วันต่อมาเซิ่งเสี่ยวซิงกระปรี้กระเปร่าตื่นขึ้นมาเตรียมตัวจะไปโรงเรียน เดิมทีเซิ่งอันหรานอยากจะพูดจูงใจให้เธอพักผ่อนสองสามวัน แต่กลัวว่าเธออยู่คนเดียวจะคิดมาก ก็ไม่ได้ขัดขวางเธอ
ทุกคนกินอาหารเช้าเสร็จแล้ว อวี้หนานเฉิงรอให้เซิ่งเสี่ยวซิงกลับไปหยิบกระเป๋านักเรียนที่ห้องเงียบๆ เซิ่งอันหรานเข้าใจความหมายของเขา ในใจก็รู้สึกผ่อนคลาย
ก่อนจะออกไป อวี้หนานเฉิงรับกระเป๋านักเรียนของเซิ่งเสี่ยวซิงมา เสียงสงสัยดังก้องอยู่ในห้องรับแขก
“หลังจากนี้ซิงซิงน้อยเข้าเรียนเป็นหน้าที่ฉัน เลิกเรียนเป็นหน้าที่จิ่งซี”
พูดจบทั้งสองคนก็พาซิงซิงน้อยส่งขึ้นรถเหมือนกับผู้พิทักษ์
ตอนเย็น รถของอวี้จิ่งซีรออยู่หน้าประตูโรงเรียนแล้ว ได้ยินเสียงเลิกเรียน ไม่นานเด็กกลุ่มหนึ่งใบหน้าอ่อนวัยในชุดนักเรียนก็ออกมาจากใน
โรงเรียน อวี้จิ่งซีกำลังเล่นเกมบนแท็บเล็ต เล่นจบสองรอบ ยังไม่ได้ยินเสียงเปิดประตู
ลุงหลิวคนรับขับนำร่างครึ่งหนึ่งโผล่ออกไปนอกหน้าต่างรถ หลังจากรอสักครู่ก็อดไม่ได้ที่จะหันหลังกลับมาอย่างกังวลเล็กน้อย
“คุณชายน้อย ในโรงเรียนใกล้จะไม่มีคนแล้ว ทำไมยังไม่เห็นคุณหนูน้อย คงจะไม่เกิดเรื่องอะไรเถอะ?”
ประโยคนี้พูดจบอวี้จิ่งซีอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว เขาเก็บแท็บเล็ตในขณะที่มือก็ดันประตูรถเปิดออก หลังจากที่ทั้งร่างก้าวออกไปใบหน้าของเขาก็มืดครึ้ม
“ผมจะไปดู”
อวี้จิ่งซีเดินไปตามถนนสายหลักไปยังอาคารของโรงเรียน ในช่วงเวลานี้ มีเด็กผู้หญิงหลายคนที่เดินผ่านและมองเขาเป็นครั้งคราว ถ้าหากเข้าเรียน งั้นตอนนี้เขาก็อยู่มัธยมต้น แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเขาได้ติดตามอวี้หนานเฉิงไปทุกที่ ท่วมตัวมีกลิ่นอายที่ไม่สอดคล้องกับเด็กอายุสิบสองปี
ทางเดินนอกห้องเรียน อวี้จิ่งซีได้ยินเสียงวุ่นวายที่ดังขึ้นจากข้างใน ยังได้ยินคำพูดที่ไม่น่าฟัง นี้ทำให้เขารีบเร่งฝีเท้า
ยืนอยู่หน้าประตูห้องเรียน เห็นเซิ่งเสี่ยวซิงท่วมตัวเต็มไปด้วยน้ำยืนหดตัวอยู่ในมุม บริเวณรอบๆเต็มไปด้วยคราบน้ำ เด็กผู้ชายอ้วนยืนอยู่ข้างหน้า
เด็กผู้ชายอ้วนทิ้งถังน้ำสีแดงในมือลงอย่างอย่างแรง พูดด่าอย่างโหดร้าย“เสแสร้งแกล้งทำ ทำไมเธอถึงไม่ตายอยู่ด้านนอกล่ะ?”
เด็กหญิงตัวสูงผอมบางกางแขนออกและขวางอยู่ตรงหน้าเซิ่งเสี่ยวซิง ใบหน้าผอมเปลี่ยนเป็นสีแดงในตอนนี้ ร่างกายของเธอเอนไปด้านหลังอย่างควบคุมไม่ได้ แต่ก็ยังรวบรวมความกล้าเพื่อปกป้องเซิ่งเสี่ยวซิง
“จังเวยนายอย่าคิดว่าบ้านนายมีเงินก็สามารถรังแกเพื่อนร่วมห้องผู้หญิงได้ ใครไม่รู้ว่านายตามจีบซิงซิงน้อยและจีบไม่ติด ตอนนี้ได้โอกาสมาแก้แค้น!”
จังเวยสบถเสียงเย็นชาออกมา
“อวี๋หลานหลานทำไมทุกที่ต้องมีเธอ ฉันพูดกับซิงซิงน้อยเกี่ยวอะไรกับเธอ?ก็มีแม่แท้ๆที่หน้าไม่อายอย่างเธอ เธอคิดว่าฉันจะชอบเธอไหม กะหรี่ ฝันไปเถอะ!”
เขาพูดจบก็หัวเราะขึ้นมา ทำให้นักเรียนในชั้นเรียนหัวเราะตามเขา
อวี๋หลานหลานได้ยินก็โกรธจนเบ้าตาแดง แต่เธอไม่กล้าลงมือจริงๆ หันกลับไปมองเซิ่งเสี่ยวซิง เธอกำลังนั่งยองๆตัวสั่นเทา กัดฟันจนแทบจะแตกออกมา
“ซิงซิงน้อยใจเย็นหน่อย ไม่ต้องฟังคำพูดไร้สาระของพวกเขา”
อวี๋หลานหลานเห็นสถานการณ์ควบคุมไม่ได้แล้ว ก็รีบกอดเซิ่งเสี่ยวซิงแน่น เกรงว่าเธอจะฮึกเหิมเข้าไป ถึงเวลานั้นก็จะถูกทำร้ายอย่างรุนแรง
เวลาที่อวี๋หลานหลานใกล้จะดึงเซิ่งเสี่ยวซิงไม่ไหว จู่ๆเธอก็ได้ยินเสียงจากได้หลัง ต่อมาเสียงร้องอย่าวน่าเวทนาของจังเวยก็ดังขึ้น
รอจนเธอได้สติกลับมาเห็นจังเวยถูกเทน้ำจนเปียก ถังน้ำสีแดงคลุมอยู่บนหัวของเขา ไม่รอให้เขานำถังน้ำออกมา อวี้จิ่งซีก็กระโดดถีบเขาแล้ว
อวี๋หลานหลานถลึงตา เธอมองเห็นแค่เด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาท่วมตัวเต็มไปด้วยความโกรธต่อยจังเวยจนกลิ้ง นอนลงบนพื้น ตะโกนร้องเรียกพ่อแม่ วินาทีนั้นก็กลัวขึ้นมา
อวี้จิ่งซีลูบหมัดที่แดงเบาๆ ไม่พูดจา เงยหน้าขึ้นกล่าวเตือน นักเรียนตัวน้อยเหล่านั้นบินหายไปราวกับแมลงวัน
เขาหันหน้ากลับไป อดทนไม่ได้ที่จะเห็นเซิ่งเสี่ยวซิงท่าทางแบบนี้
เธอนิสัยซุ่มซ่ามมีความแค้นก็ต้องชำระ ปกติไม่ค่อยถูกคนอื่นรังแก แต่ตอนนี้สถานการณ์ไม่เหมือนกัน ไม่ใช่น้ำเย็นที่ทำให้เธอล้มลง และไม่ใช่หมัดของจังเวยที่เหมือนซาลาเปา แต่คนอายุสิบสองปีไม่เคยพบและไม่มีวิธีจะจินตนาการ ถึงความดุร้ายของมนุษย์
เซิ่งเสี่ยวซิงอายุสิบสองปีไม่สามารถจะยอมรับคำพูดที่ชั่วร้ายทั้งหมดนี้ได้
“เซิ่งเสี่ยวซิง”
อวี้จิ่งซีจ้องมองดวงตาที่ลึกของเธอ น้ำเสียงแทบจะเย็นชา
เซิ่งเสี่ยวซิงเงยดวงตาแดงก่ำขึ้นจากผมที่ยุ่งเหยิง วินาทีที่สบตากับสายตาของอวี้จิ่งซี สายตาที่ดุร้ายจึงค่อยๆผ่อนคลายลง
“กลับบ้านกับพี่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน