ผูกรักท่านประธานพันล้าน นิยาย บท 342

เช้าตรู่วันต่อมา เซิ่งอันหรานพาผลไม้สดไปบ้านน้าสะใภ้

น้าชายเพราะว่าต้องไปทำงานที่เมืองหลวง ดังนั้นคืนนั้นก็ไปแล้ว เซิ่งอันหรานเวลาที่มาถึง มีเพียงน้าสะใภ้อยู่ในห้องรับแขกกำลังที่ตัดแต่งกระถางดอกไม้

“คุณอันหรานมาแล้ว”

คนรับใช้เปิดประตู รับของที่เซิ่งอันหรานพาเข้ามา“คุณอันหรานมาทุกครั้งก็เกรงใจ พาของมาเยอะขนาดนี้”

เซิ่งอันหรานยังไม่เปิดปากพูด เสียงน้าสะใภ้ก็ดังมาจากในห้องรับแขก

“ทุกครั้งก็จะพาผลไม้กับดอกไม่ คนไม่รู้คิดว่าเธอมาเยี่ยมคนป่วยนะ”

ได้ฟัง เซิ่งอันหรานรีบพูด รีบเดินเข้าไป พูดโมโห“น้าสะใภ้คุณพูดจาเป็นเลี่ยงการพูดแบบนี้ได้ไหม รีบลูบท่อนไม้”

น้าสะใภ้สีหน้าตึง“ถึงแม้ว่าจะเรียนไม่จบมหาวิทยาลัยก็ไปอเมริกาแล้ว แต่ว่าเธอก็เรียนหมอ ทำไมถึงมีความคิดล้าสมัยเชื่องมงาย”

เซิ่งอันหรานหัวเราะ นั่งลงบนโซฟา“นี้ไม่ใช่ดีกว่าไม่เชื่อไหม?ฉันยังหวังให้คุณร่างกายแข็งแรงอายุมั่นขวัญยืนไหม?”

“ฉันไม่โกรธเธอจนตายก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว”

เริ่มเปิดประตูเข้ามา น้าสะใภ้ก็สีหน้าไม่ดี มองดูต้นไม้ในกระถาง ถูกเธอตัดซ้ายขวา ด้านขวาตัดจนเหมือนหัวล้าน เซิ่งอันหรานมองดู แอบไว้อาลัยให้มันเงียบๆหลายวินาที

“คุณยังโกรธเรื่องเมื่อคืน?”เซิ่งอันหรานถือโอกาสนั่งยองๆลงด้านข้างโต๊ะชา มองดูน้าสะใภ้ตัดต้นไม้จนน่าเวทนา“เรื่องเล็กขนาดนี้ โกรธก็ไม่คุ้มค่า”

“เป็นเรื่องเล็กเหรอ?”

คิ้วของน้าสะใภ้ขมวดแน่นขึ้น

“เรื่องแรกคือ ตระกูลเซิ่งเดิมทีชื่อเสียงไม่ค่อยดี ฉันกลัวว่าเธอแต่งงานไปก็จะทำให้คนตระกูลอวี้รังแกเธอ ครอบครัวน้ารองของเธอพวกนั้นก็หน้าด้าน ท่าทางเหมือนพ่อค้าคนกลางทำให้ฉันรู้สึกขายหน้า ก็ยิ่งทำให้อับอายขายหน้า”

น้าสะใภ้ก็ไตร่ตรองเพื่อตัวเอง เซิ่งอันหรานในใจก็รู้สึกซาบซึ้ง เธอจับแขนของน้าสะใภ้ เข้าใกล้ไหล่ของเธออย่างสนิทสนม

“น้าสะใภ้หน้าใหญ่มาก จะอับอายขายหน้าง่ายๆที่ไหนกันล่ะ?และน้ารองครอบครัวเป็นยังไงคุณก็รู้นานแล้วไหม?ถ้าผู้อาวุโสของตระกูลอวี้อยากจะตรวจสอบ อะไรก็ตรวจสอบได้ แต่อวี้หนานเฉิงกับคุณปู่ไม่ใช่คนแบบนั้น และยิ่งเขารู้ว่าฉันกับน้ารองไม่ได้ไปมาหาสู่กัน”

“เธอดูเมื่อคืนท่าทางพวกเขา คือไม่อยากจะไปมาหาสู่กับเธอไหม?”

น้าสะใภ้พูดมาถึงตรงนี้ก็โกรธ“เข้ามายังไม่พูดทักทาย ก็อยากจะให้รีบช่วยครอบครัวของพวกเขา ลักษณะท่าทางแย่มาก”

“ฉันก็ไม่ได้ปฏิเสธไปแล้วไหม?”

“เธอรับปากฉันก็ไม่สามารถรับปาก”

น้าสะใภ้หัวร้อน “ครอบครัวของพวกเขาถือว่าเป็นอะไร?ปีนั้นถ้าหากไม่ใช่คุณตาเธอเห็นว่าน่าสงสารจึงรับเลี้ยง ตอนนี้พวกเขาคงจะปลูกผักอยู่ที่บ้านเกิด คนสารเลวที่ไม่มีอะไรทำนอกจากกินนอน”

ได้ยินน้าสะใภ้โกรธ ท่าทางเหมือนตอนที่ยังเด็ก เวลาที่ด่าคนปากก็พูดออกมาได้ทุกอย่าง พูดประโยคไม่ซ้ำกัน เพียงแค่ตอนที่ยังเป็นเด็กได้ยินก็จะกลัว ตอนนี้ได้ยิน กลับรู้สึกสนิทสนม

“น้าสะใภ้”เซิ่งอันหรานหัวเราะเยาะเย้ย“ถ้าคุณอยากจะตัดอีก ต้นไม้นี้คงเปลี่ยนเป็นต้นหญ้าแล้ว ไม่มีใบแล้ว”

น้าสะใภ้ก้มหน้ามอง มีสติก็ถลึงตาใส่เซิ่งอันหราน“สาวน้อยฉันค้นพบว่าเธอใจกว้างจริงๆ ขี้เกียจจะสนใจเธอแล้ว”

“นั่นก็ไม่ได้”เซิ่งอันหรานส่ายแขนของน้าสะใภ้อย่างขี้เกียจ ท่าทางออดอ้อนหาได้ยาก “เรื่องงานแต่งงานของฉันต้องเป็นคุณจัดการ คุณไม่สนใจ งั้นงานแต่งงานจะทำยังไง?”

น้าสะใภ้ถูกเธอทำให้หายโกรธแล้ว“จะแต่งงานแล้ว ทำไมยังทำตัวยิ่งเหมือนเด็ก ไม่สงบนิ่งเหมือนตอนเด็กแล้ว”

ในปากก็พูดบ่นพึมพำ แต่ในใจกลับรู้สึกอบอุ่น

ผู้หญิงมีชีวิตดีไหม ความจริงมองเห็นท่าทางของเธอก็ดูออก ผู้หญิงที่มีความสุขจะยิ่งเหมือนเด็ก ไม่มีอะไรที่จะเป็นทุกข์

“ถ้าหากอวี้หนานเฉิงไม่มีลูกชายก็ดี ฉันไม่หวังให้เธอแต่งงานไปเป็นแม่เลี้ยงจริงๆ เป็นเรื่องใหญ่ และยังเป็นตระกูลร่ำรวย อนาคตเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา ก็เป็นเธอที่ต้องรับผิดชอบ”

พูดมาถึงจุดนี้ เซิ่งอันหรานสายตาที่มีรอยยิ้มก็หายไป พูดด้วยสีหน้าจริงจัง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน