ผูกรักท่านประธานพันล้าน นิยาย บท 203

เสียงที่ฉินปัวได้ยินเยือกเย็นเข้ากระดูกราวกับน้ำเย็นในบ่อลึก

“นายบอกว่า นายคือประธานบริษัทเซิ่งถังกรุปงั้นเหรอ อวี้หนานเฉิง?”

เซิ่งอันหรานที่ลากอวี้หนานเฉิงออกมาพ้นประตูแล้ว เมื่อได้ยินคำถามนั้น ทั้งคู่ก็หันหลังกลับไปอีกครั้ง

อวี้หนานเฉิงยอมรับตัวตนของตัวเองโดยไม่ปิดบัง

“ดูเหมือนว่าคุณจะรู้จักผมนะ”

“ยิ่งเสียกว่ารู้จัก”

ฉินปัวหน้าถมึงทึนกัดฟันกรอดด้วยความเกลียดชัง เขาตามติดเข้ามาใกล้ เซิ่งอันหรานมองเห็นเกล็ดหิมะสีขาวกำลังโปรยปรายลงมา ตกใส่ศีรษะและใบหน้าเธอกับอวี้หนานเฉิงโครมๆ

เงาดำเดินตรงมาหาอวี้หนานเฉิง และตามมาด้วยเสียงคำรามของฉินปัว

“นายส่งตัวเองมาถึงยังหน้าประตูบ้านฉันเองนะ!”

“ระวัง!” เซิ่งอันหรานได้ยินเสียง ‘หึ่ง หึ่ง’อยู่ในหัว รับรู้ได้เพียงแรงจากมือสองมือที่ผลักเธอออก จนกระเด็นไปกระแทกประตูไม้สีขาวเสียงดัง ‘ปัง’ เธอร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเพราะหลังชนเข้าอย่างจัง

เมื่อได้สติกลับมา ก็เห็นชายหนุ่มทั้งสองคนกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด

ทักษะการต่อสู้ของอวี้หนานเฉิงถือว่าไม่เลว แต่รูปร่างของฉินปัวสูงใหญ่ ส่วนสูงหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร เพราะอาศัยอยู่แถบชายฝั่งทะเล ทำให้เขามีกล้ามเนื้อกำยำ เมื่อถูกอวี้หนานเฉิงโจมตีเขาแทบไม่รู้สึกอะไร เขาสู้กลับ ชกไปตามจุดต่างๆ บนร่างกาย

ไม่นาน อวี้หนานเฉิงก็เป็นฝ่ายเสียเปรียบ

ฉินปัวคว้าลำคอเขาได้ และกดลงบนพื้น

อวี้หนานเฉิงพูดเสียงอู้อี้ ถูกหมัดแข็งแกร่งของฉินปัวชกจนเลือดกบปาก

“พวกคุณหยุดได้แล้ว!”

ในที่สุดเรี่ยวแรงของเซิ่งอันหรานก็ฟื้นตัว รีบร้อนตะโกนออกไป

แต่อย่างไรทั้งคู่ก็ไม่ฟังเธอเลยสักนิด หรืออาจจะพูดได้ว่า ฉินปัวไม่ยอมหยุดลงมือ อวี้หนานเฉิงเองก็ต้องป้องกันตัวเองจากการเป็นฝ่ายถูกกระทำ เพียงไม่นานลานบ้านก็เละเทะไปหมด

ต้นไผ่ที่วางไว้บนชั้นล้มหัวคะมำตกลงมา แล้วกลิ้งไปตามพื้น

เซิ่งอันหรานคว้าเอาโทรศัพท์ แล้วกระโดดข้ามไปอยู่อีกด้าน

“พวกนายหยุดตีกันได้แล้ว ไม่งั้นฉันจะโทรแจ้งตำรวจ”

ผู้ชายเมื่อเลือดขึ้นหน้าก็ไม่สนใจใครหน้าไหนทั้งนั้น ฉินปัวจู่โจมราวกับคนกำลังฆ่าตัวตาย เหมือนเคียดแค้นต่ออวี้หนานเฉิงมาแต่ชาติปางก่อน แลกกันหมัดต่อหมัด

เซิ่งอันหรานทนไม่ไหวอีกต่อไป รีบเข้าไปแยกพวกเขาออกจากกัน

“โครม!” เสียงดังสั่นสะเทือน และตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของหญิงสาว

อวี้หนานเฉิงที่ถูกกดอยู่บนพื้นอย่างไร้ซึ่งเรี่ยวแรงในคราแรก เมื่อได้ยินเสียงร้อง ทันใดนั้นรูม่านตาเขาหดตัวลง ไม่รู้ว่าพละกำลังมาจากไหน ผลักฉินปัวออกอย่างแรง แล้ววิ่งโซซัดโซเซไปหาเซิ่งอันหราน

“อันหราน...”

ภายในลานบ้าน หม้อเหล็กขนาดใหญ่ที่ติดตั้งเครื่องกลั่นไว้ด้านใน ไม่รู้ว่าคว่ำลงมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เซิ่งอันหรานนอนอยู่ข้างๆ ปากหม้อ ที่น่องมีแผลถูกลวกเป็นสีน้ำตาลไหม้ขนาดใหญ่ ซ้ำยังมีควันสีขาวจากการเผาไหม้ลอยพุ่งขึ้นมา

อวี้หนานเฉิงจ้องมองด้วยความเจ็บปวด เหงื่อเย็นค่อยๆ ไหลลงมา เขารีบเข้าไปอุ้มเซิ่งอันหรานขึ้นมาแล้วพาออกไปยังนอกลานบ้าน

ฉินปัวเองก็ตกใจไม่แพ้กัน ใบหน้าซีดเผือดจ้องมองภาพตรงหน้า สติเลื่อนลอยไปชั่วขณะก่อนจะลุกขึ้นแล้ววิ่งตามไป พลางพูดตะกุกตะกัก

“ผม... ผมมีรถสามล้อไฟฟ้า ผมจะไปส่งพวกคุณที่สถานพยาบาลในเมือง”

ไม่ว่าอวี้หนานเฉิงจะเคียดแค้นมากเพียงใด แต่ก็ทำได้แค่อดทนและขึ้นไปบนรถสามล้อไฟฟ้าของเขา ขณะที่อุ้มเซิ่งอันหรานเธอหมดสติไปตลอดทาง ทำให้เขายิ่งเจ็บปวดหัวใจ

ตั้งแต่ที่เธออยู่กับเขามา หญิงสาวคนนี้คอยพบเจอแต่ปัญหาไม่เคยหยุดหย่อน

ณ สถานพยาบาลเมืองกวนไห่——

เซิ่งอันหรานถูกส่งเข้าห้องผ่าตัดเพื่อทำการรักษาบาดแผล บริเวณที่ถูกลวกไม่ใหญ่มาก แต่บาดแผลค่อนข้างลึก ขณะทำการล้างแผล มีเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดดังออกมาเป็นระยะ ตื่นขึ้นมาเพราะความเจ็บปวด และเป็นลมหมดสติไปอีกครั้ง

“พวกคุณไม่ให้ยาชาเธอเหรอ ทำไมถึงเจ็บขนาดนี้?”

ระหว่างทำการรักษาบาดแผล เมื่อเห็นคุณหมอเดินออกมา อวี้หนานเฉิงคว้าคอเสื้อคุณหมอทันที

เขาทำให้คุณหมอตกใจกลัว พูดอย่างตะกุกตะกัก

“ที่นี่เป็นสถานที่เล็กๆ ไม่มีวิสัญญีแพทย์หรอกครับ ไม่มีวิธีการอื่นแล้วจริงๆ เราเป็นเพียงสถานพยาบาลเล็กๆ ถ้าคุณมีความประสงค์มากขนาดนี้ คงต้องไปที่โรงพยาบาลใหญ่ในเมือง”

“ในเมืองอยู่ห่างออกไปอีกห้าสิบหกสิบกิโลเมตร ถ้าผมไปทันคุณคิดว่าผมจะไม่ไปงั้นเหรอ?”

น้ำเสียงของอวี้หนานเฉิงแหบแห้ง ดวงตาเต็มไปด้วยเส้นเลือดแดงฉาน

ระหว่างทางที่มาที่นี่เซิ่งอันหรานขดตัวสั่นเทาอยู่ในอ้อมแขนของเขา เห็นได้ชัดว่าเธอหมดสติไปแล้ว แต่ยังฝืนกัดฟันไม่ยอมส่งเสียงเจ็บปวดออกมาให้คนอื่นลำบากใจ

สถานที่เฮงซวย!

“คุณอย่าโทษคุณหมอเลย ที่นี่เป็นเพียงสถานพยาบาล ไม่มีวิธีอื่นจริงๆ”

ฉินปัวขมวดคิ้ว แล้วคว้าแขนของอวี้หนานเฉิงไว้ “คุณดึงคุณหมอไว้แบบนี้ จะไม่มีใครรักษาบาดแผลให้เซิ่งอันหราน”

อวี้หนานเฉิงอดกลั้น เขาสะบัดแขนออก แล้วต่อยไปที่ใบหน้าของฉินปัว และตามด้วยคำด่าถ้อยคำหยาบคาย

ฉินปัวเซถอยหลังไปหลายก้าว แล้วทรุดตัวลงตรงมุมห้อง เขาเงยหน้าเช็ดเลือดจากมุมปาก “มันเป็นความผิดของผมที่ทำร้ายคนไม่รู้อีโหน่อีเหน่ แต่ถ้าคุณไม่ชกผม ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ เรื่องทั้งหมดในวันนี้ก็จะไม่เปิดขึ้น”

“นายพูดเรื่องอะไร?”

ใบหน้าอวี้หนานเฉิงเย็นชา “พูดมาให้ชัดเจน”

“อะไร? จำไม่ได้เหรอว่าตัวเองทำอะไรไว้บ้าง?”

ฉินปัวมองด้วยความดูถูก ความเย็นชาฉายออกมาจากหางตา

“เสื้อผ้าเซิ่งเล่อเป็นแบรนด์เสื้อผ้าในเครือบริษัทเซิ่งถังของคุณไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมถึงเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนพนักงานทั้งหมด จะทำราวกับว่าเรื่องเมื่อห้าปีก่อนไม่เคยเกิดขึ้นงั้นเหรอ? เซิ่งถังเป็นบริษัทใจดำอำมหิตที่สุดที่ผมเคยเห็นมา แม้แต่เด็กเล็กๆ ยังไม่ยอมปล่อย”

เสื้อผ้าเซิ่งเล่อ?

อวี้หนานเฉิงขมวดคิ้วสงสัย

ฉินปัวไม่อยากพูดเรื่องไร้สาระกับเขาให้มากความ ค่อยๆ พิงกำแพงลุกขึ้นช้าๆ สีหน้าแววตาเยือกเย็นอ้างว้าง น้ำเสียงทุ้มลึกเอ่ยขึ้น

“ผมไม่เสียใจที่ต่อยคุณ ถ้าคุณแจ้งตำรวจ รับโทษสักแปดปีสิบปีก็ไม่เป็นไร แต่ก่อนอื่น ผมอยากรอให้คุณเซิ่งรู้สึกตัวก่อน ผมอยากขอโทษเธอ ผมไม่ได้ตั้งใจทำร้ายให้เธอบาดเจ็บ”

อวี้หนานเฉิงไม่รู้ว่าเขากำลังพูดถึงเรื่องอะไร แต่ฟังจากน้ำเสียงของฉินปัว เขามีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทที่ชื่อว่าเซิ่งเล่องั้นเหรอ?

ครั้นกำลังครุ่นคิด เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น ขัดจังหวะความคิดของเขา

อวี้หนานเฉิงมองดูเบอร์ที่โทรเข้ามา และเหลือบมองฉินปัว เขากดรับสาย ขณะเดินออกไปข้างนอกสถานพยาบาล

เป็นสายจากโจวฟัง

“มีเรื่องอะไร?”

“ท่านประธานอวี้ อาหารทะเลของทางนี้ถูกส่งไปจินหลิงทั้งหมดแล้ว ทำไมคุณไม่อยู่ที่บริษัทล่ะครับ?”

“มีธุระนิดหน่อย ตอนนี้ฉันยังอยู่ที่หลินปัว”

“แล้วที่บริษัทจะเริ่มประชุมโครงการในคืนนี้...”

“ดำเนินการตามปกติ เปลี่ยนเป็นประชุมทางวิดีโอ”

“ครับ ผมจะไปแจ้งให้ทุกคนทราบ”

ก่อนวางสาย อวี้หนานเฉิงเอ่ยถามขึ้น

“เมื่อห้าปีก่อน บริษัทเครื่องแต่งกายในเครือบริษัท เคยมีบริษัทหนึ่งที่ชื่อว่าบริษัทเซิ่งเล่อใช่ไหม?”

“เซิ่งเล่อ?”

ปลายสาย น้ำเสียงของโจวฟังลังเลอยู่ชั่วครู่

“ครับ มี แต่เท่าที่ผมรู้ก็เป็นเรื่องตั้งแต่เมื่อสี่ปีก่อน ความนิยมของแบรนด์เซิ่งเล่อติดลบอยู่ก่อนแล้ว เมื่อไม่มีค่าให้อยู่ต่อ ผมจึงยื่นคำร้องถอดถอน หลังจากนั้นสมาชิกในทีมที่มีอยู่เป็นทุนเดิมก็ถูกโยกย้ายจนหมดครับ”

“ทำไมฉันไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย?”

อวี้หนานเฉิงขมวดคิ้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน