ผูกรักท่านประธานพันล้าน นิยาย บท 169

ชั่วพริบตาเดียวที่พูดประโยคนี้ สถานการณ์ไฟไหม้ก็รุนแรงขึ้นมา เซิ่งอันหรานพุ่งเข้าไปโดยไม่สนใจอะไร คนที่หน้าประตูอยากจะเข้าไปดึงไว้ก็ไม่ทันแล้ว

“ผู้จัดการเซิ่ง…”

เซิ่งอันหรานตะโกนเสียงดังท่ามกลางควันโขมงในห้องครัว “ซิงซิงน้อย…”

ในห้องครัวยุ่งอีนุงตุงนังไปหมด หม้อถ้วยทัพพีจานแตกเต็มพื้น ไฟไหม้อยู่ในห้องที่เก็บสินค้า เวลานี้ลุกลามมาที่โต๊ะเครื่องปรุงกลางเตาสองแถว ไฟไหม้ลุกลามเป็นควันเขม่าดำ เซิ่งอันหรานสำลักจนไอออกมา

ท่ามกลางไฟที่ลุกไหม้ เซิ่งอันหรานเห็นร่างชุดสีชมพูนอนอยู่ในมุม เธอไม่แม้แต่จะคิดก็พุ่งเข้าไป ถอดเสื้อคลุมแล้วพันรอบตัวซิงซิงน้อยให้แน่น นำเธออุ้มขึ้นและวิ่งไปทางด้านนอก

สถานการณ์ไฟไหม้ค่อยๆลุกลาม เปลวไฟที่ลุกไหม้กะทันหันแทบจะกลืนกินคนเข้าไป เซิ่งอันหรานรู้สึกได้ถึงความแสบร้อนบนใบหน้า

ชั่วพริบตาเดียวที่อุ้มออกมาจากห้องครัว รู้สึกเหมือนหนีออกมาจากความตาย

เสียงที่แย่งกันพูดจนฟังไม่ได้ศัพท์ดังเข้ามาในสมองของเซิ่งอันหราน

“ออกมาแล้ว”

“ผู้จัดการเซิ่ง รถพยาบาลมาถึงแล้ว”

เธอกอดเซิ่งเสี่ยวซิง ไม่ทันได้พูดสั่งอะไร ก็วิ่งผ่านฝูงชนตรงไปที่รถพยาบาล จากหางตาของเธอมองเห็นร่างที่คุ้นเคยยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน สีหน้าหวาดกลัว แววตาที่สั่นสะท้านแตกต่างจากที่เธอเคยเห็นมาก่อนอย่างสิ้นเชิง

เธอไม่มีเวลาคิดมาก พาเซิ่งเสี่ยวซิงไปที่โรงพยาบาล

หลังจากที่รอนานมาก หมอก็ออกมาจากห้องฉุกเฉิน พูดปลอบโยน

“ไม่มีอะไรรุนแรง ควันเข้าจมูกและคอ นอนโรงพยาบาลรอสังเกตอาการสองสามวัน”

เซิ่งอันหรานผ่อนคลายลง“ขอบคุณค่ะคุณหมอ”

“เข้าไปดูลูกเถอะ อีกเดี๋ยวคงตื่นแล้ว ”

“ค่ะ”

ส่งหมอไปแล้ว เซิ่งอันหรานรีบเข้าไปในห้องฉุกเฉิน ร่างเล็กนอนอยู่บนผ้าปูที่นอนสีขาว เห็นแค่ใบหน้า ใบหน้ามอมเต็มไปด้วยฝุ่น เหมือนแมวน้อย กำลังมองเธอด้วยความมึนงง

“หม่าม้า…”

เธอเห็นเซิ่งอันหราน สายตาก็สดใสขึ้น เพียงแต่เสียงแหบมาก เมื่อพูดออกมาก็ไอขึ้นมา

“หม่าม้าอยู่ตรงนี้ อาหมอพูดว่าลูกต้องพักผ่อน ถ้าทรมานก็ไม่ต้องพูดแล้ว”

เซิ่งอันหรานนั่งลงข้างเตียง จับมือของเซิ่งเสี่ยวซิง

เซิ่งเสี่ยวซิงพยักหน้า มองไปข้างกายเซิ่งอันหราน ลังเลชั่วขณะ พูดเสียงแหบแห้ง

“พี่จิ่งซีล่ะ?”

“อยู่ที่โรงแรม คุณน้าหัวหน้าพนักงานพูดว่าจิ่งซีไปห้องน้ำแล้ว หม่าม้าไม่ได้พูดกับเขา ก็รีบพาลูกมาที่โรงพยาบาล”

ได้ยิน เซิ่งเสี่ยวซิงจู่ๆก็เบิกตาโต แทบจะอยากจะพูดอะไร กลับไอขึ้นมาอย่างรุนแรง

“ทำไมเหรอ?”

เซิ่งอันหรานลุกลี้ลุกลนขึ้นมา รีบตบไหล่ของเธอ“ไม่ต้องรีบ ซิงซิงน้อย”

“หม่าม้า….”เซิ่งเสี่ยวซิงพูดติดขัด“จิ่งซี จิ่งซี….”“จิ่งซี จิ่งซี…พี่ชาย…อยู่ในห้องครัว เปลวไฟรุนแรงมาก……”

“ลูกพูดอะไร?พี่จิ่งซีอยู่ที่ไหน?”

เซิ่งอันหรานในสมองก็แทบจะระเบิด“อยู่ที่ห้องครัว?”

เซิ่งเสี่ยวซิงพยักหน้า น้ำตาไหลออกมา ผลักเซิ่งอันหราน“หม่าม้า รีบไปช่วยพี่ชาย…”

เซิ่งอันหรานแทบจะเป็นบ้า ระยะห่างจากที่เธอช่วยเซิ่งเสี่ยวซิงออกมาจากเปลวไฟก็ผ่านไปสองชั่วโมงแล้ว เธอไม่กล้าจะจินตนาการ ถ้าหากจิ่งซีอยู่ในห้องครัว ไม่มีคนค้นพบตอนนี้สถานการณ์จะเป็นยังไงแล้ว

ตั้งแต่ขึ้นรถแท็กซี่ เธอรีบกลับมาที่โรงแรม รถดับเพลิงทำงานเสร็จแล้ว ลูกค้าและพนักงานโรงแรมจำนวนมากยืนอยู่ที่ทางเข้าโรงแรม เธอมองเห็นเสี่ยวจังจากที่ไกล ก็รีบวิ่งเข้าไปจับเขาไว้

“จิ่งซีล่ะ?”

เสี่ยวจังถูกเซิ่งอันหรานท่าทางสูญเสียการควบคุมก็ตกใจ ชะงักไปเล็กน้อยจึงได้สติกลับมา และพูด

“ส่ง…ส่งโรงพยาบาลแล้ว”

“โรงพยาบาลไหน?”น้ำตาเซิ่งอันหรานไหลออกมาไม่หยุด ท่าทางที่จนตรอกดึงดูดสายตาผู้คนบริเวณรอบๆ ถูกจ้องมองท่ามกลางผู้คน ท่าทางของเธอ เหมือนกับผู้หญิงบ้าที่ดึงเสี่ยวจังและซักถามไม่หยุด

เสี่ยวจังสีหน้ามึนงง รีบพูดอธิบาย

“หัวหน้าไม่ต้องใจร้อน ไม่เป็นไร คุณชายน้อยหลบอยู่ในห้องแข็ง พาเขาไปตรวจร่างกายเท่านั้นเอง เมื่อกี้ผม..ผมเพิ่งจะโทรศัพท์หาคุณก็ไม่รับสาย คุณเพิ่งจะอุ้มซิงซิงน้อยไป วิเวียนก็พุ่งเข้าไปในเปลวไฟ นำคุณชายน้อยพาออกมา”

วิเวียน?

เซิ่งอันหรานก็นึกถึงเวลาที่เธออุ้มเซิ่งเสี่ยวซิงออกมา ร่างนั้นที่ตื่นตระหนกอยู่ในฝูงชน

“หัวหน้า ผมแน่ใจว่าคุณชายน้อยไม่เป็นไร”

เสี่ยวจังคิดว่าเซิ่งอันหรานตกใจมาก พูดเน้นย้ำว่าเขาเห็นอวี้จิ่งซีออกมาจากห้องครัวอย่างปลอดภัย“นอกจากมือเท้าเย็นก็ไม่มีปัญหาอะไร กลัวว่าเขาจะเป็นไข้จึงพาเขาไปที่โรงพยาบาล”

หินก้อนใหญ่ที่แขวนอยู่ในใจของเซิ่งอันหรานในที่สุดก็หล่นลงบนพื้นแล้ว ท่วมตัวมือไม้อ่อนจนเกือบล้ม พยายามอดกลั้นไว้

หลังจากที่ตั้งสติมั่นคงแล้ว ก็ได้ยินเสี่ยวจังพูดว่าจัดการสถานการณ์ไฟไหม้ได้แล้ว

โชคดีที่มันถูกค้นพบทันเวลา ไม่มีผู้เสียชีวิตหลังจากนี้เกรงว่าน่าจะมีปัญหาใหญ่กับความคิดเห็นของมวลชน ถึงยังไงก็เป็นปัญหาความปลอดภัย ดึงดูดการคาดเดา

“ผู้จัดการเผยไปที่สำนักงานใหญ่เพื่อรายงานแล้ว พวกเราหลังจากนี้จะทำยังไง?”

เซิ่งอันหรานขมวดคิ้วแน่น

“คิดหาวิธีควบคุมข่าวออนไลน์และความคิดเห็นของมวลชน ประชุมร่วมกับฝ่ายประชาสัมพันธ์”

ประชุมช่วงบ่าย ขั้นแรกคิดแผนควบคุมความคิดเห็นของมวลชนกับการโน้มน้าวใจ หลังจากที่ประชุมเสร็จก็มืดแล้ว

“จัดการให้ทุกคนไปกินข้าวก่อน คืนนี้ลำบากหน่อยควบคุมเรื่องความคิดเห็นก่อน ฉันออกไปก่อน”

เซิ่งอันหรานปิดโน้ตบุ๊ก หยิบกระเป๋าไปโรงพยาบาล

ทางด้านเซิ่งเสี่ยวซิงถานซูจิ้งช่วยไปดูให้แล้ว ในใจเธอเป็นห่วงจิ่งซี ถึงแม้ว่าเสี่ยวจังรับประกันว่าจิ่งซีไม่เป็นอะไร แต่ไม่เห็นกับตาตัวเอง เธอก็ยังไม่วางใจ

“เลี้ยวขวาห้องผู้ป่วยที่สอง”

หลังจากที่สอบถามหน้าเคาน์เตอร์ เซิ่งอันหรานก็ตรงไปทางห้องผู้ป่วย

เพิ่งจะถึงประตูห้องผู้ป่วย มีคนเปิดประตูออกมาจากห้อง หลังจากที่มองเห็นคนที่เปิดประตู เซิ่งอันหรานก็ชะงักไป“ทำไมคุณกลับมาแล้ว?”

ร่างสูงใหญ่ของอวี้หนานเฉิงปิดกั้นแสงครึ่งหนึ่งจากข้างหลังเขา ราวกับประติมากรรมขนาดใหญ่ เงามืดไหลทะลักความเยือกเย็นออกมา

“น่าจะเป็นฉันที่ต้องถามเธอ เธอมาทำไม?”

เซิ่งอันหรานสีหน้าแข็งทื่อ“ฉันเพิ่งจะจัดการเรื่องโรงแรมเสร็จ มาดูจิ่งซี คุณเป็นอะไร?”

หลังจากที่ถาม จากหางตาของเธอเห็นร่างอีกคนหนึ่งอยู่ในห้อง ผอมและอ่อนแอ ก็รู้สึกอะไรขึ้นมาได้ เพียงแค่ไม่อยากจะเชื่อ แอบกำหมัดแน่น

อวี้หนานเฉิงหัวเราะเยาะเย้ย

“เวลาที่จิ่งซีอยู่ในเปลวไฟเธออยู่ที่ไหน?”

“ฉันไม่รู้ว่าจิ่งซีอยู่ข้างใน”เซิ่งอันหรานขมวดคิ้ว พูดเสียงอดกลั้น

เกรงว่าก่อนหน้านี้เธอ หลินมั่นหันคงใช้คำพูดที่ไม่ดีพูดไปแล้ว ได้ยินคำพูดใครก่อนก็เชื่อ และยิ่งรักลูกมาก อวี้หนานเฉิงจะมีปฏิกิริยาแบบนี้ก็ไม่แปลก

“คุณใจเย็นก่อน ถ้าหากจิ่งซีอยู่ข้างในฉันไม่มีทางไม่ช่วยเขาออกมา ฉัน…”

“เธอไม่ต้องพูดแล้ว”อวี้หนานเฉิงหยุดคำพูดเธอ ท่าทางเย็นชาและห่างเหิน

“เธอเป็นแม่แท้ๆของซิงซิงน้อย เวลาแบบนี้ช่วยเธอก็เป็นสัญชาตญาณของเธอ แต่เธอไม่ควรทิ้งจิ่งซี เมื่อก่อนฉันพิจารณาผิดไปแล้ว ดูเหมือนตอนนี้ เธอไม่คู่ควรที่จะเป็นแม่ของจิ่งซี”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน