ตอน บทที่ 223 ถ้าจับเธอ พวกคุณก็จะได้เงินคืน จาก ผูกรักท่านประธานพันล้าน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 223 ถ้าจับเธอ พวกคุณก็จะได้เงินคืน คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายInternet ผูกรักท่านประธานพันล้าน ที่เขียนโดย อานหร่าน เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
เดิมทีรถถูกขวางไว้ มันค่อยๆเคลื่อนที่ราวกับรถไต่เขาไม่มีผิด รถกำลังแล่นไปบนถนนอันมีผู้คนพลุกพล่าน เมื่อเห็นว่าสภาพถนนด้านหน้าค่อยๆโล่ง และสามารถเร่งการจราจรได้ แต่จู่ๆทางด้านในของรถก็มีเสียง "หยุด" ดังขึ้นมาอย่างกะทันหัน เสี่ยวหลิวคนขับตกตะลึงเล็กน้อย
"อะไรนะครับ?"
ไม่ว่าจะเป็นเสี่ยวหลิว คุณอา น้าสะใภ้ หรือเสี่ยวซิงซิง ต่างก็ตกตะลึง
แต่ปฏิกิริยาของน้าสะใภ้นั้นดูเหมือนจะไวที่สุด เธอคว้าแขนของเซิ่งอันหรานไว้ได้ อย่างรวดเร็ว
“เธอจะทำอะไรน่ะ? ลืมสัญญาที่เพิ่งให้ไว้กับฉันแล้วเหรอ ว่าเธอจะไม่โดดลงไปในบ่อน้ำโคลนนี้อีก”
เซิ่งอันหรานขมวดคิ้ว และมองออกไปทางด้านนอกหน้าต่างโดยไม่ลังเล
“คุณน้าสะใภ้ ตอนนี้มีคนกำลังจะตายนะ”
แม้ว่าเธอจะไม่ได้เป็นคนที่เปี่ยมล้นไปด้วยน้ำใจมากมายขนาดนั้น แต่เพราะความเห็นอกเห็นใจของคนประเภทเดียวกัน เธอรู้สึกว่า ไม่ว่าชีวิตของใครก็ไม่ควรได้รับการตอบแทนที่ดูต่ำช้าเช่นนี้
ด้านหน้าเป็นไฟแดง และเสี่ยวหลิวคนขับรถลังเลเล็กน้อย หลังจากที่เห็นคุณผู้ชายเหลือบมามองเขา เขาก็เข้าใจได้ทันที จากนั้นก็ค่อยๆหยุดรถ
สีหน้าของน้าสะใภ้ดูไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก "อันหราน หรือเธอคิดว่าตัวเองมีคนของตระกูลอวี้ อี้หนานเฉิงคนนั้นเคียงข้าง ถึงได้กล้าที่จะทำอะไรโดยไม่เกรงกลัวแบบนี้ ? นี่คือกลุ่มบริษัท เธอรู้หรือไม่ว่าช่องโหว่ทางการเงินของมันเป็นหลุมลึกแค่ไหน แล้วเธอจะมีปัญญาเอาอะไรไปปิดมันได้ ?”
เมื่อได้ยินชื่อ 'อวี้หนานเฉิง' เซิ่งอันหรานก็ดูเหมือนจะเหม่อลอยไปครู่หนึ่ง
น้าสะใภ้ยังไม่รู้ว่าเธอได้เลิกกับอวี้หนานเฉิงไปนานแล้ว และเธอก็ยังไม่มีโอกาสบอกเรื่องนี้กับพวกเขา
“น้าสะใภ้ คุณคิดว่าการปล่อยให้กลุ่มเซิ่งซื่อล้มละลายเป็นเรื่องที่ดีจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ ?” เซิ่งอันหรานสงบสติอารมณ์ลง และมองดูน้าสะใภ้ด้วยแววตาที่จริงจัง
“นั่นไม่ใช่เป็นเพียงแค่อาชีพของคุณพ่อเท่านั้น แต่นั่นยังเป็นความตั้งใจของคุณแม่ด้วย”
มือของน้าสะใภ้ที่คว้าจับแขนของเซิ่งอันหราน แข็งทื่อไปในชั่วขณะ
เวลาผ่านไปนานเหลือเกิน จนเธอเกือบลืมไปว่ากลุ่มบริษัทนี้ มันมีความเชื่อมโยงกับเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิตของเธออย่างแยกไม่ออก การลืมมันไปเลย มันน่าจะดีกว่าการปฏิเสธที่จะยอมรับมัน
ในช่วงปีแรกๆ ที่เซิ่งชิงซานเริ่มเข้ามาสู่อาชีพนี้ แหล่งที่มาของเงินทุนหรือแม้แต่ความคิดดีๆ มากมายของบริษัทก็มาจากภรรยาคนเดิมของเขา ซูเมิ่งอาจกล่าวได้ว่าครึ่งหนึ่งของเครดิตสำหรับการเพิ่มขึ้นของเซิ่งซื่อกรุปเป็นเพราะซูเมิ่ง
ตอนเริ่มต้น ซูเมิ่งยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของเซิ่งซื่อกรุปและเป็นสมาชิกคนสำคัญของคณะกรรมการบริหารด้วย แต่เธอเสียชีวิตในการคลอดบุตรที่ยากลำบากของเธอ ทำให้คนในตระกูลซูเกลียดชังเซิ่งชิงซาน และแม้แต่หุ้นของเซิ่งซื่อกรุปก็ไม่ต้องการ จึงโอนขายออกไปในราคาต่ำ
“สำหรับอสังหาริมทรัพย์แห่งใหม่ที่พัฒนาโดยเซิ่งซื่อกรุป ผมได้จ่ายเงินดาวน์ไป 200,000 หยวน เป็นการยืมเงินจากญาติและเพื่อน มันบอกว่ายังไม่เสร็จ ตอนนี้แฟนของผมหนีไปกับคนอื่นแล้ว ส่วนพ่อของผมโมโหจนโรคหลอดเลือดสมองแตกและเป็นอัมพาต ทุกๆเดือนผมมีภาระที่ต้องส่งเงินให้เขา แต่ตอนนี้ เงินเดือนครึ่งปีผมก็ยังไม่ได้รับ"
บนดาดฟ้าของชั้นสามสิบห้า ลมฤดูใบไม้ร่วงก็ส่งเสียงกรอบแกรบ เสื้อแจ็กเกตหนังสีดำของชายคนนั้นขาดเป็นรูๆ ริมฝีปากของเขาทั้งแห้งและแตก สีหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ เขาตะโกนพูดระบายเรื่องทุกอย่างที่เคยเจอ และโทษเซิ่งซื่อกรุป
“ถ้าพวกคุณไม่คืนเงินให้ผม ผมก็แค่กระโดดจากตรงนี้ และต่อให้จะเป็นผีไปแล้วก็จะไม่ปล่อยให้ทุกคนที่ทำงานในตึกนี้อยู่อย่างเป็นสุข ”
คนงานทางด้านล่างเริ่มมีการพูดสนับสนุน พวกเขาดูฮึกเหิมขึ้นมา
ในกลุ่มนี้มีคนร่างผอมบางรีบออกมาอธิบายสถานการณ์ให้ตำรวจดับเพลิงและนำตำรวจดับเพลิงเข้าไปในอาคาร
“หัวหน้าเซิ่งซื่อกรุปล้วนแต่เป็นเต่าหดหัว เป็นคนเลว เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นขนาดนี้แล้ว แต่ยังไม่มีใครกล้าที่จะออกมาพูด ผมรู้ว่าผมไม่สามารถเอาเงินคืนจากพวกนั้นได้ ดังนั้นผมจะโดดลงไปเดี๋ยวนี้”
"ใจเย็นๆก่อน !เราได้ส่งคนไปติดต่อกรรมการของเซิ่งซื่อกรุปแล้ว"
นักผจญเพลิงบนหลังคายังคงอยู่ห่างจากชายสวมแจ็กเกตหนังประมาณ 5-6 เมตร เมื่อมองดูร่างที่สั่นคลอนบนหลังคา ทุกคนดูกังวลใจกับมาตรการรับมือต่างๆ
"ไม่มีเงินก็หาใหม่ได้ แต่ถ้าไม่มีชีวิตอยู่ต่อ จะทำอะไรก็ทำไม่ได้แล้ว "
"ไม่มีเงิน คนมีชีวิตอยู่จะมีประโยชน์อะไร ?"
เห็นได้ชัดว่าชายในเสื้อหนังไม่ได้รู้สึกกลัวอะไรเลย บนหน้าผากของเขาเผยให้เห็นเส้นเลือดเป็นเส้นๆด้วยความโมโห "อย่าเข้ามานะ ผมจะนับถึงสาม ถ้าไม่มีใครจากเซิ่งซื่อกรุปออกมาตอบรับผม ผมก็จะกระโดดลงไปทันที"
"กำลังเดินทางมาใกล้จะถึงแล้ว"
"หนึ่ง"
"คุณใจเย็นๆก่อน"
“ปล่อยผมนะ ปล่อยผม...”
ชายสวมแจ็กเกตหนังดิ้นรน และตะโกนขึ้นด้วยโกรธแค้น “พวกแกหลอกฉันใช่ไหม พวกแกหลอกฉัน ”
ไม่ไกลออกไปจากตรงนั้น เซิ่งอันหรานยืนถอนหายใจด้วยความโล่ง
ชายสวมแจ็กเกตหนังถูกตำรวจดับเพลิงคุมตัวไว้แน่น และตอนที่เขาเดินผ่านเซิ่งอันหราน ดวงตาของชายผู้นี้ดูเหมือนจะโกรธ โกรธกระทั่งกินเนื้อคนได้เลยทีเดียว แต่เมื่อเขาเหลือบมองสิ่งที่อยู่ในมือของเซิ่งอันหราน ทันใดนั้นนัยน์ดวงตาของเขาก็ดูซับซ้อนมาก
เซิ่งอันหรานผงะ ตอนที่เธอกำลังจะถามอะไรบางอย่างออกไป จู่ๆ น้ำเสียงที่ดูสดใสก็ดังขึ้นจากทางด้านหลังของเธอ
“ขอบคุณมากนะ คุณสังกัดตำรวจเขตไหนล่ะ? ทำไมไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลย?”
ทันทีที่หันกลับไป เธอก็พบกับตำรวจดับเพลิงหนุ่ม
นี่หรือว่า เขาคิดว่าเธอเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบไปแล้ว?
เซิ่งอันหราน ส่ายหัวอย่างเร่งรีบ “ฉันไม่ใช่ ฉันเป็นแค่คนเดินผ่านมาเห็นเหตุการณ์เท่านั้น ดังนั้น…”
“จริงเหรอ? ถ้าอย่างนั้นคุณก็มีไหวพริบที่ดีจริงๆ”
“คงไม่ใช่ไหวพริบดีหรอกมั่งค่ะ ฉันพูดความจริง”
เซิ่งอันหรานเดินตามตำรวจดับเพลิงลงไปที่ชั้นล่าง ที่บริเวณชั้นล่างถูกคนงานและฝูงชนบิดกั้นเอาไว้
ดูเหมือนตำรวจจะกลัวว่าชายสวมแจ็กเกตหนังจะคิดสั้นอีก เลยปฏิเสธที่จะปล่อยตัวเขา และนำตัวเขาขึ้นรถพยาบาลออกไป เจ้าหน้าที่คงจะพาตัวเขาไปพบจิตแพทย์เพื่อบำบัด ฟังจากคำพูดของเขาแล้ว เขาน่าจะมีปัญหาทางจิตเล็กน้อย
เมื่อเขาลงไปชั้นล่าง นักตำรวจดับเพลิงบอกเซิ่งอันหรานว่า ชายผู้นี้ไม่มีแฟน และเขาก็ไม่ได้จ่ายเงินดาวน์จำนวน 200,000 หยวนด้วย
เสี้ยววินาทีก่อนที่ชายสวมเสื้อหนังจะถูกส่งตัวขึ้นรถพยาบาล ทันใดนั้น เขาก็หันกลับมาและตะโกนบอกกับฝูงชน
“เธอเป็นลูกสาวของเซิ่งชิงซาน! ถ้าพวกคุณจับเธอ พวกคุณก็จะได้เงินคืน ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน