ในห้องชา ซูเหยียนผู้ช่วยหญิงของอวี้จิ่งซีกำลังชงกาแฟ เนื่องจากเมล็ดกาแฟหมด เธอจึงไปหยิบกาแฟที่ห้องเก็บของ พร้อมกับหยิบชามาเติมด้วย ขณะที่เธอกำลังมองหาเมล็ดกาแฟ จู่ๆก็มีเสียงดังมาจากข้างนอก ฟังจากเสียงน่าจะเป็นเลขาหน้าห้องท่านประธานกำลังคุยโทรศัพท์อยู่
“คุณหมอท่านนั้นถูกผู้ช่วยโจวพาเข้ามา เธอเข้าไปในห้องทำงานของท่านประธานอวี้กว่าหนึ่งชั่วโมง ต่อให้บอกว่าเข้ามาเปลี่ยนผ้าพันแผลมันก็ไม่น่าจะนานขนาดนี้ และประธานอวี้ก็ไม่ยอมให้เลขาเข้ามาไปในห้องด้วย หลังจากนั้นมีคนเข้าไปดู เห็นแก้วน้ำผลไม้หรืออะไรซักอย่างวางอยู่ตรงนั้น อันที่จริงแล้วประธานอวี้เป็นคนเตรียมให้เธอด้วยตัวเอง”
"..."
“คุณจะไม่สนใจเรื่องนี้ไม่ได้ ฉันรู้สึกว่าคุณหมอหญิงคนนี้แตกต่างจากคนทั่วไป ดูเหมือนท่านประธานอวี้จะรู้จักเธอ แม้แต่ผู้ช่วยโจวก็ยังปฏิบัติต่อเธอด้วยความเคารพ”
"..."
เลขาสาวพูดเพียงแค่ไม่กี่ประโยค อาจเป็นเพราะคนที่อยู่ปลายสายอีกด้านหนึ่งรู้สึกหงุดหงิด
ทางด้านนอกห้องชงชา มีเสียงบ่นพึมพรำดังขึ้น "เป็นคนแบบไหนกัน ? ไหนบอกว่าถ้ามีเรื่องอะไรก็ให้โทรไปรายงาน แต่ครั้งนี้พอรายงานไป กลับไม่สนใจ บ้าไปแล้วเหรอ "
ซูเหยียนนั่งยองๆ ในห้องเก็บของ รอให้เลขาหญิงออกไปก่อน เธอจึงหยิบของและเดินออกมา เธอเติมของที่หมดไป จากนั้นก็ชงกาแฟและเดินไปที่ห้องทำงานของอวี้จิ่งซี
ณ คลับความงามในย่านใจกลางเมืองจินหลิง อวี๋เหมิงเพิ่งจะวางสายโทรศัพท์ เธอยื่นมือออกไปให้ช่างช่วยทำเล็บ
เพื่อนข้างๆ เตือนเธอ “เธอไม่สนใจเรื่องนี้จริงๆเหรอ ?เมื่อกี้ฉันได้ยินหมดแล้ว ประธานอวี้แห่งเซิ่งถังกรุปเป็นเหมือนขนมหวานของสาวๆในจินหลิง แม้ว่าเธอจะเอื้อมถึง แต่ถ้าเธอไม่ระวัง อาจจะหลุดมือไปก็ได้นะ แล้วอย่ามาเสียใจทีหลังล่ะ”
อวี๋เหมิงถอนหายใจอย่างไม่แยแส "ฉันสั่งให้คนคอยแอบมองอยู่ อวี้หนานเฉิงไม่ใช่คนที่จะถูกหลอกได้ง่ายๆ ไม่ใช่ผู้หญิงไร้ยางอายที่ไหนก็สามารถจะเข้าหาเขาได้ เพราะฉันเองยังไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนเข้าใกล้เขาได้เลยสักคน "
“เรื่องความชอบกับเซ็กส์ เธอไม่เคยเห็นไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่มี ไม่อย่างนั้น คุณชายน้อยทายาทของเขาจะเกิดมาได้อย่างไร ? ”
“สิ่งที่เธอพูดมันก็ถูก” อวี๋เหมิงเลือบมองเธอ “ผู้หญิงคนนั้นเป็นข้อยกเว้น และเป็นข้อยกเว้นเพียงหนึ่งเดียว”
“ผู้หญิงคนนั้น ? แม่ผู้ให้กำเนิดคุณชายน้อย ?”
“อย่าถามเลย ผู้หญิงคนนั้นไม่สามารถกลับมาที่นี่ได้แล้ว เรื่องมันผ่านไปนานแล้ว”
อวี๋เหมิงดูเหมือนไม่เต็มใจที่จะพูดถึงคนๆนี้ แม้กระทั่งฐานะของเธอ อวี๋เหมิงก็ยังไม่พูดถึงสักคำ เธอเบี่ยงเบนประเด็นและพูดถึงเรื่องอื่น
“อีกสองวันฉันจะไปซื้อของกับเด็กคนนั้น ใกล้จะถึงวันครบรอบวันเกิดของเขาแล้ว ฉันบอกว่าฉันจะซื้อของขวัญให้กับเขา ไม่ว่ายังไงเขาก็ยังเด็กอยู่ และเขาเชื่อฟังคำพูดพ่อของเขาทุกอย่าง เรื่องการออกไปซื้อของครั้งนี้ อวี้หนานเฉิง เป็นคนจัดการวางแผนด้วยตัวเอง แล้วเด็กคนนั้นจะไม่ตกลงได้ยังไง"
"..."
ตอนเที่ยง ในโรงพยาบาลจินหลิง—
เซิ่งอันหรานถือกล่องเก็บความร้อนมาเคาะประตูสำนักงานของฟ่านหลิงชวง
“หัวหน้าฟ่าน ทานอาหารกลางวัน”
“อาหารมื้อกลางวันมาอีกแล้วเหรอ ? เขาไม่ยอมลามือจริงๆ รู้อย่างนี้ไม่น่าให้พวกเธอสองคนไปเจอกันเลย ”
ฟ่านหลิงชวงเงยหน้าขึ้นจากคอมพิวเตอร์ "ฉันไม่กินหรอก เดี๋ยวฉันจะไปที่โรงอาหาร"
เซิ่งอันหรานวางกล่องอาหารกลางวันไว้บนโต๊ะแล้วพูดขึ้นว่า
“ทนายเฉียวเดิมเป็นคนนัดบอดของเธอ และอาหารพวกนี้เขาก็สั่งมาให้เธอ ถ้าฉันมีเวลาฉันก็คงกินไปแล้ว แต่สองสามวันนี้ฉันมีงานต้องทำในตอนเที่ยง ซึ่งเธอก็น่าจะรู้ และฉันก็โทรบอกกับร้านแล้วว่า ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไปให้เขามาส่งที่ห้องทำงานของเธอ "
"ทำแบบนี้คงไม่ดีมั้ง "
“มันไม่ดีตรงไหน เขาไม่ได้มาส่งเองสักหน่อย เขาสั่งอาหารมาจากร้านอาหารข้างนอก พูดง่ายๆ ก็คือสั่งให้คนมาส่ง เขาไม่ได้มาคิดเล็กคิดน้อยเรื่องพวกนี้หรอก จริงไหม ? เธอก็กินๆไปเถอะ อย่าสิ้นเปลืองนักเลย วันนี้เป็นซี่โครงหมูตุ๋น กุ้งผัดถั่วเขียว ซุปไก่ป่าใส่เห็ด”
“จริงเหรอ” ฟานหลิงชวงกลืนน้ำลาย
“ฉันไม่มีเวลาแล้ว ไปก่อนนะหัวหน้า ”
หลังจากวางกล่องอาหารกลางวันลง เซิ่งอันหรานก็เหลือบมองดูเวลา และรีบร้อนออกไป
อาหารของเฉียวเซินเดิมก็มอบให้กับฟ่านหลิงชวงอยู่แล้ว แม้ว่าเธอจะไม่มีธุระอะไร เธอก็ไม่ควรทาน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน