กู้เทียนเอินขมวดคิ้วขึ้น ตั้งใจพูดยั่วยุ
“ใช่แล้ว บ้านพวกเรา”
อวี้หนานเฉิงสีหน้ามืดครึ้มลงทันที“กู้เทียนเอิน นายลืมเรื่องอะไรไปรึเปล่า?”
ไม่รอให้กู้เทียนเอินพูด เซิ่งอันหรานถลึงตาใส่อวี้หนานเฉิง
“ไม่ได้ถามคุณ ตอนนี้คุณสามารถหุบปากได้”
พูดจบ เธอมองอวี้อีอี“อีอีเธอพูด ทำไมเธอถึงมาที่นี่?”
อวี้อีอีเม้มปากสีหน้าน้อยใจ มือเล็กสั่นเทาชี้ไปตรงหน้าอวี้หนานเฉิง“ก็เป็นเพราะว่าเขา เขาบ้าไปแล้ว คาดไม่ถึงว่าจะพูดกับพ่อบุญธรรมว่าจะแต่งงานกับฉัน?ฉันยังไม่บรรลุนิติภาวะ”
กู้เทียนเอินเพิ่งจะดื่มน้ำก็สำลักออกมา มองไปทางอวี้หนานเฉิงด้วยความตกใจ“รู้ว่าคุณโรคจิต แต่ไม่คิดว่าคุณจะเสียสติขนาดนี้”
อวี้หนานเฉิงขมวดคิ้ว มองคราบน้ำบนแขนเสื้อตัวเองอย่างไม่พอใจ สายตาเต็มไปด้วยการกล่าวเตือน
“พูดต่อไป”เซิ่งอันหรานมองอวี้อีอี ถึงแม้ว่ารู้สึกว่าประหลาดใจ แต่ก็ยังให้หญิงสาวพูดต่อไป
“พ่อบุญธรรมให้เขาแต่งงานกับหลินมั่นหัน เขาไม่พอใจ ก็ทะเลาะกับพ่อบุญธรรม พ่อบุญธรรมพูดว่าต้องแต่งงานก่อนสิ้นปีนี้ ใครก็ได้ เขาก็ดึงฉันมาจากประตู พูดว่าจะแต่งงานกับฉัน พวกคุณคิดว่า เขาเป็นบ้าไหม?”
ได้ฟัง เด็กน้อยสองคนที่นั่งเคียงข้างกันบนโซฟามองอวี้หนานเฉิงเหมือนมองคนบ้า เซิ่งเสี่ยวซิงคือรังเกียจ อวี้จิ่งซีคือดูถูกอย่างโจ่งแจ้ง
อวี้หนานเฉิงไอออกมา“พูดตามอำเภอใจเท่านั้นเอง”
“พูดตามอำเภอใจว่าคุณจะแต่งงานกับหญิงสาวที่อายุสิบสาม?มิน่าล่ะเธอถึงได้ตกใจจนหนีออกมาจากบ้าน”เซิ่งอันหรานกลอกตามองบนใส่เขา ไม่รอให้เขาพูดอธิบาย ก็มองไปทางอวี้จิ่งซี
“จิ่งซีล่ะ?ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่”
ถึงแม้ว่าตอนนี้จะสามารถพูดคำง่ายๆได้แล้ว แต่ประโยคที่สมบูรณ์ยังน้อยมาก ได้ยินก็หยิบกระดานเล็กออกมาแล้วเขียนเรียงคำ“พ่อทะเลาะกับคุณปู่ ถูกไล่ออกมาแล้ว”
อวี้อีอีได้เห็นประโยคนี้ ก็พูดด่าออกมา
“สมน้ำหน้า”
อวี้หนานเฉิงมองเธอ เธอก็นำศีรษะไปหลบด้านหลังของกู้เทียนเอิน ไม่กล้าพูดอีก
เมื่อได้ถามแล้ว เซิ่งอันหรานก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นแล้ว
เหตุผลเดิมเป็นเพราะว่าอวี้หนานเฉิงโกหกผู้อาวุโสว่าเขากับหลินมั่นหันอยู่ด้วยกัน ทำให้ผู้อาวุโสกำหนดวันแต่งงานด้วยความดีใจ เขาจึง
สารภาพ หลังจากที่ทำให้ผู้อาวุโสโกรธแล้ว ก็ระบายความโกรธกับอวี้อีอี และสภาพปัจจุบันก็เป็นแบบนี้
“คุณกับผู้อาวุโสทะเลาะกัน แล้วมาที่ฉันทำไม?”
เซิ่งอันหรานมองอวี้หนานเฉิง“ฉันทำได้มากสุดคือรักษาคำพูดที่จะทำอาหารเย็นให้จิ่งซี หลังจากนั้นคุณก็กลับไป”
อวี้หนานเฉิงพิงบนโซฟา แทบจะคาดเดาว่าเซิ่งอันหรานจะต้องพูดแบบนี้แน่นอน
“ได้ แต่คืนนี้ฉันกับจิ่งซีก็ไม่มีที่จะอยู่ ผู้ใหญ่ไม่เป็นไร แต่เด็กรับลมทั้งคืน พรุ่งนี้ถ้าป่วยก็ต้องไปอยู่โรงพยาบาล พรุ่งนี้เธอก็ส่งกับข้าวไปที่โรงพยาบาลเถอะ”
“คุณ…”เซิ่งอันหรานมองอวี้หนานเฉิงอย่างไม่อยากเชื่อ“คุณปู่แค่ไล่คุณออกจากบ้านเก่าเท่านั้นเอง ทำไมคุณถึงไม่มีที่จะอยู่แล้ว”
คนที่รวยที่สุดในเมืองจินหลิงวิ่งมาร้องห่มร้องไห้ต่อหน้าตัวเอง นั่นไม่ใช่ล้อเล่นเถอะ?
“โทรศัพท์กระเป๋าเงินไม่ได้พามา ก็เหลือแค่รถ”
อวี้หนานเฉิงเลิกคิ้วขึ้น สีหน้าคือจะเชื่อก็เชื่อไม่เชื่อก็ไม่เชื่อ นำกุญแจรถควักออกมาวางบนโต๊ะ สัญญาลักษณ์สีทองแวบวับ
“ไม่เลว”กู้เทียนเอินถลึงตาใส่เขา“รถคุณคันนี้ ขายซื้อคอนโดเดี่ยวได้แล้วหนึ่งห้อง”
“ถ้านายสามารถขายซื้อคอนโดได้ จะให้ค่าคอมมิชชั่นนายยี่สิบเปอร์เซ็นต์ ฉันเรียกร้องน้อยมาก ไม่น้อยกว่าสองร้อยตารางเมตร ห้องนั่งเล่นเปิดออกสู่ระเบียง มีห้องนอนส่วนตัว”
“อะไร พี่อันหราน คุณดู”กู้เทียนเอินชำเลืองมองอวี้หนานเฉิงด้วยความดูถูก“คุณชายใหญ่คนแบบนี้ ใครเก็บเขาไว้ก็โง่แล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน