“ถึงแล้ว ฉันอยู่ในลานจอดรถ กำลังหาที่จอดรถอยู่ อย่ามากังวลเรื่องพวกเราเลย ไปเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับคอนเสิร์ตเถอะ”
“พี่สาว ตรงนั้นวางอยู่ ” เสียงของเทียนเอินดังขึ้นขัดจังหวะเซิ่งอันหราน
“จริงเหรอ ? ตรงไหน ?”
หลังจากมองเห็นมือของเทียนเอินชี้ไปยังที่จอดรถที่ว่างอยู่ เซิ่งอันหรานก็รีบหมุนพวงมาลัยกลับ “เส้าซือ ฉันไม่คุยกับนายแล้วนะ ถ้าจอดรถเสร็จแล้วฉันจะโทรหาผู้ช่วยของนายเอง”
“ตกลง” เสียงของเส้าซือดังออกมาจากโทรศัพท์
กว่าจะหาที่จอดรถได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย หลังจากจอดรถที่ยืมมาจากถานซูจิ้งเสร็จ เทียนเอินก็จับมือของเซิ่งเสี่ยวซิงและเดินตามเซิ่งอันหรานไปที่หลังเวที ผู้ช่วยของเส้าซือยืนรออยู่ที่ประตูนานแล้ว
ผู้ช่วยถอนหายใจทันที เมื่อเห็นเซิ่งอันหราน จากนั้นก็พาเธอไปยังห้องแต่งตัวและพูดขึ้นว่า
“พี่อันหราน ในที่สุดคุณก็มาถึงสักที ซือเส้าเร่งเร้าฉันกว่าเวลาสองชั่วโมงแล้ว เขาให้ฉันมารอคุณที่นี่ตั้งแต่ตอนเที่ยง เพราะกลัวว่าคุณจะหาสถานที่ไม่เจอ”
เซิ่งอันหราน ทำอะไรไม่ถูก
“จะหาไม่เจอได้ยังไง เส้าซือน้อยประเมินฉันต่ำเกินไปแล้วนะ คอนเสิร์ตครั้งแรกยังดูเหลวไหลแบบนี้ ครั้งต่อไปใครจะกล้ามาล่ะ ”
ขณะที่พูด ช่างเทคนิคทั้งสองถืออุปกรณ์ประกอบฉากเดินผ่านหน้าของเธอราวกับสายลม อีกนิดเดียวก็เกือบจะชนเข้ากับหน้าเซิ่งอันหราน แต่โชคดีที่เทียนเอินดึงเธอหลบออกมาได้ทันเวลา
ผู้ช่วยตกใจสีหน้าซีดเซียว และตะโกนใส่ช่างเทคนิคทั้งสองคนว่า
“พวกคุณทำอะไรน่ะ ? ดูทางเดินหน่อยสิ เดินเกือบจะเดินชนคนนี้ได้ยังไง”
"ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร"
เซิ่งอันหรานไม่ถือสา
ที่โถงทางเดินมีคนเดินสวนไปมาอย่างแน่นหนา ทุกคนกำลังเตรียมงานครั้งสุดท้ายสำหรับการเริ่มต้นคอนเสิร์ต คนเยอะ เรื่องที่จะต้องทำก็เยอะ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นที่จะต้องไปสร้างปัญหาให้พวกเขาเพิ่ม
เซิ่งอันหรานมองเซิ่งเสี่ยวซิงด้วยความกังวล ในขณะที่เธอกำลังจะบอกให้เทียนเอินดูแลเด็กน้อยดีๆ ปรากฏว่า จู่ ๆ เทียนเอินก็อุ้มเซิ่งเสี่ยวซิงขึ้นมา เขาอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาอย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันไม่ให้อะไรมาสัมผัสหรือถูกตัวเธอได้
เธอชะงักไปครู่หนึ่ง อันที่จริงความทรงจำครั้งแรกของเธอที่มีต่อเทียนคือตอนที่เธอขับรถชนเขา และหลังจากที่เขาได้สติขึ้นมาตอนที่อยู่ในโรงพยาบาล ใบหน้าของเขาในตอนนั้นมันดูน่ากลัวมาก เขาดูเหมือนกับเด็กที่เพิ่งได้ออกมาเผชิญกับโลกกว้าง สับสน และเธอเป็นเพียงคนเดียวที่เขาสามารถเป็นที่พึ่งพาให้กับเขาได้
ไม่รู้ว่ามันเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ แม้ว่าความทรงจำเขายังไม่กลับมา แต่เขาดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก
บางทีเขาอาจจะเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ต้นแล้วก็ได้ แต่เธอก็อดสงสัยในเรื่องนั้นไม่ได้ เทียนเอินโตมาในสภาพแวดล้อมแบบไหนกันนะ ทำไมถึงได้ดูมีความคิดเป็นผู้ใหญ่ขนาดนี้ ?
“ตรงนี้มีคนเยอะเกินไป อย่างนั้นผมจะพาเสี่ยวซิงซิงเดินไปข้างหน้าก่อน ” เสียงของเทียนเอินดึงสติของเซิ่งอันหรานที่กำลังคิดฟุ้งซ่านให้กลับมา
“ก็ได้ ” เซิ่งอันหรานพยักหน้า “คุณพาเธอเดินนำไปก่อนก็ได้ ฉันขอพูดอะไรกับเส้าซือสักสองสามประโยค นี่ก็น่าจะใกล้เวลาแล้ว ”
ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ตอบอย่างเร่งรีบและเหลือบมองดูเวลาในโทรศัพท์ “ใกล้ถึงแล้ว จะเริ่มในอีกสิบนาทีนี้”
เทียนเอินอุ้มเซิ่งเสี่ยวซิงไปที่ด้านหน้าเวที ส่วนเซิ่งอันหรานก็เดินตามผู้ช่วยเข้าไปในห้องแต่งตัว
“เส้าซือล่ะ ?” เมื่อมองไปรอบๆ สไตลิสต์ ช่างแต่งหน้า เจ้าหน้าที่ และคนอื่นๆ กำลังยืนอยู่ในห้อง โดยไม่เห็นแม้แต่เงาของชายที่คุ้นเคย
“เพิ่งไปเข้าห้องน้ำ อีกเดี๋ยวก็คงจะกลับมา ” เจ้าหน้าที่ตัวแทนตอบกลับ เมื่อเห็นเซิ่งอันหราน เขายิ้มอย่างกระตือรือร้น “อันหรานมาแล้วเหรอ นั่งลงสิ ทำไมไม่เห็นเสี่ยวซิงซิงเลย ?”
“ด้านหลังเวทีมีคนเยอะมากอยู่แล้ว ฉันกลัวว่าจะมาสร้างปัญหาให้พวกคุณเปล่าๆ ก็เลยส่งเธอไปรอทางด้านหน้าเวทีแล้ว ”
สมาชิกในทีมที่รับผิดชอบงานการแสดงของเส้าซือล้วนแล้วแต่คุ้นเคยกับเซิ่งอันหราน ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตัวแทนและผู้ช่วยได้ไปถ่ายทำรายการวาไรตี้ท่องเที่ยวด้วยกัน ทั้งทีมรู้สึกชอบเสี่ยวซิงซิงเป็นพิเศษ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน