เซิ่งอันหรานเหลือบมองอวี้หนานเฉิงข้างๆอย่างระมัดระวังเพื่อดูท่าทางของเขา แต่เมื่อเห็นท่าทางที่เป็นปกติ ราวกับเมื่อครู่ไม่ได้ยินอะไร เธอก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ในตอนบ่ายเด็กน้อยทั้งสองยังรบเร้าไปเที่ยวทุ่งหิมะบนภูเขา แต่คุณปู่กลับไม่สนใจ ไม่รู้ว่าได้รับผลกระทบอะไรจากคำพูดบนโต๊ะอาหารในตอนกลางวันหรือไม่ เซิ่งอันหรานรู้สึกเศร้าเล็กน้อย เธอจึงบอกซิงซิงน้อยว่า ให้เด็กน้อยทั้งสองไปอยู่เป็นเพื่อนคุณปู่ในห้องอ่านหนังสือ
“คุณทวดอารมณ์ไม่ดี พวกเธอประพฤติตัวดีๆหน่อยนะ ไปเกลี้ยกล่อมให้เขามีความสุข”
เซิ่งเสี่ยวซิงกะพริบตา และพูดอย่างซื่อตรงว่า
“ทำไมถึงไม่มีความสุขละคะ ? เพราะว่าหม่าม้าไม่ตอบตกลงที่จะแต่งงานกับคุณลุงอวี้เหรอ ?”
หน้าผากของเซิ่งอันหรานกระตุก
“หยุดพูดเรื่องไร้สาระได้แล้ว จำที่หม่าม้าพูดได้ไหม ?”
“ไอ้หย่า จำได้แล้วค่ะ” เซิ่งเสี่ยวซิงลูบหัวของเธอ ทำหน้าตาบูดบึ้ง “อย่าตีหัวของหนูบ่อยสิหม่าม้า เดี๋ยวจะไม่โตนะคะ”
เซิ่งอันหรานเอื้อมมือไปลูบหัวของเธอ “โอเค ไม่ตีเธอแล้ว ขึ้นไปชั้นบนกับพี่ปะ เร็ว”
เด็กไร้เดียงสาตัวเล็ก ปกติจะชอบขี้เกียจ แต่เมื่อได้ยินว่าจะต้องเกลี้ยกล่อมให้คนมีความสุขก็กระตือรือร้นขึ้นมาทันที เมื่อได้ยินเธอก็รีบลากอวี้จิ่นซีขึ้นไปข้างบน และในขณะที่วิ่งขึ้นไปเธอก็หัวเราะพลางหันมาทำหน้าตาบูดบึ้งใส่เซิ่งอันหราน
“รับประกันว่าต้องทำภารกิจให้สำเร็จ”
อวี้หนานเฉิงกำลังนั่งอ่านหนังสือบนโซฟา หลังจากได้ยินเสียงที่สดใส เขาก็อดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมอง เขาเห็นเซิ่งอันหรานยืนอยู่ชั้นบนสุดของบันได กำลังบอกเด็กสองคนให้วิ่งอย่างระมัดระวัง
แดดยามบ่ายนอกหน้าต่างส่องเข้ามา ส่องไปที่หลังของเธอ ดูอบอุ่น
ในเวลานี้ จู่ๆเขาก็รู้สึกสิ่งรอบตัวเขาแตกต่างไปจากเดิม ได้เห็นเฟอร์นิเจอร์เก่าๆในบ้านตั้งแต่เด็กดูมีชีวิตชีวาขึ้น
“วันแต่งงานของพวกคุณก็ควรจะกำหนดได้แล้ว”
คำพูดของคุณปู่ยังก้องอยู่ในใจเสมอ เดิมทีมันเป็นประโยคที่ทำให้เขารำคาญหู แต่ตอนนี้มันกลับฟังดูเรียบหู
การแต่งงานและการคลอดบุตรนั้น มีคนอยู่ข้างกาย มีคนคอยเป็นห่วงและเป็นห่วงคนอื่น เมื่อเทียบกับชีวิตที่โดดเดี่ยวเมื่อก่อนแล้ว ชีวิตแบบนี้มันดีกว่าหลายเท่าเลย ทำไมแต่ก่อนไม่เคยรู้สึกแบบนี้เลยนะ
——
หลังจากโฆษณาเซิ่งซื่อกรุปได้ถ่ายทอดไป การประชุมภายในได้หารือกันหลายครั้งเกี่ยวกับการเปรียบเทียบข้อมูลก่อนและหลังโฆษณา การใช้นายแบบลียงนั้นทรงอิทธิพลมาก และข้อมูลก็เพิ่มขึ้นกว่าแต่ก่อนมากถึงสองเท่า
“เซ็นสัญญาหนึ่งปี หลังจากครบหนึ่งปีก็ดูผลตอบรับ ถ้าผลตอบรับยังดีอยู่ ก็พิจารณาเรื่องต่อสัญญา ถ้าหาก........”
เซิ่งอันหรานกำลังพูดคุยกับผู้จัดการของนายแบบเรื่องโฆษณา ทันใดนั้นเสียงประตูก็ดังขึ้น
“ตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง”
“เข้ามา”
“ประธานเซิ่ง” น่าน่าเปิดประตูเข้ามา “ผู้ช่วยของลียงส่งของมาให้ค่ะ คุณจะเอาวางไว้ไหนดีคะ ?”
เซิ่งอันหรานตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง “ลียงส่งของอะไรมา ?”
“เขาบอกว่าคุณให้เสื้อนอกเขายืมในงานเลี้ยงอาหารเย็นวันนั้น แล้วเขาทำเสื้อเปื้อน ดังนั้นเขาเลยซื้อชุดใหม่มาให้คุณ”
ในตอนที่น่าน่าพูดแบบนี้ สีหน้าของเธอก็ดูซับซ้อนเล็กน้อย
ผู้จัดการฝ่ายโฆษณาก็พูดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
“ประธานเซิ่งคุณรู้จักกับลียงเป็นการส่วนตัวเหรอ ?”
“ไม่สนิท” เซิ่งอันหรานเหลือบมองเขา แล้วหันไปพูดกับน่าน่าว่า “วางไว้บนโซฟาก็ได้ ก็แค่เสื้อตัวหนึ่งไม่ใช่เหรอ ? คุณจัดการเองได้เลย”
สีหน้าของน่าน่าดูลำบากใจ “ประธานเซิ่ง เรื่องนี้ฉันไม่กล้าจัดการด้วยตัวเองจริงๆ”
เซิ่งอันหรานก็ไม่รู้ว่าทำไม น่าน่ากำลังจะเปิดประตูทันใดนั้นอีกด้านก็ถูกผลักเข้ามา ชายหนุ่มสองคนข้างนอกถือกระเป๋าใหญ่เข้ามา ผ่านไปครู่เดียวมุมหนึ่งในห้องทำงานก็เต็มไปด้วยของ
เซิ่งอันหรานจ้องเขม็ง “ไม่ใช่ว่าแค่เสื้อผ้าชุดเดียวเหรอ ? แล้วนี่มันอะไรกัน ?”
น่าน่าดึงตัวผู้ช่วยไว้ “อย่าเพิ่งไป คุณบอกประธานเซิ่งให้ชัดเจน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน