ได้ยินคำพูดนี้ก็โกรธมาก
อวี้หนานเฉิงไม่เข้าใจ ก็ถามตรงไปตรงมา
“ใครทำให้เธอโกรธแล้ว?”
ไม่พูดก็ไม่เป็นไร เมื่อพูดเรื่องนี้ เซิ่งอันหรานก็รู้สึกว่าอารมณ์ร้อนพุ่งขึ้นมาอยู่บนยอดศีรษะ“ใครทำให้ฉันโกรธ ใคร…”
คำพูดมาอยู่ที่ปากแล้ว เห็นสีหน้าไร้อารมณ์ของอวี้หนานเฉิง ชั่วพริบตาเดียวก็ถูกกลืนลงไป กัดฟันและพูด
“ไม่มีใคร ฉันเหนื่อยแล้ว”
“ถ้าเหนื่อยงั้นคืนนี้ก็ไม่ต้องย้ายกลับไปก่อน พรุ่งนี้เช้าฉันไปส่งเธอ”
เซิ่งอันหรานรู้สึกหายใจไม่ออก นำเสื้อผ้าพร้อมไม้แขวนเสื้อโยนเข้าไปในกระเป๋าเดินทาง“ไม่ต้อง ฉันต้องกลับบ้านไปดูแลลูก จะกลับตอนนี้”
“ผมไปส่งคุณ”
“ฉันมีรถ”
สองวันนี้เธอยืมรถของถานซูจิ้ง พอดีที่คืนนี้เธอสามารถขับกลับบ้าน
พูดประโยคนี้จบ กระเป๋าเดินทางเธอก็ปิดลง ลากออกมาก็ไปแล้ว การกระทำเรียบร้อยและครบถ้วน เสียงล้อรถเข็นที่หมุนอยู่บนทางเดินยิ่งไกล
ออกไป อวี้หนานเฉิงยืนอยู่หน้าประตู มองแผ่นหลังที่น่ากลัวด้วยความไม่เข้าใจ แค่รู้สึกพิลึก ยากจะเข้าใจ
——
“ดังนั้นเขาก็ให้เธอไปแล้ว?ดึกขนาดนี้ ไม่แม้แต่จะไปส่งเธอ”
“พูดแล้ว ฉันไม่ให้เขาไปส่ง”
“เธอไม่ให้เขาไปส่งเขาก็ไม่ไป!”
กลับมาถึงบ้าน ถานซูจิ้งมาร์ก์หน้าฟังเซิ่งอันหรานพูดแขวะเรื่องทั้งหมดให้ฟัง ก็โกรธทันที ตบโต๊ะและพูด
“เป็นไปอย่างที่คิดผู้ชายไว้ใจได้ แม่หมูก็คงปืนต้นไม้ได้ เกาจ้านคนสารเลวนั้น เพื่อนที่ใส่กางเกงตัวเดียวกับเขาสามารถจะเป็นผู้ชายที่ดีได้ยัง
ไง?อวี้หนานเฉิงฉันยังมองพลาดไป”
“ปัญหาไม่ใช่เขามาส่งหรือไม่มาส่ง แต่เขาพาจิ่งซีไปหาหมอที่ต่างประเทศ เพราะอะไรถึงพาเกาหย่าเหวินไปเป็นเพื่อน?เขาไม่ได้บอกฉันสักคำ
บอกฉันสักคำจะเป็นยังไงเหรอ?ฉันไม่ใช่คนใจแคบ ถ้าหากเรื่องนี้จำเป็นต้องให้แฟนเก่ามาช่วยฉันยังจะขัดขวางไหม?”
จมูกของเซิ่งอันหรานแทบจะพ่นไฟออกมา
“นี้คือเธอเห็นแล้ว ถ้าหากเธอไม่เห็น ยังไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง!”ถานซูจิ้งคือเอาน้ำไปราดกองไฟ “เธอไม่ใช่พูดว่าเห็นเกาหย่าเหวินช่วยเขาจัดการคอเสื้อไหม?เป็นเรื่องที่อบอุ่นขนาดนี้เลย!นี้ขนาดอยู่หน้าประตูโรงแรม นี้ไม่ใช่ประกาศสงครามอย่างโจ่งแจ้งไหม?”
“ตอนนั้นพวกเขาไม่รู้ว่าฉันอยู่”
“นั่นก็คือประกาศสงคราม แผนกต้อนรับก็เห็นเถอะ ผู้ช่วยของอวี้หนานเฉิงรู้แน่นอน ล้วนปิดบังเธอ เกินไปแล้ว นี้ไม่ใช่ทำให้อับอายขายหน้าไหม”
“ไม่ได้รุนแรงขนาดนั้นหรอก!”เซิ่งอันหรานลังเลเล็กน้อย รู้สึกว่าถานซูจิ้งนำเรื่องนี้คิดรุนแรงเกินไปแล้ว
“เธอฟังฉัน เวลาแบบนี้เธอห้ามสนใจเขาเด็ดขาด ผู้ชายก็คือต่ำช้า ให้เขาตัวเองพิจารณาตัวเองสองวัน ให้เขาตัวเองเป็นฝ่ายยอมรับผิด”
“ยอมรับผิด?”
เซิ่งอันหรานกระตุกมุมปาก“อวี้หนานเฉิงไม่ใช่เกาจ้านของเธอ ฉันคิดว่าห่างไกลกันมาก”
ถานซูจิ้งไม่คิดว่าเป็นเช่นนั้น จ้องถมึงทึงและพูด
“ผู้ชายล้วนถูกฝึกซ้อมออกมาเธอฟังฉันถูกต้องแน่นอน!”
ทางด้านนี้เวลาที่เพื่อนสนิทสงสัยเบาะแสว่าผู้ชายจะมีชู้ก็พูดคุยอย่างคึกคักจิตใจกระปรี้กระเปร่า อีกด้านหนึ่งพวกผู้ชายกำลังอยู่ที่ร้านเหล้า
อวี้หนานเฉิงนำเรื่องที่เซิ่งอันหรานไม่พอใจพูดรวบรัดออกไป
“พูดจบแล้ว?”เกาจ้านวางมือ“นี้คือทั้งหมดที่นายว่าเธอโกรธแล้ว ไม่พูดเหตุผลแม้แต่นิดเดียว จะให้ความคิดเห็นนายได้ยังไง”
“บางที ครั้งนี้ฉันกลับมาช้าเกินไปแล้ว”
อวี้หนานเฉิงขมวดคิ้ว สีหน้าสงสัย“นำเรื่องต้อนรับมอบหมายให้เธอทำแค่คนเดียว ดังนั้นจึงไม่มีความสุข”
“ไม่มีทาง”
เกาจ้านส่ายมือ ปฏิเสธความเป็นไปได้นี้โดยตรง“ผู้หญิงชอบให้ผู้ชายมอบหมายงานสำคัญให้ ไม่มีทางจะเป็นเหตุผลนี้ ฉันคิดว่า เหตุผลที่สำคัญที่สุดที่ผู้หญิงโกรธจริงๆก็คือก็แฟนเก่าของแฟน”
“นายคิดมากเกินไปแล้ว”อวี้หนานเฉิงมองเกาจ้าน สีหน้าเรียบเฉย“ไม่มีทาง เรื่องของฉันกับเกาหย่าเหวินอธิบายอย่างชัดเจนแล้ว”
“ยังมีอีกท่านหนึ่ง?”เกาจ้านส่ายแก้วเหล้าในมือไปมา มองอวี้หนานเฉิงอย่างมีความหมายลึกซึ้ง “ท่านนั้นเคยรายงานรึยัง?บางทีบ้านนายอาจจะมีเบาะแสอะไรที่ถูกค้นพบ?”
เอ่ยถึงตรงนี้ สายตาของอวี้หนานเฉิงก็ปรากฏความไม่พอใจ
เกาจ้านไอแห้ง“ถือว่าฉันไม่ได้พูด ในเมื่อล้วนไม่ใช่ งั้นก็มีแค่เหตุผลอื่นแล้ว”
“เหตุผลอะไร?”
“นั่นก็เยอะมาก ทุกวันผู้หญิงจะโกรธหลายครั้งมาก ใครจะไปรู้ว่าเพราะว่าเหตุผลไร้สาระอะไร แต่ว่าพวกเธอทั่วไปก็ง้อง่ายมาก”
“อย่างเช่น?”
“ซื้อของให้ ซื้อกระเป๋า ซื้อเครื่องประดับ ซื้อเสื้อผ้า ซื้อเครื่องสำอาง ซื้ออะไรก็ได้”
“งั้นก็ง่ายมาก”
อวี้หนานเฉิงพยักหน้าและไตร่ตรอง ดื่มเหล้าในแก้วหมดแล้ว วางแก้วเหล้าลงก็ลุกขึ้นยืน “ดึกแล้ว ฉันกลับก่อน”
“หา?”เกาจ้านถลึงตาโต พูดอย่างไม่พอใจ“นี้นายคือเมื่อสำเร็จงานก็สังหารบุคคลสำคัญไหม?ดึกขนาดนี้นายถึงฉันไว้คนเดียวที่นี่?”
“นายยังคิดว่ายามกลางคืนน่าเบื่อ?”อวี้หนานเฉิงกวาดสายตามองเขา“นายไม่ใช่เปิดบาร์เหล้าใหม่เหรอ?ไปดื่มด่ำมาแล้ว?”
“นายอย่าเอ่ยถึงเรื่องนี้”
เอ่ยถึงเรื่องนี้ เกาจ้านก็รู้สึกเจ็บปวดและกลัดกลุ้ม“ก็เป็นเพราะว่าเรื่องนี้ ซูจิ้งทะเลาะกับฉันสองวันแล้ว ถ้าฉันกล้าเข้าไปในบาร์เหล้านั้น เธอก็จะเลิกกับฉันจริงๆ”
“นั้นไม่ใช่ความปรารถนาของนาย?”
“ครั้งนี้ฉันจริงจัง”
“นายก็จริงจังทุกครั้ง”อวี้หนานเฉิงสายตาจริงจัง“แต่ว่าซูจิ้งเป็นเพื่อนของอันหราน ฉันพูดแนะนำนายสุดท้ายอย่าทะเลาะกันจนน่าเกลียด”
“ได้ พูดแล้วนายไม่เชื่อ เป็นเพื่อนกันมาหลายปีก็ยังไม่เชื่อฉัน”เกาจ้านโบกมือ ใบหน้ารังเกียจมองไปทางอวี้หนานเฉิงเหมือนกับไล่แมลงวัน“ไปเถอะ อย่าอยู่ที่นี่แหย่ฉัน”
อวี้หนานเฉิงสีหน้าสงบนิ่ง หยิบเสื้อคลุม ก่อนจะไปก็ตบไหล่ของเขา
“ฉันได้ยินว่ามีคนตามจับถานซูจิ้งเยอะมาก”
เกาจ้านชะงักไปเล็กน้อย รอให้อวี้หนานเฉิงไปแล้วจึงได้สติกลับมา ตะโกนตามหลังอวี้หนานเฉิง
“นี่นายพูดให้ชัดเจน ใครตามจีบเธอ?ทำไมนายถึงรู้ ใช่คนในโรงแรมไหม!มีไอ้คนชั่วที่ไหนสายตาสั้นแย่งคนกับฉัน?หรือว่าผู้ช่วยนาย โจวฟังเจ้าหนุ่มนั่น!”
“……”
เช้าวันต่อมา เซิ่งอันหรานยังนอนหลับอยู่ในห้อง ก็ถูกเสียงดังเกรียวกราวในห้องรับแขกทำให้ตื่นแล้ว
“ว้าว!ลุงอวี้นี้คือของขวัญที่คุณพามาเหรอ?”
เซิ่งเสี่ยวซิงสายตาเป็นประกาย ยืนมองโจวฟังผู้ช่วยของอวี้หนานเฉิงถือถุงกระดาษใบเล็กใบใหญ่อย่างฟุ่มเฟือยเข้ามา
“ประธานอวี้ บนรถยังมีอีก ผมไปหยิบมาก่อน”
เซิ่งอันหรานผมยาวยุ่งเหยิง เปิดประตูห้องนอนเล็กน้อย ก็มองเห็นเซิ่งเสี่ยวซิงถูกช็อกโกแลตหนึ่งกล่องติดสินบนไปแล้ว กำลังโอบกอดรอบคอของอวี้หนานเฉิงและพูดออดอ้อนด้วยท่าทางดูน่ารักสดใส
“ลุงอวี้ คุณคือตั้งใจซื้อของขวัญมาให้หม่าม้าไหม?ทำไมพี่จิ่งซีไม่มา?”
“จิ่งซีอยู่บ้านกำลังปรับตัวกับความแตกต่างของเวลา”อวี้หนานเฉิงสายตามองไปทางประตูห้องนอน“หม่าม้าหนูยังนอนหลับอยู่?”
“อืม หนูไปเรียกหม่าม้าไปซื้อกับข้าว ลุงอวี้อยู่กินข้าวด้วยกันเถอะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน