมากจนทำให้คนที่ได้ฟังรู้สึกขนลุก
จากนั้นไม่นาน เซิ่งอันหรานก็ได้ยินอวี้หนานเฉิง ตอบกลับอย่างเฉยเมย
"ลำบากคุณแล้ว"
“มาเถอะจิ่งซี เดี๋ยวฉันจะเป็นคนป้อนให้เอง”
จากประตูหน้าห้องผู้ป่วย สามารถมองเห็นทั้งสองคนได้อย่างชัดเจน อวี้หนานเฉิงและเกาหย่าเหวินนั่งอยู่ข้างเตียงของอวี้จิ่งซีกันคนล่ะฝั่ง เกาหย่าเหวิน ถือชามโจ๊กอยู่ในมือและกำลังป้อนอาหารให้อวี้จิ่งซีอย่างระมัดระวัง
เซิ่งอันหรานยืนที่หน้าประตูอยู่ครู่หนึ่ง เธอเกิดความว่างเปล่าขึ้นมาในจิตใจ หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็หันหลังกลับและเดินออกไป
ในห้องพักผู้ป่วย อวี้จิ่งซีพยายามทานโจ๊ก แต่ทานได้เพียงสองคำ ก็ส่ายหัว
หางตาของเกาหย่าเหวินเหลือบมองไปที่อวี้หนานเฉิง ก่อนจะกล่าวขึ้นว่า "น่าจะเพราะท้องยังรู้สึกไม่ดี อย่างนั้นวางไว้ตรงนี้ก่อนนะ หากว่าจิ่งซีหิ้วค่อยบอกป้านะจ๊ะ เดี๋ยวป้าจะเป็นคนป้อนเอง "
อวี้จิ่งซีหดตัวด้วยความกลัว เขารู้สึกกลัวเธอ เขายื่นมือออกไปผ่านใต้ผ้าห่มและกระตุกแขนเสื้อของอวี้หนานเฉิง
อวี้หนานเฉิงจับมือเขา “เกิดอะไรขึ้น? มีตรงไหนไม่สบายอีกหรือเปล่า ? ”
อวี้จิ่งซีส่ายหัวและมองไปที่ประตูหน้าห้อง
“เธอไม่มาหรอก”
อวี้หนานเฉิงรู้ว่าจิ่งซีกำลังคิดอะไรอยู่ เขาขมวดคิ้วและตอบออกมาอย่างไม่แยแส
ไม่ว่าจะเป็นเพราะอาหารเป็นพิษหรือไม่ว่าเพราะสาเหตุใดยังไงก็จะต้องคุยกัน แต่ในตอนเช้าที่เขามาถึง เขากลับเห็นอวี้จิ่งซีนอนหลับอยู่บนเตียงของโรงพยาบาลแค่คนเดียว อีกทั้งใบหน้าของเด็กน้อยยังดูอ่อนล้า ไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อนจิ่งซีเลย มันทำให้อวี้หนานเฉินรู้สึกหงุดหงิดใจ
เพราะจิ่งซีไม่ใช่เธอลูกของเธอ เธอจึงปฏิบัติกับเขาเช่นนี้ ถ้าหากว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงตอนนี้เป็นลูกสาวของเธอเองบ้างล่ะ เกรงว่าเธอคงจะอยู่เฝ้าไม่ห่าง เธอจะยอมปล่อยให้ลูกของเธอนอนอยู่โรงพยาบาลคนเดียวแบบนี้ไหม ?
ในขณะที่เขากำลังคิดอยู่นั้น เสียงของเกาหย่าเหวินก็ดังขึ้น
“ฉันได้ยินมาว่า เมื่อคืนนี้เซิ่งอันหรานพาจิ่งซีน้อยไปทานอาหารที่ตลาดกลางคืน ที่นั่นมีแต่ของปิ้งย่าง ของทอดและไม่ถูกสุขอนามัย ทำไมเธอถึงได้พาเด็กๆไปทานอาหารในสถานที่แบบนั้นนะ ? ”
เรื่องนี้อวี้หนานเฉิงได้ยินมาจากพ่อบ้านแล้ว และพอเขามาได้ยินอีกครั้ง มันยิ่งทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดเข้าไปใหญ่ มองจากหว่างคิ้วของเขาเห็นได้ชัดเจนว่าเขารู้สึกไม่พอใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน