คำพูดหนึ่งประโยคของเซิ่งอันหราน ทำให้กู้เทียนเอินต้องกลืนคำพูดที่เหลืออยู่อีกครึ่งกลับลงคอ เขาทำได้เพียงแค่พยักหน้าให้กับเซิ่งอันหราน
“ใช่ คือแม่ของผม "
"ปฏิบัติต่อผู้หญิงเหมือนเธอเป็นแม่คงจะไม่ดีเท่าไหร่มั่ง เพราะตอนนี้ผู้หญิงมักจะคิดเล็กคิดน้อยเกี่ยวกับเรื่องนี้"
เซิ่งอันหรานเตือนด้วยความเป็นห่วง จากนั้นก็ยื่นมือออกไปหยิบกระเป๋าของตัวเอง “ฉันมีเรื่องต้องจัดการที่บริษัท ขอตัวไปก่อนล่ะ”
“ผมจะไปส่ง”กู้เทียนเอินลุกขึ้น
“ไม่ต้องหรอก ”เซิ่งอันหรานโบกมือปฏิเสธและเหลือบมองไปทางห้องเตรียมอุปกรณ์ของร้าน
“ผู้หญิงที่ชื่อเย่จื่อคนนั้นบอกว่าเธอจะไปกินพิซซ่าไม่ใช่เหรอ ? มันเป็นสิ่งที่เธอต้องการ นายก็พาเธอไปเถอะ ส่วนฉันรู้ทาง ฉันไปเองได้ ”
หลังจากพูดจบเซิ่งอันหรานก็ถือกระเป๋าขึ้นมา พร้อมกับหันหลังและเดินออกตรงไปประตูหน้าร้านชานม
“เฮ้ ?แล้วพี่สาวนายล่ะ ?”
เย่จื่อวางพิซซ่าร้อนๆลงบนโต๊ะ เสียงแผ่นเหล็กกระแทกกับโต๊ะดังขึ้น ทำให้กู้เทียนเอินตกใจ “เธอทำอะไร? เธอเป็นผู้หญิงนะ ขยับตัวหรือทำอะไรเบาๆ หน่อยได้ไหม? อยากทำให้ฉันตกใจตายหรือยังไง ? "
เมื่อได้ยินเช่นนั้น รอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าของเย่จื่อก็แข็งทื่อขึ้นเกือบจะในทันที เธอจ้องเขม็งไปที่กู้เทียนเอิน
“โวยวายอยู่ได้ จะกินหรือไม่กิน ถ้านายไม่กิน ฉันจะเอาไปให้หมามันกิน”
"ระวังตัวไว้เถอะ ชาตินี้เธออาจจะไม่ได้แต่งงานเลยก็ได้"
“อย่ากังวลไปเลย ต่อให้ผู้ชายทั้งโลกตายไปหมด ฉันก็ไม่แต่งงานกับนายหรอก ”
กู้เทียนเอินชะงักอยู่ครู่หนึ่ง จู่ๆเขาก็นึกถึงคำพูดของเซิ่งอันหรานที่พูดกับเขาเมื่อกี้ขึ้นมา เขาก้มศีรษะลงทันทีแล้วยิ้ม
“นายหัวเราะอะไร” เย่จื่อมองเทียนเอินด้วยความร้อนใจ
กู้เทียนเอินยิ้มแต่ไม่พูดอะไร เขาก้มหน้ากินพิซซ่าอย่างเงียบๆ โดยไม่ได้สังเกตว่าท่าทางที่ก้มหน้ากินพิซซ่าอย่างเงียบๆ มันดูอ่อนโยนจนทำให้หญิงสาวหน้าแดง
เย่จื่อรวบรวมความกล้าพร้อมกับมองไปที่เขา เธอคิดกับตัวเองว่า ทำไมเขาถึงดูดีได้ขนาดนี้นะ
——
หลังจากกลับมาที่บริษัทแล้ว เซิ่งอันหรานก็เดินตรงไปหา ฉินปัว
“การจองเป็นยังไงบ้าง?”
“ตอนนี้ฉันมอบหมายให้คนงานไปเร่งงานแล้ว แต่คราวนี้เฉียวอันให้เวลาไม่มาก ทั้งหมดต้องเสร็จภายในหนึ่งเดือน ฉันกังวลเกี่ยวกับปัญหาด้านคุณภาพ ดังนั้น คราวนี้เราต้องส่งคนไปคอยเฝ้าที่โรงงานทั้งวันทั้งคืน”
“งั้นก็ต้องให้คนที่เป็นมืออาชีพด้านเสื้อผ้าคอยเฝ้าดูอยู่ที่นั่นแล้วล่ะ ”เซิ่งอันหรานออกความเห็น
ฉินปัวพยักหน้า
“อืม งั้นก็ต้องเป็นดีไซเนอร์เท่านั้น”
“ถ้าอย่างนั้น คุณสามารถจัดการเรื่องนี้ได้ไหม? สองสามวันนี้ฉันมัวแต่ยุ่งกับการแข่งขันออกแบบ”
เซิ่งอันหรานรู้สึกกังวลเล็กน้อย
เพื่อให้ฉินปัวนำทีมดีไซเนอร์ของชิงเหมิงกลับมามีชื่อเสียงอีกครั้ง ชิงเหมิงจึงประกาศรับสมัครผู้เข้าร่วมการแข่งขันการออกแบบแฟชั่นระดับประเทศ ในสองวันนี้ฉินปัวนำทีมดีไซเนอร์เข้าร่วมแข่งขันและออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่
“ไม่เป็นไร” ฉินปัวพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่สงบ “การแข่งขันการออกแบบไม่ได้ลำบากขนาดนั้น ส่วนที่โรงงานก็ไม่ได้จำเป็นต้องมีคนคอยเฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง ขอแค่มีคนไปตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอในทุกๆวันก็พอ”
เมื่อเห็นว่าฉินปัวมีความมั่นใจขนาดนี้ เซิ่งอันหรานจึงไม่อยากพูดอะไรไปมากกว่านี้ เธอพยักหน้าให้กับเขา "ถ้าอย่างนั้นคุณก็ไปจัดการเถอะ และเรื่องนี้ฉันขอมอบอำนาจให้กับคุณ"
หลังจากที่ฉินปัวพยักหน้าและตอบกลับเซิ่งอันหรานเสร็จ เขาก็รีบไปจัดการส่งคนไปคอยตรวจสอบดูความเรียบร้อยที่โรงงานเป็นผลัดๆ
ในแง่ของการทำงาน ในชิงเหมิงทั้งหมดรวมทั้งเซิ่งอันหรานไม่สามารถที่จะหาคนทำงานจริงจังได้เท่ากับฉินปัวอีกแล้ว
หลังจากที่ออกจากแผนกออกแบบ ผู้ช่วยน่าน่าเดินติดตามเธอมา เธอพูดเตือนสติของเซิ่งอันหรานเกี่ยวกับเรื่องงานเลี้ยงทางธุรกิจในคืนถัดไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน