เซิ่งอันหรานนอกจากคุณตาก็ไม่ได้รับการดูเป็นห่วงจากครอบครัวตั้งแต่เด็ก เวลาที่ยังเป็นเด็กน้าสะใภ้ก็ไม่ชอบเธอ ดังนั้นสิ่งเดียวที่เธอรู้สึกเกี่ยวกับความรักในครอบครัวก็มาจากคุณตาของเธอ
ผู้อาวุโสอวี้เป็นคนเย็นชาน่าเกรงขาม แตกต่างจากคุณปู่ของเซิ่งอันหรานที่รักและเมตตา แต่จริงๆท่านผู้เฒ่าที่รักคนรุ่นหลัง
ถึงแม้ว่ากินข้าวหนึ่งมื้อแล้วจากกันอย่างไม่เป็นมิตร แต่ไม่ว่ายังไงผู้อาวุโสอวี้ไม่ได้มีปมในใจมากมาย เวลาที่ไปยังพาเด็กสองคนกลับไปด้วย สั่งให้เซิ่งอันหรานไม่ต้องเก็บมาใส่ใจ
เธอก็ไม่อยากจะเก็บมาใส่ใจ แต่เกรงว่าน้าสะใภ้นิสัยดื้อรั้นนั้นจะเก็บมาใส่ใจแล้ว
กลางดึก กลิ่นหอมสบู่อาบน้ำอบอวลไปทั่วในห้องนอน
อวี้หนานเฉิงเพิ่งจะอาบน้ำขึ้นเตียง ถือโอกาสหยิบนิตยสารเศรษฐกิจการคลังที่อยู่ข้างเตียงขึ้นมาอ่าน
ด้านข้างมีเสียงถอนหายใจดังเข้ามา
อวี้หนานเฉิงยิ้ม ยังคงมองดูนิตยสาร ถือโอกาสพูดตามอำเภอใจ
“คงจะไม่ใช่ไฟสุมขอนเรื่องอาหารมื้อค่ำเถอะ ความจริงเธอกับครอบครัวน้ารองก็ไม่สนิทกัน หลังจากนี้ไปมาหาสู่กันก็ได้แล้ว”
“ฉันไปมาหาสู่กับพวกเขาฉันก็คือหมู”
เซิ่งอันหรานพลิกตัว เงยหน้ามองอวี้หนานเฉิง“ฉันเป็นห่วงน้าสะใภ้ คงจะโกรธมาก กลับไปไม่รู้ว่าจะคิดยังไง เธอมีความดันสูง”
“ไม่เป็นไร ความจริงถ้าเป็นห่วง พรุ่งนี้ก็กลับไปเยี่ยม”
“ต้องกลับไปแน่นอน”
เซิ่งอันหรานถอนหายใจ“มักจะมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี”
พูดคุยมาถึงตรงนี้ อวี้หนานเฉิงก็ไม่ดูนิตยสารอีก ถือโอกาสวางกลับไปไว้บนเตียง กอดเซิ่งอันหรานเข้าไปในผ้าห่มด้วยกัน
“อย่าคิดอีกเลย นอนเถอะ”
เซิ่งอันหรานนอนหลับที่ไหนกันล่ะ ความจริงเธอรู้น้าสะใภ้ไม่อยากให้เธอแต่งงานกับตระกูลอวี้ น้าสะใภ้ไม่รู้เรื่องระหว่างเธอกับจิ่งซี มักจะคิดว่าเป็นแม้เลี้ยงไม่ดี หาคนที่มีลูก ก็ไม่อาจจะทุ่มเทหมดใจให้เซิ่งเสี่ยวซิง
เรื่องนี้เธอคิดจะสารภาพกับน้าสะใภ้ก่อนแต่งงาน ยังไม่มีอะไรต้องคิด แต่ในตอนนี้สิ่งที่กดดันที่สุดในใจเธอ คือต้องสารภาพกับอวี้หนานเฉิงก่อน
“ฉันมีเรื่องหนึ่งอยากจะพูดกับคุณ”
ลังเลนานมาก เธอเปิดปากพูด
อวี้หนานเฉิงกอดเธอจากด้านหลัง คางวางอยู่บนไหล่ของเธอ ได้ยินก็ตอบอย่างแผ่วเบา“อืม”
“เกี่ยวกับเรื่องราวของจิ่งซี…”
เอ่ยถึงจุดนี้ เซิ่งอันหรานคิดว่าแรงที่กอดตัวเองแน่นขึ้นมาก ตื่นเต้นขึ้นทันที จนพูดต่อไปไม่ได้
นานมาก เสียงของอวี้หนานเฉิงก็ดังมาจากด้านหลัง
“เรื่องก่อนหน้านี้เป็นฉันที่ทำไม่เหมาะสม เกี่ยวกับเรื่องราวของจิ่งซี เธอไม่ต้องคิดมากแล้ว ฉันไม่คิดจะหาคนนั้นอีก จิ่งซีมีแค่เธอที่เป็นแม่คนเดียว ก็พอแล้ว”
เธอแค่คิดว่าเซิ่งอันหรานสนใจเรื่องของชูป๋ายมากเกินไป เวลานั้นเกิดเรื่องมาไม่ขาดสาย เขาก็ไม่ทันได้อธิบายกับเธอ แน่ใจว่าติดหนี้ขอโทษเธอ ตอนนี้เอ่ยขึ้นมา เขาก็มีโอกาสพูดออกมาแล้ว
เซิ่งอันหรานกลับหลายความรู้สึกรวมกัน
อวี้หนานเฉิงพูดแบบนี้ เธอก็คิดว่าตัวเองก็ยิ่งพูดลำบาก
เธอพูดอย่างกลัดกลุ้ม
“ชูป๋ายคนนั้น หลังจากนั้นเป็นยังไง หลังจากที่ถูกเปิดโปงเธอพูดอะไรไหม?”
“หาเธอไม่เจอมาโดยตลอด”
คางของอวี้หนานเฉิงถูกับด้านหลังศีรษะของเธอ พูดอย่างชะล่าใจ“ส่งมอบให้โจวฟังจัดการแล้ว”
เซิ่งอันหรานในใจแน่นขึ้นมา“คุณคิดจะจัดการยังไงกับเธอ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน