การกระทำของชายสวมแจ็กเกตหนังเป็นสิ่งที่ทุกคนคาดไม่ถึง
แม้แต่ตำรวจที่ทำการคุมตัวเขาอยู่ก็คาดไม่ถึงเช่นกัน เขาก็ไม่ได้ทำร้ายใคร เพียงแค่พูดคำไม่กี่คำออกมาเท่านั้น
แต่ฝูงชนเริ่มปั่นป่วน และเบนสายตามาที่เซิ่งอันหราน
“เมื่อกี้ผมเพิ่งเห็นบัตรประจำตัวประชาชนของเธอ เธอชื่อเซิ่งอันหราน เธอเป็นลูกสาวคนรองของ เซิ่งชิงซาน จับเธอไว้ แล้วให้เธอเป็นคนจ่ายเงินคืน”
ชายสวมแจ็กเกตหนังเติมเชื้อเพลิงลงในกองไฟอย่างสุดกำลัง
เหตุการณ์กำลังพัฒนาไปในทิศทางที่ไม่สามารถควบคุมได้
เซิ่งอันหรานยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน ตำรวจดับเพลิงหนุ่มที่อยู่ทางด้านข้าง ดึงเธอเข้ามาไว้ในอ้อมแขนของเขาเพื่อเป็นการปกป้องเธอ แต่ทว่าเขาไม่สามารถต้านทานต่อการดึง การถูกด่า และการเตะได้
“จับเธอมา คืนเงินมา”
“คืนเงิน...”
ทั้งสองรูหูเต็มไปด้วยเสียงเหล่านี้
ในขณะที่ผู้นำตำรวจเรียกกำลังเสริม ขบวนรถปอร์เช่สีดำค่อยๆขับต่อแถวกันมาอย่างเป็นระเบียบ และเบรกพร้อมๆกับอย่างสม่ำเสมอจนน่าประหลาดใจ
ชายหนุ่มผู้แข็งแกร่งนับสิบคนเปิดประตูลงมาจากรถ ก่อนที่ตำรวจจะมีปฏิกิริยาโต้ตอบ พวกเขาก็ได้แยกกันเป็นกลุ่ม และกระจายตัวออกไปบนถนน
ชายหนุ่มในชุดสูท สวมรองเท้าหนังรีบเดินข้ามถนนเข้าไปท่ามกลางฝูงชน และเมื่อเขาเดินกลับออกมาอีกครั้ง ภายในอ้อมแขนของเขาก็คือหญิงสาวที่ถูกฝูงชนรุมทำร้าย
เซิ่งอันหรานยังไม่ทันได้ตั้งตัว เหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก ก่อนที่เธอจะได้รับการช่วยเหลือ ศีรษะของเธอก็ถูกกระแทกด้วยวัตถุที่แข็งทื่อ จากนั้นเธอก็หมดสติไปในทันที
ตื่นมาอีกครั้ง ก็ตอนดึกมากๆแล้ว
การตกแต่งห้องเป็นแบบเรียบๆ แต่รายละเอียดดูค่อนข้างหรูหรา ข้างโต๊ะหัวเตียงวางไม้หอม ซึ่งสามารถทำให้รู้สึกผ่อนคลายและสบายใจขึ้น
เซิ่งอันหรานค่อยๆใช้มือเท้ากับที่นอนและพยุงตัวขึ้นนั่งพิงหมอน ผ้าห่มหลุดออกจากตัวของเธอ เผยให้เห็นชุดนอนผ้าไหมสีชมพู
"ตื่นแล้วเหรอ?"
เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น เซิ่งอันหรานเงยหน้าขึ้น เธอเห็นร่างอันสูงใหญ่ของกู่เจ๋อ ยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องนอน พร้อมกับถือถาดอาหารไม้เข้ามา
ในถาดมีโจ๊กเนื้อและผักดองเค็มแบบเรียบง่าย แต่สำหรับคนที่หลับไปนาน ๆ มันเป็นของที่อร่อยที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
"นี่มันจะใจแคบเกินไปแล้วนะ คุณอาศัยอยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่และราคาแพงแบบนี้ แต่กลับให้ฉันทานโจ๊กเนี่ยนะ ?”
เซิ่งอันหรานกำลังนั่งทานโจ๊กอยู่บนเตียง ส่วนกู่เจ๋อนั่งบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม เขาพลิกดูนิตยสารการท่องเที่ยว และพูดขึ้นอย่างจำใจว่า "ถ้าตอนนี้ทำรังนกหรือหูฉลามให้คุณกิน คุณจะกินไหม?"
"กินไม่ลง"
“นับว่ายังฉลาดอยู่ ” กู่เจ๋อส่ายหัว และพูดขึ้นราวกับเกลี้ยกล่อมเด็กน้อย “กินโจ๊กก่อน อุ่นท้องไว้ แล้วเดี๋ยวจะพาไปกินอย่างอื่น แต่คุณหมอบอกว่าคุณบาดเจ็บที่ศีรษะ ดังนั้น คุณไม่ควรกินของแสลง "
เซิ่งอันหรานเงยหน้าขึ้นมองกระจกบานใหญ่ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ศีรษะของเธอถูกพันด้วยผ้าพันแผลและดูเหมือนมัมมี่ที่ถูกห่อแบบลวกๆ เซิ่งอันหรานเริ่มรู้สึกไม่พอใจ
“ทำไมคุณถึงห่อฉันแบบนี้ แล้วดูสิ ฉันไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ”
กู่เจ๋อทำอะไรไม่ถูก
"พันไว้แบบนี้ แล้วถ่ายรูปลงบนอินเทอร์เน็ต มันถึงจะหยุดคนที่ดุด่าคุณได้ "
ทุกวันนี้ไม่มีอะไรมีประโยชน์ไปกว่าการทำตัวน่าสงสาร
เซิ่งอันหรานทำหน้ามุ่ย เธอมองกระจกและเริ่มเล่นผ้าพันแผลที่อยู่บนหัว แต่ดูเหมือนว่ามือของเธอจะเผลอไปชนเข้ากับปากแผล ความเจ็บปวดมันทำให้เธอยิ้มแทบไม่ออก
“อย่าขยับตามใจชอบแบบนั้นสิ ” กู่เจ๋อขมวดคิ้วอย่างกะทันหัน เขารู้สึกเจ็บแทนเธอ
เซิ่งอันหรานตกตะลึงกับท่าทางที่จริงจังของเขา เธอเม้มริมฝีปากและร้องขึ้นว่า 'อ้อ' เซิ่งอันหรานเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตเธอเอาไว้
"คุณเป็นคนช่วยฉันไว้ใช่ไหม?"
สีหน้าของกู่เจ๋อดูเคร่งขรึม เขามองเธอด้วยความสงสัย
“ไม่ใช่อวี้หนานเฉิง ดังนั้นก็เลยผิดหวังเหรอ ?”
เมื่อได้ยินชื่อของใครบางคน ทำให้เซิ่งอันหรานถึงกลับพูดไม่ออก
“อย่าพูดในสิ่งที่ฉันไม่อยากจะฟังได้ไหม? ข่าวกรองของคุณดีจะตาย คุณจะไม่รู้ได้ยังไงว่าฉันเลิกกับเขาแล้ว จริงไหม ”
กู่เจ๋อละสายตาจากนิตยสาร เขาหันไปมองที่เซิ่งอันหราน พร้อมกับพูดขึ้นอย่างมีความหมายแอบแฝง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน