“หม่าม้า หนูนอนหลับนานมากๆใช่ไหม ?”
ก่อนที่เซิ่งอันหรานจะตอบสนอง เซิ่งเสี่ยวซิงได้เดินเข้ามาซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของเธอ
เซิ่งอันหรานลูบศีรษะเธอ เสียงของเซิ่งเสี่ยวซิงเสียงดูเหมือนกำลังพึมพำกับตัวเอง
“ใช่สิ นานมาก หลับไปนานมาก”
เซิ่งเสี่ยวซิงเช็ดน้ำตาอย่างเงียบ ๆ และเช็ดมันกับผ้าคลุมไหล่ของเซิ่งอันหราน เมื่อกี้ราวกับว่าเซิ่งอันหรานเห็นเงาของใครบางคนที่คุ้นเคยกำลังยืนอยู่ตรงนั้น แต่จู่ๆก็หายไปอย่างงุงงง
"หม่าม้า หนูหิวแล้ว "
เซิ่งเสี่ยวซิงสัมผัสที่ท้องของเธอ และยิ้มให้เซิ่งอันหรานอย่างสดใส
“หม่าม้าจะโทรไปบอกป่าป๊าให้พาจิ่งซีกลับมาเดี๋ยวนี้แหละ คืนนี้เราจะทานข้าวเย็นด้วยกัน ลูกอยากทานพร้อมหน้าพร้อมตากันไหม ?”
เซิ่งเสี่ยวซิงยิ้มกว้าง เธอดีใจมาก
ในตอนเย็น โต๊ะอาหารค่ำเต็มไปด้วยอาหารนานาชนิด เนื้อแกะย่าง หม่าล่าถัง และอื่นๆ ที่ เซิ่งเสี่ยวซิงเคยกล่าวถึง อวี้หนานเฉิงให้คนใช้ไปซื้อเข้ามา
เซิ่งเสี่ยวซิงเป็นคนที่มีบุคลิกร่าเริง เมื่อเธอนอนตื่น ดูเหมือนว่าการเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ในครั้งก่อนๆ จะกลายเป็นเรื่องอดีตสำหรับเธอ เธอกินผักคำใหญ่ แก้มทั้งสองของเธอพองขึ้น ตาที่เคยโต ดูเล็กขึ้นในทันที
เซิ่งอันหรานมองเธอ เธอรู้จักเซิ่งเสี่ยวซิงดีที่สุด และรู้ว่าความดื้อรั้นของสาวน้อยมักจะเกิดใหม่ตามอารมณ์ของเธอเอง
“พี่จิ่งซี มองฉันทำไม ?”
เซิ่งเสี่ยวซิงถือเนื้อแกะทั้งชิ้นไว้ในมือสองข้าง ปากของเธอเต็มไปด้วยน้ำมัน พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองอวี้จิ่งซีที่กำลังจ้องเธอด้วยใบหน้าซับซ้อน เมื่อเห็นดังนั้นแล้ว เซิ่งเสี่ยวซิงจึงยื่นมือออกไปหยิบทิชชู่ขึ้นมาเช็ดปาก
อวี้จิ่งซีรีบถอนสายตาของเขาด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ และก้มหน้าก้มตาทานอาหารอย่างตั้งใจ
พี่น้องสองคนในวันนี้ไม่เหมือนเมื่อห้าปีที่แล้วที่มักจะตัวติดหรือหยอกล้อกัน มันกลายเป็นความรู้สึกที่พี่ชายจะต้องมีความรับผิดชอบในฐานะพี่ชายของน้องสาว และมันเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับจิ่งซีซึ่งมีอายุสิบสองขวบ
“หรือว่าเธอไม่ต้องไปโรงเรียนแล้ว ต่อไปให้มาอยู่ที่เซิ่งถัง เดี๋ยวฉันจะคอยดูแลเธอเอง”
อวี้จิ่งซีทานอาหารและแสร้งทำเป็นเมยเฉย เห็นๆอยู่ว่ามันเป็นความตั้งใจ แต่ก็ทำเหมือนไม่จริงจัง
เซิ่งเสี่ยวซิงไม่สามารถต้านทานความอร่อยของเนื้อแกะได้ เธอกัดเนื้อและปฏิเสธอย่างคลุมเครือ
“ฉันไม่สนใจเกี่ยวกับการจัดการเรื่องบริษัทของพี่หรอก ฉันสนใจการเรียนหนังสือมากกว่า ”
อวี้จิ่งซีไม่ยื้อ
“อย่างนั้นฉันจะรับผิดชอบไปรับเธอกลับจากโรงเรียนเอง”
"แต่ว่า --"
“เอาล่ะ ไม่ต้องแต่แล้ว กินเนื้อแกะของเธอไปเถอะ”
ในขณะที่เซิ่งเสี่ยวซิงต้องการจะปฏิเสธอีกครั้ง เธอก็ถูกอวี้จิ่งซีขัดจังหวะ ต่อมา เธอคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องเลวร้ายที่จะมีรถคุ้มกันพิเศษจากพี่ชาย ดังนั้นเธอจึงไม่พูดมากหรือมีท่าทางปฏิเสธอะไร
หลังรับประทานอาหารเย็นเสร็จ เซิ่งเสี่ยวซิงกำลังนอนอยู่บนโซฟาดูทีวีด้วยพุงที่อิ่มแปล้ เธอตะโกนคุยกับเซิ่งอันหรานซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตรงนั้น
“หม่าม้าคะ โทรศัพท์มือถือของหนูถูกซุนซือหลี่โยนทิ้งลงแม่น้ำ พรุ่งนี้ขอโทรศัพท์ใหม่ได้ไหม ?”
"ได้สิ"
เซิ่งอันหรานที่กำลังยุ่งกับการจัดเรียงเอกสารหยุดครู่หนึ่ง และตอบตกลงแบบง่ายๆ เซิ่งเสี่ยวซิงไม่ได้สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติใดๆ เธอเห็นเพียงอวี้จิ่งซีที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟาอีกด้านหนึ่ง เงยหน้าขึ้นจากหน้าจอคอมพิวเตอร์และเหลือบมองมาที่เธอ
“พี่จิ่งซี พี่กำลังทำอะไรอยู่ ?”
เซิ่งเสี่ยวซิงคลานไปหาอวี้จิ่งซี ก่อนที่เธอจะได้เข้าใกล้หน้าจอคอมพิวเตอร์ อวี้จิ่งซีก็ปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ลงทันที "ตึง"
"ซื้อขายหุ้น เธอไม่เข้าใจหรอก"
ลักษณะที่เย่อหยิ่งของเขาเหมือนกับพ่อในทุกประการ เซิ่งเสี่ยวซิงมองตามแผ่นของอวี้จิ่งซี ที่ถือคอมพิวเตอร์และกำลังเดินขึ้นไปที่ชั้นสอง เธออดไม่ได้ที่จะกะพริบและตะโกนบอกกับ เซิ่งอันหราน
"หม่าม้าคะ ไม่รู้ว่าพี่จิ่งซีกำลังมีความรักหรือเปล่า ? "
"ห๊า ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน