หลินมู่เหยียนกำลังนั่งดื่มชาอยู่ในห้องนั่งเล่น
ของเหลือบนโต๊ะในห้องอาหารยังไม่ได้ทำความสะอาด มันดูรกไปหน่อย
เซิ่งอันหรานลงไปชั้นล่าง และพูดขึ้นด้วยความเขินอาย “นายมาที่นี่ผิดเวลาไปหน่อย เราเพิ่งทานอาหารเสร็จ ถ้ามากเร็วกว่านี้ อาจจะได้ทานพร้อมกัน ”
หลินมู่เหยียนไม่สนใจเรื่องนี้ "ถ้าฉันมาเร็วว่านี้ เขาอาจจะกินไม่ลงก็ได้ ดังนั้นมาช้าหน่อยจะดีกว่า"
“แต่ยังไงนายก็มารับเสี่ยวซือนี่”
เซิ่งอันหรานพูดเข้าจุดประสงค์ของหลินมู่เหยียน "แล้วนายบอกให้ฉันลงมาเพื่ออะไร ? สองวันมานี้สุขภาพของฉันไม่ค่อยดี นายจะทรมานคนไข้งั้นเหรอ"
สีหน้าของหลินมู่เหยียนดูเรียบเฉย "มีบางอย่างที่ฉันอยากจะคุยกับเธอ"
"..."
“ตอนที่ฉันรู้เรื่องเกี่ยวกับการถูกลักพาตัวของเธอ เสี่ยวซือกำลังจัดคอนเสิร์ตที่ต่างประเทศ เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์แล้ว ถ้าเขากลับมันมาอาจจะสร้างความโกลาหล ดังนั้นฉันจึงไม่ได้บอกเขาเรื่องนี้”
"เป็นการกระทำที่มีเหตุผล"
“แต่ฉันคอยสืบดูความคืบหน้าของเรื่องนี้มาโดยตลอด ถึงกับส่งคนไปหาเป็นการส่วนตัว แต่สุดท้ายก็ช่วยอะไรได้ไม่มาก ถือว่าอวี้หนานเฉิงมีความสามารถมากทีเดียว”
เมื่อได้ยินสามคำ "อวี้หนานเฉิง" เซิ่งอันหรานชะงัก
“เกี่ยวอะไรกับเขา ?”
“ดูเหมือนว่าครั้งนี้ฉันจะมาถูกจังหวะ ” หลินมู่เหยียนวางถ้วยชาลง ท่าทางของเขายังคงดูอ่อนโยน “มันขึ้นอยู่กับว่าเธอต้องการรู้ความจริงหรือเปล่า หรือแค่ต้องการหลอกตัวเองและใช้ชีวิตไปวันๆ”
"นายหมายถึงอะไร?"
“อวี้หนานเฉิงเป็นคนแรกที่รู้เรื่องเธอถูกลักพาตัว เขาเป็นผู้วางแผนช่วยเหลือทั้งหมด มันไม่เกี่ยวอะไรกับทีมสอบสวน เพราะเขากลัวว่าทีมสอบสวนจะเคลื่อนไหวมากเกินไป และมันอาจไม่ใช่ผลดีต่อเธอ ดังนั้นเขาจึงส่งทีมบลูอีเกิลจำนวนหนึ่งไปทำการค้าขายกับผู้คนในตลาดมืดอย่างลับๆ อ้อ อีกอย่าง เขาก็ไปที่เกาะด้วยนะ”
“……”
“แต่ฉันไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงไม่เจอเธอ หลังจากกลับจากเกาะ เขากลับไปที่เซิ่งถังกรุปและเดินทางไปทำธุรกิจต่อ ถ้าไม่ใช่เพราะเมื่อวานนี้เขามาประชุมงานช้า ฉันก็คงจะไม่ได้รู้เรื่องพวกนี้”
การแสดงออกของเซิ่งอันหรานซับซ้อนเมื่อได้ฟังสิ่งที่หลินมู่เหยียนพูด ช่วงก่อนหน้านี้อวี้หนานเฉิงกำลังยุ่งกับเรื่องของเธองั้นเหรอ?
แต่ทำไม เขาถึงไม่เห็นมาดูเธอเลย ?
“ที่จริงเขาไม่ได้มาสาย แต่เพราะเขามีไข้สูงขณะที่อยู่ในรถ ผู้ช่วยของเขาทนไม่ไหว ดังนั้นจึงส่งตัวเขาไปที่โรงพยาบาล สุดท้ายพบว่าเขามีอาการปอดอักเสบ ดังนั้นจึงต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทันที”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าของเซิ่งอันหรานก็แข็งค้าง
ไข้สูง ปอดอักเสบ ?
เขาเป็นคนช่วยเธอในแม่น้ำคืนนั้นจริงๆเหรอ ?
“อันที่จริง ที่ฉันมาพูดเรื่องนี้กับเธอ ฉันไม่ได้มีความหมายอื่น แค่คิดว่าเพื่อนของเธอส่วนใหญ่ดีกับเธอมากเกินไป ดังนั้นเรื่องบางเรื่องที่พวกเขาสามารถปกปิดได้ พวกเขาจึงปกปิดเธอ พวกเขาไม่อยากให้เธอคิดมาก แต่ฉันเป็นคนชอบทำอะไรอย่างเปิดเผยและตรงไปตรงมา ฉันคิดว่าเธอมีสิทธิ์ที่จะได้รู้”
เซิ่งอันหรานย้อนถาม
“นายไม่ได้ต้องการให้ฉันช่วยพูดกับเสี่ยวซือให้เหรอ ?”
หลินมู่เหยียน ดันแว่นตากรอบทองขึ้น นิ้วของเขาขาวเป็นพิเศษ
“ที่ฉันจะพูดก็มีเท่านี้ สำหรับเรื่องระหว่างฉันกับเสี่ยวซือ ฉันสามารถแก้ปัญหาได้ด้วยตัวเอง และไม่เคยคิดที่จะให้ใครเข้ามาช่วย ”
เซิ่งอันหรานขมวดคิ้ว คำพูดของเขามีความหมายแอบแฝง
หลินมู่เหยียนแสร้งประชดประชันเธอว่า ผู้คนรอบตัวเธอมักจะเป็นคนช่วยเธอตัดสินใจ ส่วนเธอก็ถูกปิดบังจนไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย
หลังจากที่เส้าซือถูกหลินมู่เหยียนพาตัวออกไป กู้เจ๋อให้เซิ่งอันหรานขึ้นไปพักผ่อน และเขาก็ออกไป โดยทิ้งถานซูจิ้งอยู่เป็นเพื่อนเซิ่งอันหรานในห้องนอน
ทั้งสองนอนเคียงข้างกันบนเตียงมองดูดาวบนท้องฟ้าทางด้านนอกหน้าต่าง
เซิ่งอันหรานเล่าให้ถานซูจิ้งฟังถึงสิ่งที่หลินมู่เหยียนบอกกับเธอ และยังขอให้ถานซูจิ้งยืนยันอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เธอไม่สามารถฟังความจากหลินมู่เหยียนข้างเดียวได้ ใครจะไปรู้ว่าความจริงเป็นอย่างไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน