ผูกรักท่านประธานพันล้าน นิยาย บท 141

เซิ่งอันหรานกำลังเล่นกับเด็กสองคน และแอบรู้สึกกังวลในบางครั้ง เธอเหลือบมองไปที่รถสีเงินที่ทางเข้าสุสานด้วยจิตใจเป็นกังวล

ไม่นานก็มีเสียงประตูดังขึ้น น้าสะใภ้กับอวี้หนานเฉิงลงจากรถทีละคน ทั้งคู่ดูสงบนิ่ง ไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ใดๆ

เซิ่งอันหรานอึดอัดใจเป็นอย่างมาก

น้าสะใภ้โบกมือให้เซิ่งเสี่ยวซิง "ปิดเทอมฤดูร้อนแล้ว ไปเที่ยวบ้านยายสักสองสามวันไหมจ๊ะ?"

เซิ่งเสี่ยวซิงกะพริบตาคู่หนึ่งแล้วหันกลับมามองเซิ่งอันหรานและอวี้หนานเฉิงในทันที "ได้ค่ะ แต่ว่าหนูของพาพี่จิ่งซีไปด้วยได้ไหมคะ?"

น้าสะใภ้มองไปที่อวี้จิ่งซีด้วยแววตาสงสัย

ถึงจะบอกว่าเขาไม่ใช่คนในครอบครัวก็เถอะ แต่เด็กคนนี้ดูคล้ายกับซิงซิงน้อยมาก

“ยายตัดสินเรื่องนี้ไม่ได้หรอก” เธอเหลือบมองที่อวี้หนานเฉิง “ต้องให้พ่อของเธออนุญาตก่อน ยายถึงพาเขาไปได้”

เซิ่งเสี่ยวซิงหันไปมองอวี้หนานเฉิงด้วยสายตาอ้อนวอน

“ลุงอวี้ตกลงใช่ไหมคะ? ลุงแต่งงานกับหม่าม้าของหนูแล้ว คุณยายของหนูก็เป็นคุณยายของพี่จิ่งซีเหมือนกัน”

รอยยิ้มจาง ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของอวี้หนานเฉิง และมองไปที่น้าสะใภ้ด้วยความเคารพ

"รบกวนด้วยนะครับ น้าสะใภ้"

เซิ่งอันหรานรู้สึกขนลุกทันทีเมื่อเขาพูดคำว่า 'น้าสะใภ้'

ก่อนที่น้าสะใภ้พาเด็กทั้งสองเข้าไปในรถ

เมื่อเห็นรถขับออกจากสุสาน อวี้หนานเฉิงก็ได้ยินเซิ่งอันหรานพึมพำอยู่ข้างๆเขา

"ใครเป็นน้าสะใภ้ของคุณ? ใครบอกให้เรียกแบบนั้น"

“คุณกำลังพูดเรื่องอะไร?” อวี้หนานเฉิงหันศีรษะและถามอย่างรู้เท่าทัน

“ไม่มีอะไรหรอก” เซิ่งอันหรานหลือบมองเขาและเปลี่ยนหัวข้อการสนทนา “คุณไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยของจิ่งซีหรอก ถึงแม้น้าสะใภ้ของฉันน่ะไม่มีลูก แต่เธอมักจะทำอะไรอย่างระมัดระวังเสมอ เด็กๆอยู่กับเธอต้องปลอดภัยแน่ๆ"

อวี้หนานเฉิงไม่สนใจที่เธอพูด

“จะไปไหน? ผมจะไปสั่งคุณ”

“ไม่ต้องค่ะ ฉันโทรเรียกรถแล้ว อีกสักพักน่าจะถึง”

“ข่าวไม่ใช่อย่างที่คุณคิด”

“คุณคิดว่าฉันกำลังคิดอะไรเหรอ? คิดว่าฉันต้องโกรธคุณเรื่องของเกาหย่าเหวินงั้นเหรอ? ฉันไม่ใช่คนไร้สมองแบบนั้นนะ”

เซิ่งอันหรานตอบกลับโดยตรง

อวี้หนานเฉิงรออย่างอดทนเพื่อให้เธอพูดจบ

“ถานซูจิ้งไปหาอาจ้าน อาจ้านคิดว่าผมจงใจปล่อยข่าว แถมยังหลุดปากพูดต่อหน้าถานซูจิ้ง ดังนั้นพวกคุณทุกคนก็เชื่ออย่างนั้น คุณคิดแบบนี้ไม่ใช่เหรอ?”

เมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ เซิ่งอันหรานก็ทำหน้าบึ้งในทันที

“ฉันรู้เรื่องทุกอย่างนั่นแหละ จะสารภาพกับฉันตอนนี้มันก็สายไปแล้ว”

“ถ้าฉันบอกว่าฉันไม่ได้ตั้งใจจะใช้แผนอะไรเลยตั้งแต่แรกล่ะ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เซิ่งอันหรานก็ผงะไปครู่หนึ่งและมองไปที่เขาด้วยความประหลาดใจ

“ขึ้นรถ” อวี้หนานเฉิงก้าวไปข้างแล้วเปิดประตูรถข้างคนขับ “ผมสามารถให้คำอธิบายที่สมเหตุสมผลแก่คุณได้เกี่ยวกับทุกสิ่งที่คุณคิดว่าไม่สมเหตุสมผล ถ้าคุณคิดว่ามันไม่สมเหตุสมผล คุณสามารถลงจากรถได้ทุกเมื่อ"

รถกำลังขับอยู่บนทางหลวง และเสียงที่ลึกล้ำของอวี้หนานเฉิงก้องอยู่ในรถ เมื่อเขาพูดถึงแผนที่เกาจ้านบอกกับเขา น้ำเสียงของเขาดูก็ไม่เป็นธรรมชาติเล็กน้อย

"คุณจะบอกว่าแผนที่ซื้อของพวกนั้นเป็นความคิดของเกาจ้านอย่างนั้นสินะ?"

อวี้หนานเฉิงพยักหน้า หลีกเลี่ยงสายตาของเซิ่งอันหราน

“แล้วคุณก็ทำตามที่เขาพูดเหรอ? คุณไม่เคยมีความรักหรือไง? ทำไมเขาไม่ไปเขียนบทแนะนำเกี่ยวกับความรักแทนล่ะ”

คำถามต่อเนื่องดังก้องอยู่ในรถ เซิ่งอันหรานโกรธมากจนเธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา "ไม่ได้ ฉันต้องบอก เรื่องเหล่านี้กับซูจิ้ง ซู..."

ใบหน้าของเธอเปลี่ยนไป ทันใดนั้นเธอก็นึกถึงบางสิ่ง และเธอก็ชะงักไป

“มีอะไรเหรอ?” อวี้หนานเฉิงถาม

“อะแฮ่ม…” เธอกระแอมออกมา “เปล่า ฉันคิดว่าในเมื่อเรื่องนี้ผ่านไปแล้ว ก็ไม่มีอะไรต้องพูดอีกน่ะ

ถานซูจิ้งเองก็เคยคิดแฟนให้เธอไม่น้อย เธอคิดว่าว่าผู้หญิงคนนี้กับเกาจ้านก็เจ้าแผนการด้วยกันทั้งคู่ เหมาะสมกันดี

“คุณจะพาฉันไปไหน? ไม่ได้พาฉันกลับบ้านเหรอ?”

เซิ่งอันหรานมองดูทิวทัศน์นอกหน้าต่างและกลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง

“ผมจะพาคุณไปที่ดีๆที่หนึ่งน่ะ”

เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน รถจะออกจากทางหลวง

ทิวทัศน์นอกหน้าต่างเปลี่ยนจากตึกสูงเป็นทุ่งนอกเขตแดน พระอาทิตย์อัสดงสาดส่องไปทั่วท้องฟ้าทั้งสีส้มและสีแดงกระทบกับเนินเขาที่อยู่ไกลออกไป

รถจอดอยู่บนเนินเขาที่ว่างเปล่า ที่เชิงเขามีแม่น้ำที่ไหลเชี่ยว และภูเขาที่อยู่ไกลออกไปดูเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด

"ว้าว อากาศดีจัง"

เซิ่งอันหรานกางแขนออก มองขึ้นไปบนท้องฟ้าและสูดหายใจเข้าลึกๆ

เธอไม่ได้ออกมานานเลยรู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันใด

ลมเย็นพัดผ่าน เธอสูดอากาศเย็นเล็กน้อย

มือคู่หนึ่งสอดผ่านรักแร้และโอบรอบเอวของเธอ เมื่อเธอรู้สึกตัว อวี้หนานเฉิงได้วางคางลงบนไหล่ของเธอแล้ว และเสียงทุ้มต่ำก็ดังขึ้นข้างหูของเธอ

“ถ้าชอบก็มาที่นี่บ่อยๆสิ”

“มาทำไม คิดจะมาก็มาแบบนี้ คืนนี้เราจะนอนในรถกันไหมล่ะ?” เซิ่งอันหรานพูดประชด พยายามระงับหัวใจที่เต้นแรงของตนเอง

"ไม่มีใครอยู่ที่นี่ ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ไม่มีใครเห็น"

“ใครอยากทำอะไรกับคุณ?”

ใบหน้าของ เซิ่งอันหรานแดงก่ำด้วยแสงพระอาทิตย์ตก และเสียงของเธอก็นุ่มนวล

บนยอดเขาอากาศหนาวเกินไป เมื่อยืนไปสักพักก็รู้สึกถึงลมเย็นๆ อวี้หนานเฉิงจับมือเธอแล้วดึงขึ้นรถ เทนมร้อนลงในกระติกน้ำร้อนแล้วส่งไปที่มือของเธอ

ดวงตาของเซิ่งอันหรานกลมโต

“คุณเอานมมากด้วยเหรอเนี่ย? ไหนบอกว่ามากะทันหันไงล่ะ”

“ถ้าเป็นแบบนั้น คุณก็คงต้องหิวทั้งคืนน่ะสิ” อวี้หนานเฉิงมองที่เธอและดึงถุงร้อนออกจากใต้ที่นั่ง

“ตัวอย่างเช่น เส้าซือชายหนุ่มผู้โรแมนติก นอกจากบทกวีทางไกลแล้ว ก็ดูแลปกป้องหญิงสาวไม่ได้เลย”

“เกี่ยวอะไรกับเสี่ยวซือล่ะ?”

เซิ่งอันหรานบ่น ปล่อยมือเพื่อชี้ไปที่กล่องที่เท้าแล้วถามว่า “มีอะไรอยู่ในนั้น?”

อวี้หนานเฉิงเปิดล็อกกล่องนั้น และความร้อนก็พุ่งเข้ามาหาพวกเขา

ข้างในเป็นอาหารเย็นสำหรับสองคน ที่ใส่ในกล่องทำความร้อนมาตลอดทาง

เซิ่งอันหรานยกนิ้วให้เขาด้วยความชื่นชม "ยอมแล้ว คุณยอดเยี่ยมมาก"

อวี้หนานเฉิงเป็นคุณชายน้อยผู้เอาแต่ใจตั้งแต่เด็ก การที่ทำสิ่งต่างๆให้เธอ ทำให้เธอรู้สึกประทับใจไม่น้อย

ยิ่งไปกว่านั้น เหตุการณ์เกี่ยวกับเกาหย่าเหวินเป็นแผนการของคนสองคนนั้น

ขณะรับประทานอาหารเย็นที่อบอุ่นบนยอดเขา คนสองคนที่กำลังพักร้อนในโรงแรมใจกลางเมืองมัลดีฟส์ก็จามออกมาอย่างไร้สาเหตุ

"ฮัดชิ่ว..."

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน