หลังจากอวี้หนานเฉิงออกมาจากห้องน้ำ ลมเย็นๆพัดมาจากระเบียงเป็นระลอกๆ เขาจามสองที พร้อมกับรู้สึกเย็นๆที่คอ
ตอนที่อยู่ในห้องน้ำ เขาได้รับโทรศัพท์จากพ่อบ้านโจว หลังจากคุยกันสักพัก ใจความสำคัญคือต้องการให้เขากลับบ้านเก่าของตระกูลอวี้เพื่อไปคืนดีกับชายชรา
เป็นคำพูดเดิมๆซ้ำๆที่เขาได้ยินมาสองวันติดๆ พ่อบ้านโจวพูดมากขึ้นเรื่อย ๆ ยังไงซะเขาก็เป็นคนเก่าแก่ในบ้านตระกูลอวี้ ดังนั้นอวี้หนานเฉิงจึงจำเป็นต้องฟัง แต่เขาก็ไม่เคยกลับไปที่นั่นเลย
“ประธานอวี้”
เพิ่งจะเดินออกจากห้องน้ำมาได้เพียงสองก้าว จู่ๆ ก็มีเงาของใครคนหนึ่งเดินเข้ามาขวางทางเขาเอาไว้ กระโปรงผ้าสีเหลืองอ่อนยาวถึงเข่า ผมทรงดังโง๊ะ และกิ๊บมงกุฎเงินติดอยู่บนเส้นผมสีน้ำตาล
เกี่ยวกับสุนทรียศาสตร์ของอวี้หนานเฉิง เขารู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ช่างมีเรื่องให้ปวดหัวอยู่เรื่อย แต่โดยปกติแล้วเขามักจะไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้สักเท่าไหร่ แต่เธอดัน มีกิ๊บติดผมแบบเดียวกันกับเซิ่งอันหราน มันจึงสามารถดึงดูดความสนใจของเขาได้ แต่เสื้อผ้าที่เซิ่งอันหรานสวมใส่ดูเข้าชุดมากกว่าผู้หญิงที่กำลังยืนอยู่ทางหน้าเข้าเสียอีก
“มีธุระอะไรหรือเปล่า ?” เขาถาม
“ประธานอวี้ คุณยังจำฉันได้ใช่ไหม ? ” หญิงสาวในชุดสีเหลืองอ่อนมองมาที่อวี้หนานเฉิง และหลังจากเห็นท่าทางแปลก ๆ ของเขา
“ผมควรจะจำคุณได้ใช่ไหม ?”
“ฉันชื่ออวี๋เหมิง เป็นลูกพี่ลูกน้องของพี่อันเหยา”
การแสดงออกของอวี้หนานเฉิงดูสงบนิ่ง เขาจ้องไปที่เธอ และดูเหมือนว่าพอจะมีความรู้สึกคุ้นๆอยู่บ้าง
แต่ความรู้สึกคุ้นๆนี้ ดูเหมือนจะไม่ใช่ความรู้สึกที่ดีสักเท่าไหร่ ตอนวันที่เขามาถึงเซิ่งซื่อกรุปเป็นครั้งแรก เขาบังเอิญได้พบกับฉากที่อวี๋เหมิงกำลังทำให้เซิ่งอันหรานรู้สึกลำบากใจ
เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดทวนคำถามเดิม “มีธุระอะไรหรือเปล่า ?”
อวี๋เหมิงโกรธจนสีหน้าแดงก่ำ แต่ก็ไม่สามารถอารมณ์เสียใส่เขาได้ "แน่นอนว่าต้องมีธุระ เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเซิ่งอันหราน และฉันคิดว่าคุณน่าจะสนใจ "
อวี้หนานเฉิงเหลือบมองเธอด้วยท่าทางหยิ่งผยอง
"ผมไม่คิดว่าจำเป็นต้องฟังเรื่องของเซิ่งอันหรานจากคนอื่น"
“แล้วถ้าเป็นเรื่องที่เธอไปนอนกับผู้ชายคนอื่นล่ะ?”อวี๋เหมิงพูดขึ้นเพื่อดึงความสนใจของเขา“คุณคิดว่าเรื่องนี้เธอจะเล่าให้คุณฟังด้วยตัวเองอย่างนั้นเหรอ? ประธานอวี้ คุณคงจะไม่ใช่ผู้ชายที่ไร้เดียงสาอย่างนั้นหรอก จริงไหม?”
อวี้หนานเฉิงชะงักฝีเท้า เขาหันกลับมามองอวี๋เหมิงด้วยสายตาที่เย็นชา
"คุณพูดอะไรน่ะ ?"
“ในคืนครบรอบวันเกิดปีที่สิบแปดของเซิ่งอันหราน ฉันได้ยินหลีเย่ว์พูดว่าเซิ่งอันหรานนอนกับผู้ชายกลุ่มหนึ่ง ผู้หญิงประเภทนี้มันแย่มาก คุณยังจะปฏิบัติต่อเธอเหมือนเธอเป็นสมบัติล้ำค่าอยู่อีกหรือ คุณไม่กลัวคนอื่นนินทาลับหลัง ว่าคุณชอบใส่รองเท้าที่ชำรุดแล้วอย่างนั้นเหรอ ?”
ใบหน้าของอวี้หนานเฉิงเคร่งขรึมขึ้น และไม่ทันรอให้อวี๋เหมิงได้มีปฏิกิริยาโต้ตอบ เขาจับแขนของเธออย่างแรงและลากเธอไปที่รับรองสำหรับพักผ่อน
"คุณต้องการทำอะไร ?คุณกำลังทำจะอะไรกันแน่ ?"
อวี๋เหมิงพยายามดิ้นรนด้วยความกลัว และสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เธอเหยียบชายกระโปรงของตัวเองและสะดุดล้มลงบนโซฟา
อวี้หนานเฉิงโน้มตัวลงไป พร้อมกับใช้แขนทั้งสองข้างเท้าลงบนโซฟา สีหน้าของเขาดูสงบนิ่งราวกับน้ำ
กลิ่นโคโลญจน์จากร่างชายผู้นั้นดูสดชื่นมาก มันทำให้อวี๋เหมิงหน้าแดงและหัวใจเต้นรัวขึ้น เธอตัวสั่นเทาไปหมด "คุณ...คุณอย่าทำอะไรบ้าๆนะ "
อวี้หนานเฉิงยิ้มเยาะเย้ย ดวงตาของเขาเปื้อนไปด้วยความดูถูก "คุณเชื่อไหมว่า ถ้าผมได้ยินคุณพูดแบบนี้อีกครั้ง คุณอาจจะกลายเป็นแบบเดียวกับคำพูดเมื่อกี้ของคุณก็ได้"
จู่ ๆ อวี๋เหมิงก็รู้สึกว่าหัวใจของเธอเกือบจะหยุดเต้น ความคิดก่อนหน้านี้ได้สลายหายไปหมด เธอหายใจไม่ออก ความหนาวเย็นได้แทรกซึมเข้าไปทั่วร่างกายของเธอ เป็นครั้งแรกที่เธอตระหนักได้ถึงความเย็นชาของผู้ชายที่ชื่ออวี้หนานเฉิงอย่างที่คนข้างนอกเขาลือกัน
แต่เธอเป็นคุณหนูที่ถูกเลี้ยงมาแบบตามใจตั้งแต่ยังเป็นเด็ก แม้ว่าคำขู่ของเขาจะทำให้เธอกลัว แต่เธอยังสามารถโต้กลับอย่างภาคภูมิใจว่า “ที่ฉันพูดไปมันเป็นเรื่องจริง ถ้าไม่เชื่อก็ลองไปถามได้……"
“คุณอยากลิ้มลองรสชาติที่พูดไม่ได้ไหม ?” ดวงตาของอวี้หนานเฉิงมืดมนลงราวกับหยดน้ำหมึก เขาจ้องที่เธออย่างเย็นชา
“สำหรับผู้หญิงที่พูดเรื่องเลวทรามแบบนี้ได้ มันชั่งน่ารังเกียจจริงๆ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน