ห้องทำงานฝ่ายดีไซเนอร์ของชิงเหมิง แสงไฟสว่างไสว
ฉินปัวกำลังยุ่งอยู่กับการออกแบบ เขาทำงานทั้งกลางวันและกลางคืนโดยไม่ได้พัก แต่มีน่าน่า คอยอยู่ข้างๆกาย ตอนกลางวันทำงานเป็นผู้ช่วย ส่วนตอนกลางคืนทำหน้าที่เป็นลูกศิษย์ของฉินปัว ทำงานไปด้วยหาวไปด้วยติดต่อกันมาสองสามครั้งแล้ว
ข้างนอกมีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เพราะบรรยากาศที่ดูเงียบสงบมันจึงได้ยินชัดเจนเป็นพิเศษ
"ใคร?"
ฉินปัวขมวดคิ้วและเหลือบมองไปที่หน้าประตูห้องทำงาน เขาถามขึ้นเสียงดัง น่าน่ารู้สึกตื่นตัวขึ้นมาทันที เธอส่ายหน้าพร้อมกับขยี้ตา
“ประธานเซิ่ง?” เธอยืนอยู่ใกล้กับประตูมาก และเห็นเซิ่งอันหรานกำลังเดินเข้ามา
เซิ่งอันหรานพยักหน้าและเดินเข้าไป แสงสว่างค่อยๆส่องลงมาที่เธอ ร่างของเธอปรากฏขึ้นชัดเจนในคราวเดียว
หลังจากออกมาจากงานเลี้ยงวันเกิด เธอก็ไม่ได้กลับบ้าน เพราะเธอรู้ว่าอวี้หนานเฉิงจะต้องกลับบ้านไปในคืนนี้แน่นอน และเรื่องของซูป่าย เธอไม่รู้ว่าจะต้องอธิบายกับเขายังไง
หลังจากที่เข้ามาในห้อง เธอนั่งลงบนโซฟา น่าน่าเดินเข้าไปรินชาให้กับเธอ
“เพิ่งกลับมาจากงานเลี้ยงวันเกิดเหรอ ?” ฉินปัววางงานลง และเดินเข้าไปนั่งตรงข้ามกับเธอ
เซิ่งอันหรานพยักหน้าเบา ๆ “ใช่”
“ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะ ?”
ฉินปัวขมวดคิ้วและมองที่เธอ "คุณโกรธไหม ?"
"ก็ประมาณนั้นแหละ"
เซิ่งอันหรานยกถ้วยชาขึ้นมา พร้อมกับจิบชาเพื่อให้มีแรง แล้วถามฉินปัวขึ้นว่า
“ในสมองของผู้ชายอย่างพวกคุณคิดอะไรอยู่? หรือเป็นเพราะเห็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อ่อนแอ พวกคุณก็ใจอ่อนและหน้ามืดแล้วเหรอ?”
“อย่าใช้ตัวอย่างสองสามตัวอย่างเพื่อสรุปผู้ชายทั้งโลกนี้สิ ” ฉินปัวเข้าใจความหมายของเธอได้อย่างรวดเร็ว “คนอื่นไม่รู้ว่าเป็นยังไง แต่อวี้หนานเฉิงที่มีทั้งรูปร่างหน้าตาและความมั่งคั่ง มันก็ต้องมีสาวๆน้อยใหญ่อยากเข้ามาพัวพันอยู่แล้ว แต่ก็ยังไม่เคยเห็นเขารู้สึกใจอ่อนมาก่อนเลย "
เซิ่งอันหรานขมวดคิ้ว “ใครบอกว่าเขาจะไม่ใจอ่อน ไม่ใช่แค่ใจอ่อนเท่านั้นนะ แต่ตอนนี้ยังหูเบาอีกด้วย ”
ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรเขาก็เชื่อในสิ่งที่เธอพูดทั้งหมด โง่ใช่ไหมล่ะ?
“เป็นไปไม่ได้” ฉินปัวโบกมือไปมา “อวี้หนานเฉิงเป็นคนเย็นชาซึ่งมันไม่มีวันเปลี่ยนแปลง นอกจากคุณแล้ว ผมไม่เคยเห็นเขายิ้มให้กับผู้หญิงคนอื่นมาก่อนเลย”
“ทำไมตอนนี้ แม้แต่คุณเองก็ยังพูดแทนเขาแล้วล่ะ ?” เซิ่งอันหรานโกรธ เธอหยิบกระเป๋าและลุกขึ้น “ฉันอยากจะหาที่สงบหน่อยไม่ได้หรือยังไง ?”
“ผมพูดแทนเขาตรงไหน ผมก็แค่พูดความจริง...”
ฉินปัวพยายามอธิบาย เขาไม่ได้สังเกตเลยว่า น่าน่าที่ยืนอยู่ทางด้านข้างกำลังขยิบตาให้กับเขา
ฉินปัวยังไม่ทันจะพูดจบประโยค เซิ่งอันหรานก็เดินออกไปพร้อมกับกระเป๋าในทันที
ไปนอนที่โรงแรมท่าจะดีกว่า เธอไม่อยากฟังคนอย่างฉินปัวพูดเข้าข้างอวี้หนานเฉิงแบบนี้
“ผมผิดอะไรอย่างนั้นเหรอ ?” ฉินปัวเกาหัว และทำท่าทางงงงวย
น่าน่ารินชาและวางลงตรงหน้าเขา “อาจารย์ คุณไม่ได้ผิดอะไรเลย เพียงแค่ผู้หญิงที่กำลังเป็นแบบนี้ เวลาที่เธอคุยกับคุณ เธอไม่ต้องการให้คุณมาวิเคราะห์ถึงเหตุผล”
“แล้วต้องการอะไร ?”
น่าน่าเหลือบมองไปที่ฉินปัว
“ต้องการแค่ให้คุณยืนเคียงข้างเธอ และช่วยเธอด่าทอผู้ชายคนนั้น”
คืนนี้ เซิ่งอันหรานรู้สึกเหมือนเป็นผีป่าที่โดดเดี่ยว
มีบ้านแต่ก็ไม่สามารถกลับได้ ไปที่บริษัท ฉินปัวก็ทำให้หงุดหงิด เธอเดินรับลมไปตามถนนครู่หนึ่ง และกระทืบเท้าไปบนถนนด้วยความหนาวเย็น ของประดับตกแต่งในวันคริสต์มาสจากสองข้างทางของถนน ดูเหมือนจะไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับเธอเลย ความสุขของพวกเขา แต่สำหรับเธอแล้วมัน ช่างน่าสังเวชใจยิ่งนัก
“พี่อันหราน”
ในขณะที่เธอกระทืบเท้าอยู่นั้น จู่ๆ เสียงคุ้นเคยก็ดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง
เซิ่งอันหรานชะงักไปครู่หนึ่ง เมื่อเธอหันหลังกลับ เธอเห็นชายแปลกหน้าสวมหมวก ผ้าพันคอ หน้ากากอนามัย และแว่นกันแดดที่เรียบร้อย เขาสวมชุดกีฬาบางๆ และดูเหมือนจะออกมาวิ่งในตอนกลางคืน
ถ้าไม่ใช่เพราะเสียงของเขา เซิ่งอันหรานคงจะดูไม่ออก เธอเกือบจะจำไม่ได้ว่านี่คือลียงจริงๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน