เสียงที่ฉินปัวได้ยินเยือกเย็นเข้ากระดูกราวกับน้ำเย็นในบ่อลึก
“นายบอกว่า นายคือประธานบริษัทเซิ่งถังกรุปงั้นเหรอ อวี้หนานเฉิง?”
เซิ่งอันหรานที่ลากอวี้หนานเฉิงออกมาพ้นประตูแล้ว เมื่อได้ยินคำถามนั้น ทั้งคู่ก็หันหลังกลับไปอีกครั้ง
อวี้หนานเฉิงยอมรับตัวตนของตัวเองโดยไม่ปิดบัง
“ดูเหมือนว่าคุณจะรู้จักผมนะ”
“ยิ่งเสียกว่ารู้จัก”
ฉินปัวหน้าถมึงทึนกัดฟันกรอดด้วยความเกลียดชัง เขาตามติดเข้ามาใกล้ เซิ่งอันหรานมองเห็นเกล็ดหิมะสีขาวกำลังโปรยปรายลงมา ตกใส่ศีรษะและใบหน้าเธอกับอวี้หนานเฉิงโครมๆ
เงาดำเดินตรงมาหาอวี้หนานเฉิง และตามมาด้วยเสียงคำรามของฉินปัว
“นายส่งตัวเองมาถึงยังหน้าประตูบ้านฉันเองนะ!”
“ระวัง!” เซิ่งอันหรานได้ยินเสียง ‘หึ่ง หึ่ง’อยู่ในหัว รับรู้ได้เพียงแรงจากมือสองมือที่ผลักเธอออก จนกระเด็นไปกระแทกประตูไม้สีขาวเสียงดัง ‘ปัง’ เธอร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเพราะหลังชนเข้าอย่างจัง
เมื่อได้สติกลับมา ก็เห็นชายหนุ่มทั้งสองคนกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด
ทักษะการต่อสู้ของอวี้หนานเฉิงถือว่าไม่เลว แต่รูปร่างของฉินปัวสูงใหญ่ ส่วนสูงหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร เพราะอาศัยอยู่แถบชายฝั่งทะเล ทำให้เขามีกล้ามเนื้อกำยำ เมื่อถูกอวี้หนานเฉิงโจมตีเขาแทบไม่รู้สึกอะไร เขาสู้กลับ ชกไปตามจุดต่างๆ บนร่างกาย
ไม่นาน อวี้หนานเฉิงก็เป็นฝ่ายเสียเปรียบ
ฉินปัวคว้าลำคอเขาได้ และกดลงบนพื้น
อวี้หนานเฉิงพูดเสียงอู้อี้ ถูกหมัดแข็งแกร่งของฉินปัวชกจนเลือดกบปาก
“พวกคุณหยุดได้แล้ว!”
ในที่สุดเรี่ยวแรงของเซิ่งอันหรานก็ฟื้นตัว รีบร้อนตะโกนออกไป
แต่อย่างไรทั้งคู่ก็ไม่ฟังเธอเลยสักนิด หรืออาจจะพูดได้ว่า ฉินปัวไม่ยอมหยุดลงมือ อวี้หนานเฉิงเองก็ต้องป้องกันตัวเองจากการเป็นฝ่ายถูกกระทำ เพียงไม่นานลานบ้านก็เละเทะไปหมด
ต้นไผ่ที่วางไว้บนชั้นล้มหัวคะมำตกลงมา แล้วกลิ้งไปตามพื้น
เซิ่งอันหรานคว้าเอาโทรศัพท์ แล้วกระโดดข้ามไปอยู่อีกด้าน
“พวกนายหยุดตีกันได้แล้ว ไม่งั้นฉันจะโทรแจ้งตำรวจ”
ผู้ชายเมื่อเลือดขึ้นหน้าก็ไม่สนใจใครหน้าไหนทั้งนั้น ฉินปัวจู่โจมราวกับคนกำลังฆ่าตัวตาย เหมือนเคียดแค้นต่ออวี้หนานเฉิงมาแต่ชาติปางก่อน แลกกันหมัดต่อหมัด
เซิ่งอันหรานทนไม่ไหวอีกต่อไป รีบเข้าไปแยกพวกเขาออกจากกัน
“โครม!” เสียงดังสั่นสะเทือน และตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของหญิงสาว
อวี้หนานเฉิงที่ถูกกดอยู่บนพื้นอย่างไร้ซึ่งเรี่ยวแรงในคราแรก เมื่อได้ยินเสียงร้อง ทันใดนั้นรูม่านตาเขาหดตัวลง ไม่รู้ว่าพละกำลังมาจากไหน ผลักฉินปัวออกอย่างแรง แล้ววิ่งโซซัดโซเซไปหาเซิ่งอันหราน
“อันหราน...”
ภายในลานบ้าน หม้อเหล็กขนาดใหญ่ที่ติดตั้งเครื่องกลั่นไว้ด้านใน ไม่รู้ว่าคว่ำลงมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เซิ่งอันหรานนอนอยู่ข้างๆ ปากหม้อ ที่น่องมีแผลถูกลวกเป็นสีน้ำตาลไหม้ขนาดใหญ่ ซ้ำยังมีควันสีขาวจากการเผาไหม้ลอยพุ่งขึ้นมา
อวี้หนานเฉิงจ้องมองด้วยความเจ็บปวด เหงื่อเย็นค่อยๆ ไหลลงมา เขารีบเข้าไปอุ้มเซิ่งอันหรานขึ้นมาแล้วพาออกไปยังนอกลานบ้าน
ฉินปัวเองก็ตกใจไม่แพ้กัน ใบหน้าซีดเผือดจ้องมองภาพตรงหน้า สติเลื่อนลอยไปชั่วขณะก่อนจะลุกขึ้นแล้ววิ่งตามไป พลางพูดตะกุกตะกัก
“ผม... ผมมีรถสามล้อไฟฟ้า ผมจะไปส่งพวกคุณที่สถานพยาบาลในเมือง”
ไม่ว่าอวี้หนานเฉิงจะเคียดแค้นมากเพียงใด แต่ก็ทำได้แค่อดทนและขึ้นไปบนรถสามล้อไฟฟ้าของเขา ขณะที่อุ้มเซิ่งอันหรานเธอหมดสติไปตลอดทาง ทำให้เขายิ่งเจ็บปวดหัวใจ
ตั้งแต่ที่เธออยู่กับเขามา หญิงสาวคนนี้คอยพบเจอแต่ปัญหาไม่เคยหยุดหย่อน
ณ สถานพยาบาลเมืองกวนไห่——
เซิ่งอันหรานถูกส่งเข้าห้องผ่าตัดเพื่อทำการรักษาบาดแผล บริเวณที่ถูกลวกไม่ใหญ่มาก แต่บาดแผลค่อนข้างลึก ขณะทำการล้างแผล มีเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดดังออกมาเป็นระยะ ตื่นขึ้นมาเพราะความเจ็บปวด และเป็นลมหมดสติไปอีกครั้ง
“พวกคุณไม่ให้ยาชาเธอเหรอ ทำไมถึงเจ็บขนาดนี้?”
ระหว่างทำการรักษาบาดแผล เมื่อเห็นคุณหมอเดินออกมา อวี้หนานเฉิงคว้าคอเสื้อคุณหมอทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน