ผูกรักท่านประธานพันล้าน นิยาย บท 168

“ฉันรู้จักเธอ”วินาทีที่หลินมั่นหันมองผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า“เกาหย่าเหวิน”

แฟนที่เคยมีข่าวลือกับอวี้หนานเฉิง หนึ่งในนั้นที่ประณีตที่สุดก็คือเธอ และยิ่งเป็นคนสาธารณชน ไม่อยากจะรู้จักก็ยาก

ก่อนจะกลับประเทศก็นานมากแล้ว เธอคิดว่าเกาหย่าเหวินจึงเป็นคู่ต่อสู้ที่แท้จริง ถึงยังไงเธอก็อยู่ข้างกายอวี้หนานเฉิงนานถึงหกปี

“หวังว่าเธอจะไม่เข้าใจผิดอะไรฉันอีก”เกาหย่าเหวินแทบจะคาดว่าตัวเองถูกคนอื่นจำได้แล้ว แสดงออกอย่างมั่นคง

หลินมั่นหันขมวดคิ้ว ถามตรงไปตรงมา“เธออยากจะพูดอะไร?ไม่ว่าจะความสัมพันธ์ก่อนหน้านี้ของเธอกับหนานเฉิง ฉันไม่คิดว่าคำพูดที่ออกจากปากเธอ จะน่าเชื่อถือ”

“หวังว่าเธอได้ฟังจบแล้วก็จะพูดแบบนี้”

เกาหย่าเหวินเลิกคิ้วขึ้น สายตายากจะคาดเดา “ฉันอยู่ข้างกายหนานเฉิงมาหกปีกว่าแล้ว ก่อนหน้านี้ เดิมทีจะแต่งงานกันแล้ว งานแต่งที่โรงแรมก็จองเรียบร้อยแล้ว เรื่องนี้เธอรู้ไหม?”

หลินมั่นหันชำเลืองมองเธอ สายตาไม่พอใจ

“ดูเหมือนจะรู้”เกาหย่าเหวินสายตาลึกซึ้งมาก“แต่เธอรู้ว่าหนานเฉิงเปลี่ยนใจกะทันหันไหม เหตุผลที่ยกเลิกงานแต่งงานไหม?”

“เพราะว่าเซิ่งอันหราน?”

ได้ยินประโยคนี้ เกาหย่าเหวินก็ยิ้ม สายตามีความรังเกียจ“เธอรู้จักอวี้หนานเฉิงนานกว่าฉัน เธอคิดว่าเขาเพื่อผู้หญิงที่รู้จักได้ไม่กี่เดือนก็ยกเลิกงานแต่งงานเหรอ?”

เธอจ้องมองหลินมั่นหัน

“เป็นเพราะว่าจิ่งซี”

หลินมั่นหันในใจอัดแน่นขึ้นมา อดไม่ได้ที่จะกำหมัดแน่น

เธอรู้เรื่องลูกชายของอวี้หนานเฉิง เวลาที่เธอแต่งงานได้หนึ่งปีกว่า ก็ได้ยินข่าวจากในประเทศ พูดว่าตระกูลอวี้มีหลานชายคนโตแล้ว แต่ไม่รู้ว่าแม่ของเด็กเป็นใคร หลายปีนี้เธอก็ได้ยินว่า อวี้จิ่งซีเป็นลูกชายดั่งดวงใจของอวี้หนานเฉิง ไปที่ไหนก็พาไป สำคัญกว่าทุกอย่าง

“จิ่งซีสำคัญกับอวี้หนานเฉิงแค่ไหน เธอก็คงจะได้ยินมาแล้วเถอะ งั้นเธอรู้ไหมว่าจิ่งซีชอบเซิ่งอันหรานเป็นพิเศษ ก็คือพึ่งพาเหตุผลนี้ อวี้หนานเฉิงจึงนำเซิ่งอันหรานเข้ามาพิจารณาเป็นคุณหญิงตระกูลอวี้”

“เธออยากจะพูดอะไร?”

หลินมั่นหันคิดว่าผู้หญิงคนนี้พูดวกไปวนมา พูดเรื่องที่ไม่ได้สำคัญ

อวี้หนานเฉิงจะแต่งงาน คนรักที่เขาจะแต่งงานด้วยต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกชายสุดที่รักของเขาแน่นอน สำหรับเธอที่เข้าใจอวี้หนานเฉิง นี้ก็ไม่ยากที่จะวิเคราะห์คำพูดที่ชะล่าใจของเกาหย่าเหวินได้ ความหมายลึกซึ้งกินใจ

“เลือดข้นกว่าน้ำ”

“……”

——

หลังจากที่แยกจากหลินมั่นหัน อีกสองวันก็สุดสัปดาห์ เดิมทีเซิ่งอันหรานรับเด็กสองคนกลับมาจากบ้านเก่าตระกูลอวี้แล้ว จู่ๆก็ได้รับสายของโรงแรม

แจ้งว่าเปลี่ยนวันหยุดชั่วคราว ในวันเสาร์และอาทิตย์ต้องทำโอที เซิ่งอันหรานจำเป็นต้องพาเด็กสองคนไปที่โรงแรมด้วยกัน

เหมือนกับเมื่อก่อน ให้หัวหน้างานพาพวกเขาไปที่ห้องพักผ่อนของเด็ก

“พักเที่ยงเวลาสิบสองนาฬิกา หม่าม้าจะพาพวกเธอไปกินข้าวเที่ยง อยู่ที่นี่อย่างออกไปวุ่นวาย และห้ามออกจากโรงแรมกับคนอื่นเด็ดขาด”

“รู้แล้วค่ะ หม่าม้าไปทำงานเถอะ หนูจะดูแลพี่จิ่งซีเอง”เสียงของเซิ่งเสี่ยวซิงดังก้องในก้องพักผ่อน

เซิ่งอันหรานบีบแก้มเล็กของเธอ พูดเตือน“ลูกยังจะดูแลพี่จิ่งซี ลูกไม่สร้างความวุ่นวายก็ดีมากแล้ว ห้ามยุยงให้พี่วิ่งตามลูก ได้ยินไหม?”

“โอ๊ย เจ็บค่ะ”เซิ่งเสี่ยวซิงดิ้นหลุดจากกรงเล็บของปีศาจเซิ่งอันหราน มุ่ยปากและนั่งบนโซฟาอย่างไม่พอใจ“จริงๆเลย หม่าม้าบีบแก้วหนูจนจะพังแล้ว”

เซิ่งอันหรานขี้เกียจสนใจเธอ เปรียบเทียบกับเซิ่งเสี่ยวซิงที่กระโดดไปมาเหมือนลิง จิ่งซีนั่งอยู่ด้านข้างอย่างเชื่อฟัง เธอลูบศีรษะของจิ่งซี พูดอย่างอ่อนโยน“ดูแลน้องให้ดี และดูแลตัวเองให้ดี ได้ไหม?”

อวี้จิ่งซีพยักหน้าอย่างจริงจัง

ความจริงฐานะคุณชายน้อยของจิ่งซีทุกคนในโรงแรมก็รู้ดี เดินไปที่ไหนก็มีคนมองอย่างระมัดระวัง กลัวจะจนถูกไล่ออก เซิ่งอันหรานไม่ได้เป็นห่วงอะไรมาก เพียงแค่เด็กสองคนไม่ออกไปจากประตูใหญ่ของโรงแรม โดยพื้นฐานแล้วไม่มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย

เพิ่งจะวางของในห้องทำงาน ผู้ช่วยเสี่ยวจังก็เคาะประตูเข้ามา

“หัวหน้า ผู้จัดการเผยแจ้งประชุม เก้าโมงครึ่ง”

เซิ่งอันหรานพยักหน้าเข้าใจ

“ได้ ฉันรู้แล้ว นายไปถ่ายเอกสารบันทึกการร้องเรียนของลูกค้าสิบชุดในเดือนนี้เข้ามา”

สองสามเดือนนี้โรงแรมมีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย สถานการณ์การก่อสร้างชั่วคราวเพิ่มขึ้นเนื่องจากการจัดเตรียมงานสำคัญต่างๆ สถานการณ์การร้องเรียนเพิ่มขึ้นสองเท่าเมื่อเทียบกับเมื่อก่อน เรื่องนี้ถูกเน้นในที่ประชุมเมื่อสองวันก่อน ผู้จัดการเผยให้เธอวางแผนชดเชย

หลังจากจัดการข้อมูลแล้ว เซิ่งอันหรานก็ตรงไปที่ห้องประชุมเพื่อประชุม

ชุดสูททรงฮาวส์ทูธแขนสามส่วน เห็นได้ชัดเจนถึงมีความสามารถในการทำงานและบุคลิกที่ดี สไลด์นี้แสดงวิธีแก้ปัญหาสำหรับการร้องเรียนจำนวนมาก บรรยายได้ชัดเจนและเข้าใจง่าย

“รายละเอียดก็เป็นแบบนี้ ในขณะที่ลูกค้าเข้าพักไม่ว่าจะร้องเรียนไหม ล้วนต้องชดเชยเหมือนกัน อีกด้านหนึ่ง สำหรับลูกค้าที่เป็นฝ่ายร้องเรียน พวกเราให้ที่พักฟรีเพิ่มอีกครึ่งปี เหตุผลก็คือพวกเขาให้ความเห็นที่สร้างสรรค์กับพวกเรา เรื่องนี้ต้องอธิบายกับลูกค้าให้เข้าใจชัดเจน อย่าให้คนอื่นเข้าใจผิดคิดว่าเป็นค่าธรรมเนียม ผลลัพธ์ก็จะตรงกันข้ามกับที่คาดหวังไว้…”

การประชุมดำเนินไปถึงสองชั่วโมง หลังจากที่จบลงก็เกือบจะพักเที่ยงแล้ว เสี่ยวจังกอดข้อมูลเดินตามหลังเซิ่งอันหราน ถามรายละเอียดเรื่องราวกับเธอเพื่อนำไปดำเนินการ เพิ่งจะเดินมาถึงหน้าประตูลิฟต์ ทันใดนั้นก็มีเสียงเตือนดังขึ้นที่ทางเดิน ไฟรักษาความปลอดภัยที่ผนังกะพริบอย่างบ้าคลั่ง…

เสียงไซเรนดังก้องไปทั่วทั้งอาคารโรงแรม เซิ่งอันหรานสีหน้าตึงเครียด“โทรศัพท์ไปถามแผนกรักษาความปลอดภัย”

เสี่ยวจังต่อสายโทรศัพท์ออกไปอย่างรวดเร็ว ได้ยินสีหน้าก็เปลี่ยนเป็นซีดเผือด

“อะไร?”

“เกิดอะไรขึ้น?”เซิ่งอันหรานรีบถาม

เสี่ยวจังรีบวางสายโทรศัพท์

“หัวหน้า ในสายโทรศัพท์แจ้งว่าห้องครัวไฟไหม้ อุปกรณ์ป้องกันขัดข้อง เรียกรถดับเพลิงแล้ว ไม่รู้ว่ารถดับเพลิงจะมาเมื่อไหร่”

สีหน้าเซิ่งอันหรานเปลี่ยนไปทันที ทำมาตรการรับมืออย่างรวดเร็ว

“รีบแจ้งหัวหน้างานพนักงานทุกคน รีบกระจายออกไป”

“ครับ ผมไปเดี๋ยวนี้”เสี่ยวจังวิ่งไปด้วยความตื่นตระหนก

ด้านนี้ เซิ่งอันหรานกดลิฟต์ ยืนอยู่สองสามวินาทีจู่ๆก็นึกถึงเด็กทั้งสองคนที่อยู่ในห้องพักผ่อนขึ้นมา หัวใจเต้นแรงอย่างกะทันหัน หมุนตัววิ่งไปทางบันได

ในห้องพักผ่อนเด็กไม่มีคน

“คุณชายน้อยถูกหัวหน้างานพาไปที่ห้องน้ำแล้ว ซิงซิงน้อยผมยังไม่เห็น”

เซิ่งอันหรานสีหน้าเปลี่ยนเป็นซีดเผือด หลังจากถามสองสามคนแล้ว ก็วิ่งมาถึงเขตไฟไหม้แล้ว ควันพุ่งออกมาจากประตูห้องครัว ล้อมไปด้วยผู้คน มีถังดับเพลิงที่ใช้แล้วกระจายอยู่บนพื้น ทุกคนเก้ๆกังๆทำอะไรไม่ถูก

ระหว่างทางได้ยินว่าเชฟที่เกษียณแล้วติดอยู่ในครัว

“ออกมาแล้ว”

ในควันหนาทึบ ชายวัยกลางคนแบกร่างสีขาวเดินโซเซออกมา คนที่หน้าประตู รีบเข้าไปช่วยจนวุ่นกันไปหมด

ชายวัยกลางคนหอบหายใจและพูด

“เร็วเข้า ข้างในยังมีเด็กผู้หญิง เหมือนจะเป็นลูกสาวของผู้จัดการเซิ่ง”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน