ตอนที่ 165 หาตัวเองเจอหรือยัง? – ตอนที่ต้องอ่านของ ผูกรักท่านประธานพันล้าน
ตอนนี้ของ ผูกรักท่านประธานพันล้าน โดย อานหร่าน ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายInternetทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 165 หาตัวเองเจอหรือยัง? จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ในขณะที่เซิ่งอันหรานกำลังจะร้องเรียกคำว่า "พ่อ" ออกไป แต่ก็ต้องตกตะลึงเมื่อได้ยินคุณพ่อพูดขึ้นว่า "คุณพยาบาล"
“ผมหลับไปนานแค่ไหนแล้ว ?”
เซิ่งชิงซานลุกขึ้นจากเตียง เขาเอนศีรษะเข้ากับหัวเตียงเล็กน้อย ดูเหมือนเขากำลังจะลงจากเตียง
เซิ่งอันหรานรีบยื่นมือออกไปเพื่อพยุงเขา แต่ก็ถูกเขาผลักออก "ไม่เป็นไร ผมลุกขึ้นเองได้"
เขาพูดขึ้นพลางค่อยๆขยับลงจากเตียง และสวมรองเท้าอย่างงุ่มง่าม มือของเขาถูกเหยียดออกไปจนเกือบจะถึงปลายเตียง เขาใช้มือทั้งสองค่อยๆคลำสิ่งของที่อยู่รอบข้างและเดินไปที่ระเบียง
“วันนี้อากาศดีจัง” เขาเดินไปถึงระเบียงห้อง เซิ่งอันหรานรีบเดินเข้าไปเปิดประตูให้เขาอย่างรวดเร็ว
“ขอบคุณครับ”เซิ่งชิงซานพยักหน้าและเดินออกไปที่ระเบียง “อากาศดีจัง ดูเหมือนฝนจะตกแล้ว”
ในขณะที่พูด เขาก็พยายามนั่งลงเก้าบนอีกด้วยร่างกายที่โคลงเคลงไปมา
“พ่อ” เซิ่งอันหรานร้องอุทานขึ้น
เซิ่งชิงซานจับขอบเก้าอี้และพยายามทรงตัวยืนขึ้น เขาหันศีรษะกลับมาด้วยความประหลาดใจ พร้อมกับมองไปในทิศทางที่เป็นแหล่งกำเนิดของเสียง
“อันหราน ?” เขาดูตกใจ แต่ทว่าเป็นเพราะสายตาที่พร่ามัว ทำให้เห็นไม่ชัด
เซิ่งอันหรานเดินก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เพื่อเข้าไปทำการพยุงเขา "หนูเอง คุณพ่อ ป่วยหนักขนาดนี้ ทำไมตอนคุยกันทางโทรศัพท์ถึงได้ไม่ยอมบอกอะไรกับหนูเลย ?"
เซิ่งชิงซานประหลาดใจเล็กน้อย "มานี่สิ นั่งลงก่อน เรื่องแบบนี้ไม่มีอะไรน่าเล่านักหรอก อายุมากแล้วก็ต้องป่วยเป็นธรรมดา พ่อยังโอเค ไม่เจ็บปวดไม่คัน รู้สึกเพียงแค่ใช้ชีวิตได้ไม่สะดวกเหมือนเมื่อก่อนก็เท่านั้น มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”
เรื่องสุขภาพของเขา ถูกเขาพรรณนาราวกับเป็นแค่เรื่องเล็กๆ แต่เมื่อเซิ่งอันหรานได้ฟังยิ่งทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ
"ย้ายมาอยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว คนที่บ้านไม่มีใครมาอยู่ดูแลบ้างหรือ ?"
“คุณป้าของลูกยุ่งอยู่กับเรื่องงานของบริษัท อันเหยากำลังจะแต่งงาน เธอมาหาพ่อเป็นครั้งคราว เอ่อ ว่าแต่ อันเหยาส่งคำเชิญเรื่องงานแต่งงานให้กับลูกหรือเปล่า ?”
เซิ่งอันหรานลังเลไปสักพัก “ ส่งให้แล้วค่ะ ”
ข่าวเรื่องการแต่งงานของเซิ่งอันเหยา เซิ่งอันหรานรู้เรื่องนี้มาจากถานซูจิ้ง เพราะถานซูจิ้งมีเพื่อนเยอะ และเพื่อนในกลุ่มหลายคนได้รับคำเชิญจากเซิ่งอันเหยา แต่เธอที่เป็นน้องสาวกลับไม่ได้รับมัน
เป็นเพราะตอนนี้เซิ่งชิงซานกำลังป่วยอยู่ เธอไม่ต้องการให้เขาโกรธ ดังนั้นเธอจึงพูดโกหกออกไป
“อันเหยาถูกแม่เลี้ยงตามใจจนเสียนิสัย เธอขี้โมโหและมักจะอารมณ์ไม่ดี อีกทั้งยังชอบหาเรื่องให้ปวดอยู่บ่อยๆ แต่ยังไงซะเธอก็เป็นพี่สาวของลูก ถือว่าเห็นแก่หน้าพ่อ ลูกจะมาร่วมงานแต่งงานด้วยใช่ไหม?”
"หนูจะไปค่ะ"
“เป็นอย่างนั้นก็ดี”เซิ่งชิงซานพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ เขาจับมือเซิ่งอันหรานไว้ “พ่อรู้ว่าลูกไม่ชอบคุณป้าและลูกของเธอ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเป็นเพราะเห็นแก่หน้าพ่อ ลูกไม่เคยไปทะเลาะหรือคิดเล็กคิดน้อยกับพวกเขาทั้งสองเลย ลูกเป็นเด็กที่ฉลาด รู้เกาลเทศะ เหมือนแม่ของลูกไม่มีผิด ”
“คุณพ่อยัง จำแม่ของหนูได้”
“จำได้ ทำไมจะจำไม่ได้ล่ะ”เซิ่งชิงซานดูเหมือนกำลังนึกย้อนถึงเรื่องในอดีต เขาเพ่งมองไปในอากาศด้วยสายตาเหม่อลอย มีหลายรสชาติความรู้สึกที่กำลังพุ่งออกมาจากจิตใจของเขา น้ำเสียงของเขานั้นสั่นคลอนมาก ราวกับถูกห่อหุ้มด้วยความรู้สึกผิดและความเสียใจอย่างแรงกล้า
“พ่อไม่รู้ว่าหากวันหนึ่งต้องไปเจอเธอในนรก พ่อจะกล้าไปเจอหน้าเธอหรือเปล่า”
เซิ่งอันหรานนั่งอยู่ทางด้านข้าง แต่กลับไม่สามารถปลอบโยนเขาได้ เธอรู้ดีว่า ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรมันก็ดูไม่เหมาะสม
เซิ่งอันหรานอยู่เป็นเพื่อนของบิดาในโรงพยาบาลฟื้นฟูสุขภาพตลอดทั้งช่วงบ่าย จากนั้นจึงขับรถกลับบ้าน เมื่อกลับมาถึงบ้าน เธอกลับรู้สึกว่าบรรยากาศในบ้านมันดูว่างเปล่า ราวกับกล่องใบใหญ่ที่ไม่มีความอบอุ่นหลงเหลือเลยแม้แต่น้อย
ตอนนั้นซิ่งชิงซานคิดว่าตัวเองได้พบกับเป็นรักแท้ จึงได้ทอดทิ้งภรรยาที่คอยอยู่เคียงข้างเขามาอย่างยากลำบากไป พอแก่ตัวมากลับไม่มีแม้แต่เงาของคนที่จะมาอยู่เคียงข้างกาย แล้วลูกสาวล่ะ ? ความคิดของลูกสาวนั้นต่างจากผู้เป็นพ่อเป็นแม่ วันหนึ่งพวกเธอก็ต้องมีครอบครัวเป็นของตัวเอง ไม่สามารถมาอยู่ดูแลพ่อกับแม่ได้ไปตลอด ในท้ายที่สุดแล้วคนที่จะอยู่กับเราจนแก่เฒ่าก็คือคู่ชีวิตของเรา แต่คู่ชีวิตที่เป็นคู่แท้นั้นไซร้ จะหาได้ง่ายๆจากที่ไหนกัน
เธอค้นพบสัจธรรมบางอย่าง?
ในหัวใจของเซิ่งอันหรานเต็มไปด้วยคำพูดเหล่านี้ หลังจากนั่งอยู่ในความมืดเป็นเวลานาน เธอก็ได้สติกลับมา เซิ่งอันหรานหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วกดจองตั๋วเครื่องบิน จากนั้นก็หยิบกระเป๋าและเดินลงไปที่ชั้นล่างเพื่อเรียกรถแท็กซี่ไปส่งเธอที่สนามบิน
——
การเริ่มต้นของเธอถูกเขาปล้นไปอย่างรวดเร็ว เธอถูกผลักอย่างเฉยเมยเข้ากับกำแพง
อวี้หนานเฉิงหยิบคีย์การ์ดสำหรับเปิดห้องพักออกมา และแตะไปที่หน้าประตู
หลังจากเปิดประตูห้องอย่างเร่งรีบ จนกระทั่งประตูห้องถูกปิดลง ห้องสวีทที่กว้างขวางเต็มไปด้วยเสียงลมหายใจหยาบๆของชายหญิง เสียงเสื้อผ้าที่เสียดสีกันไปมา ไม่นานหลังจากนั้นเสื้อผ้าของทั้งสองก็ถูกโยนปะปนกันจากประตูหน้าห้องไปที่โซฟา
หลังเสพสิ้นตัณหา จันทรานอกหน้าต่างลอยแขวนอยู่บนฟากฟ้า
เซิ่งอันหรานนอนอยู่ในอ้อมแขนของเขา ใบหน้าสีแดงก่ำของเธอค่อยๆ จางลงไปเรื่อยๆ เธอพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เหนื่อยหอบ
“วันนี้ตอนบ่ายฉันไปพบคุณพ่อมา พ่อของฉันอยู่ที่โรงพยาบาลฟื้นฟูสุขภาพ ดูท่าแล้ว บ้านและบริษัทคงจะถูกยกให้กับพี่สาวและแม่เลี้ยงของฉัน ส่วนพวกเขาก็ไม่ได้ไปที่โรงพยาบาลเพื่อดูแลคุณพ่อของฉันเลย พ่อบอกว่า เขาคิดถึงแม่ของฉัน”
“ดังนั้น คุณจึงมาหาผม?”
อวี้หนานเฉิงลูบที่ผมอันยุ่งเหยิงบนหน้าผากของเธอ เขาขยับแขนเล็กน้อย เพื่อให้อยู่ในท่าที่สบายขึ้น
เซิ่งอันหรานไม่ได้ตอบคำถามของเขา และยังพูดต่ออีกว่า
“ถึงแม้ว่าฉันจะจดจำเรื่องของแม่ไม่ค่อยได้ แต่คุณอาและคุณตาของฉันบอกฉันว่า แม่ของฉันเป็นผู้หญิงที่เย็นชาและหยิ่งผยอง เธอเป็นคนที่แข็งแกร่ง เวลามีเรื่องอะไรมักจะเก็บมันไว้ในใจคนเดียว ก่อนที่พ่อของฉันจะได้พบกับอวี๋ซู่ซิน การแต่งงานของคนสองคนก็มีปัญหาอยู่แล้ว พวกเขาคุยกันน้อยมาก”
หลังจากพูดจบ เซิ่งอันหรานเงิยหน้าขึ้นมองไปที่อวี้หนานเฉิง โดยเธอมองเห็นคางที่แข็งทื่อของเขา และดวงตากำลังที่ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ มันดูมีเสน่ห์มากเป็นพิเศษ
เธอกลืนน้ำลายลงคอหนึ่งอึก ไม่รู้ว่าเรื่องที่เธอพยายามพูดอ้อมๆแบบนี้ เขาจะเข้าใจความหมายของเธอหรือเปล่า
“ตอนที่พ่อของผมมีชีวิตอยู่ เขาชอบมั่นหันมาก แต่ตอนนั้นผมอายุสิบสามขวบ พ่อแม่ของเราทั้งสองฝ่ายต่างก็ล้อเล่นเกี่ยวกับการหมั้นหมายของพวกเรา แต่ไม่มีใครเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้เลย ต่อมา มีเรื่องสำคัญที่เขามาเปลี่ยนครอบครัวของผม คุณปู่ดันถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ และถือเป็นความปรารถนาสุดท้ายของคุณพ่อ
โดยไม่มีใครถามถึงความยินยอมของผมเลย”
อวี้หนานเฉิงก้มลงไปมองที่เธอ นัยน์ตาของเขาดูเจ้าเล่ห์เล็กน้อย "มีอะไรอยากถามอีกไหม ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน