ผูกรักท่านประธานพันล้าน นิยาย บท 205

เซิ่งอันหรานกลืนน้ำลาย มองดูชายตรงหน้าที่กำลังป้อนข้าวต้มอยู่ด้วยความอึดอัด

"ดูเหมือนประธานบริษัทในขณะนั้นจะเป็นคุณจริงๆสินะ"

“ไม่ใช่ดูเหมือน มันคือผมจริงๆนั่นแหละ”

อวี้หนานเฉิงยัดข้าวต้มปลาคำสุดท้ายเข้าปากเซิ่งอันหราน แล้วช้อนกระแทกผนังชามกระเบื้องด้วยเสียงคมชัด เขาวางมันลงบนเตียงแล้วเช็ดมือช้าๆ

“แต่ตอนนั้นไม่ใช่ผมที่รับผิดชอบแบรนด์เสื้อผ้า”

อวี้หนานเฉิงมองไปที่ฉินปัวและพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

“คุณก็ได้ยินที่ผมคุยโทรศัพท์แล้วไม่ใช่เหรอ? ยังสงสัยอยู่อีก? หรือว่าคุณแค่ไม่อยากยอมรับ”

ฉินปัวตัวสั่นด้วยความโกรธ “นั่นเกิดจากความขัดแย้งทางผลประโยชน์ระหว่างผู้บริหารระดับสูงของคุณ น่าขยะแขยงจริงๆ ที่ใช้นักออกแบบเป็นเกราะกำบังจากเหยื่อ”

“ถ้าคุณคิดอย่างนั้น ผมก็ไม่มีอะไรจะพูด”

อวี้หนานเฉิงชำเลืองมองมาที่เขา แล้วปั้นทิชชู่ในมือของเขาให้เป็นลูกบอลสีขาว โยนมันผ่านอากาศที่ถังขยะตรงปลายเตียงอย่างแม่นยำ

ถ้าไม่ใช่เพราะเซิ่งอันหราน เขาคงไม่ต้องอธิบายเรื่องแบบนี้ แต่มันเป็นความยุ่งเหยิงทั้งหมดที่อวี้ฉีเฟิงทิ้งไว้

"ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องเข้าใจผิด"

เซิ่งอันหรานมองไปที่คนสองคน "เซิ่งถังกรุ๊ปทำผิดกับพนักงานของบริษัทในตอนนั้น มันไม่ยุติธรรมเลยที่ทำลายชีวิตของผู้อื่นแบบนี้"

ฉินปัวเห็นด้วยอย่างยิ่งในประเด็นนี้

“แต่แม้ว่าเซิ่งถังกรุ๊ปจะทำไม่ถูก แต่คุณฉินก็ไม่ควรตำหนิคนอื่น โดยไม่ได้ค้นหาความจริง สิ่งนี้แตกต่างจากที่รุ่นพี่เซิ่งถังกรุ๊ปทำในเวลานั้นยังไง”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าฉินปัวก็ดูซีดเซียวในทันที

จากคำพูดที่อธิบายอย่างระมัดระวังของฉินปัวเมื่อครู่ เซิ่งอันหรานมองออกว่าเขาอาจรู้อยู่แล้วว่าตนเองทำผิดต่ออวี้หนานเฉิง และรู้สึกเสียใจกับมัน แต่เพียงแต่ยอมรับไม่ได้เท่านั้นเอง

“ถ้าอย่างนั้น วันนี้เห็นแก่หน้าฉัน ทุกคนจับมือกันสงบสติอารมณ์ ฉันกินข้าวต้มปลาของคุณแล้ว คุณฉิน มันอร่อยมาก ถึงมันจะร้อนจนลวกฉัน ฉันก็ไม่จ่ายเงินให้นะคะ "

เซิ่งอันหรานพูดติดตลก แต่ฉินปัวกลับไม่สามารถหัวเราะได้

นอกจากนี้ อวี้หนานเฉิงก็เย็นชาราวกับภูเขาน้ำแข็ง ไม่มีใครหัวเราะกับมุกตลกนั้น ชั่วขณะนั้นบรรยากาศก็ยิ่งน่าอึดอัดขึ้นไปอีก

“เขาต้องขอโทษผม”

นิ้วของอวี้หนานเฉิงชี้ไปที่รอยฟกช้ำที่มุมปากให้เซิ่งอันหรานได้เห็น "ขอโทษมันยังน้อยไปด้วยซ้ำ"

“คุณ…” ฉินปัวชี้อย่างโกรธไปที่รอยคล้ำใต้ตาของเขา “ผมก็ถูกคุณต่อยเหมือนกัน”

“ถือว่าเจ๊ากัน”

เมื่อเห็นจังหวะไม่ค่อยดี เซิ่งอันหรานก็กระแอมอย่างแรง “อะแฮ่ม...”

ทั้งสองหยุด ทั้งคู่มองดูเธออย่างประหม่า

“ฉันมาไกลเพื่อหาดีไซเนอร์และเซ็นสัญญา แต่คุณสองคนมาทะเลาะกันอยู่แบบนี้ คิดว่ามันน่ารำคาญไหม?”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ อวี้หนานเฉิงรู้สึกละอายใจ

ถ้าไม่ใช่เพราะเขา เซิ่งอันหรานก็จะไม่ได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นเขาจึงจ้องไปที่ฉินปัวอย่างเย็นชา

ฉินปัวจ้องมองกลับมาอย่างไม่ใส่ใจ จากนั้นมองไปที่เซิ่งอันหรานและยืนยันว่า "คุณเซิ่ง คุณบอกผมก่อนหน้านี้ว่าคุณกับเซิ่งถังกรุ๊ปไม่ใช่บริษัทเดียวกัน ผมต้องการยืนยันอีกครั้งว่าจริงหรือไม่"

"แน่นอน" เซิ่งอันหรานพยักหน้า "แม้ว่านามสกุลของฉันคือเซิ่ง แต่ฉันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกเขายกเว้นอดีตพนักงานของโรงแรมเซิ่งถัง เครื่องแต่งกายชิงเหมิงเป็นธุรกิจของครอบครัวเรา แต่ตอนนี้ ฉันรับผิดชอบแล้ว "

คำว่า "อดีตพนักงาน" ราวกับว่าจงใจพยายามเตือนบางอย่างกับอวี้หนานเฉิง และเขาก็กลืนสิ่งที่เขาจะพูดกับฉินปัวอย่างเงียบ ๆ

"งั้นก็ดีครับ"

ฉินปัวพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม "จากนั้นผมจะเซ็นสัญญากับคุณ เงื่อนไขอะไรก็ได้ ผมจะถือเป็นการชดใช้สำหรับคุณ"

"อะไรนะ?"

เซิ่งอันหรานตกตะลึง “คุณพูดจริงเหรอ? พูดอีกครั้งได้ไหม?”

ฉินปัวจริงจังและพูดซ้ำอีกครั้งอย่างมั่นใจ

ความสุขเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ใครจะคิดว่าฉินปัวมีความรับผิดชอบ ถึงขนาดยอมหลังจากที่เขาเผาขาของเธอไปข้างหนึ่ง มันคุ้มค่ามาก !

“แล้วฉันจะร่างสัญญาเมื่อกลับไป แล้วจะมีคนส่งให้คุณอีกทีนะคะ”

“ไม่ต้อง พวกคุณไปก่อนเถอะ ผมจะแพ็คของที่นี่และไปที่จินหลิง ยังไงผมก็มีเงื่อนไขอยู่นะ”

“เงื่อนไขเหรอ?” อวี้หนานเฉิงจ้องมาที่เขา

“ว่ามาสิ” เซิ่งอันหรานบีบเขาและยิ้มให้ฉินปัว “เงื่อนไขแบบไหนก็ได้”

แบบนี้ก็ได้เหรอ? ใบหน้าของอวี้หนานเฉิงฉายแววความไม่พอใจ

“ผมอาศัยอยู่ที่จินหลิง และผมต้องการที่อยู่ชั่วคราว อีกสักพักผมจะหาบ้านและย้ายออกไปเอง”

“ได้ ฉันจะจัดการให้ เมื่อคุณไปถึงก็สามารถเข้าไปอยู่ได้เลย”

เซิ่งอันหรานตกลงอย่างง่ายดาย

รู้ไหมว่าการเซ็นสัญญากับนักออกแบบที่มีชื่อเสี่ยง นั่นหมายถึงการเซ็นสัญญากับบ่อเงินพ่อทองเลยนะ ! ก็แค่ที่พักจะไปกลัวอะไร?

"ยินดีที่ได้ร่วมงานกันค่ะ"

เซิ่งอันหรานพยายามยื่นมือออกไปเพื่อจับมือกับฉินปัว

ทันใดนั้นอวี้หนานเฉิงก็จับมือของเธอเอาจับไว้ และผลักเธอกลับไปที่เตียงอย่างไม่อดทน “แผลไม่หาย ลืมเจ็บแล้วหรือไง? ยินดีที่ร่วมมืออะไรกัน?"

ฉินปัวเหลือบมองเขาอย่างดูถูกและพูดอย่างเงียบ ๆ "พ่อม่ายการแต่งงานแบบนี้ คุณเซิ่งต้องคิดให้รอบคอบนะครับ"

“คุณกำลังพูดเรื่องอะไร?” ใบหน้าของอวี้หนานเฉิงมืดสนิท

“ผมจะกลับไปเก็บของ และรีบตามไปให้เร็วที่สุด”

ดูเหมือนฉินปัวจะทำเป็นไม่ได้ยิน ทิ้งความรู้สึกเย็นชาและออกจากโรงพยาบาลไป

“เฮ้ คุณฉิน ชามของคุณ”

มีเสียงดังขึ้นในห้องโถงทางเดินศูนย์สุขภาพ

“ทิ้งไปเถอะ ผมย้ายบ้านก็ซื้อชามใหม่อยู่ดี”

จนกระทั่งฉินปัวเดินออกไปเป็นเวลานาน เซิ่งอันหรานก็ยังคงจ้องมองไปยังทิศทางที่เขากำลังเดินออกไปและหัวเราะคิกคัก

“มีความสุขพอหรือยัง?” อวี้หนานเฉิงจ้องที่เธออย่างเย็นชา

เซิ่งอันหรานเลิกคิ้ว “แน่นอน ก็ฉันจะได้เซ็นสัญญากับดีไซเนอร์เก่งๆนี่นา”

“คุณไม่เคยยิ้มแบบนี้กับผมเลย”

"กับคุณเหรอ?"

เซิ่งอันหรานเหลือบมองเขาอย่างรังเกียจ "ฉันยิ้มให้คุณแบบนี้จะว่าฉํนบ้าเอาน่ะสิ"

ถ้าถานซูจิ้งมาเห็น เธอคงบอกว่ากินยาผิดแน่ๆ

หยุนหนานเฉิงไม่พอใจกับผลลัพธ์มาก กัดฟันและพูดว่า

“ตอนที่คุณทำแผลอยู่ ผมพยายามหนักเพื่อหาวิธีเอาชนะดีไซเนอร์ไม่มีตาคนนี้ แต่พอคุณฟื้นขึ้นมา คุณก็เอาแต่คิดถึงหมอนั่น เซิ่งอันหราน คุณมีอะไรอยากบอกผมไหม?”

พูดจบก็รู้สึกเสียใจ ขมวดคิ้วและต้องการจะจากไป

หากเป็นเมื่อก่อน เขาคงไม่สามารถพูดอะไรได้ ตอนนี้เขาอาจจะวิตกกังวลและพูดประชดประชันเพื่อเรียกร้องเครดิต

ทันใดนั้นเซิ่งอันหรานก็จับมือเขา มือใหญ่และร้อนที่เป็นเอกลักษณ์ของผู้ชาย

เธอเอนตัว ส่วนเว้าส่วนโค้งของหญิงสาวก็ปรากฏขึ้นโดยชัดเจน จากนั้นก็ประทับจูบลงไปเบาๆที่ริมฝีปากของอวี้หนานเฉิง

"ขอบคุณนะคะ"

จู่ๆ ห้องก็เงียบลง และเขาก็ได้ยินเสียงที่นุ่มนวลที่สุด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน